ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

Review : Train to Busan

Review : Train to Busan
Score : 8.75/10

"หนังซอมบี้ที่ไม่น่ากลัว แต่ตื่นเต้นระทึกใจจนเบาะแทบขาด"


เรื่องย่อ : ในขณะที่ ซอกวู และลูกสาว ซูอา กำลังขึ้นรถไฟเคทีเอ็กซ์ที่จะพาทั้งสองเดินจากจากกรุงโซลไปยังเมืองปูซานเพื่อเยี่ยมภรรยาเก่าที่ไม่ได้พบกันมานาน แต่เมื่อรถไฟกำลังจะเคลื่อนออกจากชานชาลา สถานีรถไฟกลับถูกฝูงซอมบี้โจมตี คร่าชีวิตคนขับรถไฟและผู้โดยสาร รถไฟเคทีเอ็กซ์มุ่งตรงไปยังปูซานโดยไร้คนขับ ผู้โดยสารทั้งหมดต้องหาทางเอาชีวิตรอดจากฝูงซอมบี้กันด้วยตัวเอง

นานๆทีเราจะได้เห็นหนังซอมบี้ของเอเชีย แต่ปีนี้เราได้สองเรื่องจากสองประเทศกับ I Am A Hero จากประเทศญี่ปุ่น และ Train to Busan จากเกาหลี โดย 2 เรื่องมีโทนเรื่องที่ต่างกันพอสมควรเลย โดย I Am A Hero จะเน้นแอคชั่น ส่วน Train to Busan จะเน้นความระทึกขวัญมากกว่า และเรทจะเบากว่า I Am A Hero พอสมควร

- เนื้อเรื่องเป็นจุดที่ด้อยสุดของเรื่องนี้เลยก็ว่าได้ เพราะว่าค่อนข้างเป็นเนื้อเรื่องที่ตามสูตร พ่อที่ไม่ค่อยสนใจลูก จะพาลูกไปหาแม่ที่ปูซานแล้วก็เกิดเหตุการณ์ซอมบี้ พ่อลูกก็ติดอยู่ในรถไฟกับตัวละครที่ค่อนข้างจะตามสูตรเช่นกัน มีเด็กวัยรุ่น คนท้องกับสามีและตัวละครที่เลวแบบครบสูตร ตัวละครพวกนี้มีสีขาวดำอย่างเห็นได้ชัด แต่ที่หนังต้องการจะทำก็คือเอาความขาวดำของตัวละครเหล่านี้มาชูความเป็นสีเทาของตัวละครหลัก ซึ่งก็ทำได้ดี

- CG เรื่องนี้ทำออกมาได้ในระดับที่ดี ถ้าวัดกันตามระดับของหนังเอเชีย แต่ถ้าเทียบถึง Hollywood ก็ยังไม่ถึงขั้นนั้น บางฉากยังดูชัดว่าใช้ CG อยู่ ทำให้มันดูโดดๆนิดหน่อย

- หนังเรื่องนี้ใช้ซอมบี้แบบชนิดคลาสสิคเลย คือแบบโง่ๆ แต่ว่าวิ่งได้ มันก็น่ากลัวอยู่ แต่ว่าด้วยความที่โง่มากของมัน ทำให้มันทำอะไรไม่ได้มาก หนังก็เลยใช้วิธีว่ายัดปริมาณเข้าสู้ ซึ่งมันก็ได้ผลอยู่มาก เพราะเรื่องส่วนใหญ่อยู่ในสถานที่แคบๆ ไม่มีที่ให้หนี ถึงจะโง่ แต่ก็น่ากลัวเพราะสถานที่มันทำให้ปริมาณมีผลต่อการรอดของตัวละครสูงอยู่

- ที่ชอบเลยก็คือว่าหนังไม่ได้ทำเป็นแอคชั่นแบบสุดโต่ง เน้นเป็นการเอาตัวรอดจริงๆ เพราะในรถไฟแทบไม่มีอาวุธเลย เรื่องนี้เลยไม่ค่อยมีการฆ่าซอมบี้มากนัก จะเน้นเป็นการหนีมากกว่า ซึ่งบวกดนตรีประกอบกับมุมกล้องที่ถ่ายในสถานที่แคบๆแล้ว ทำให้จิกเบาะแทบขาดกันเลยทีเดียว

- ตอนจบเรื่องก็เป็นการจบที่ค่อนข้างช็อคนิดหน่อย เป็นการปิดท้ายเรื่องที่มีความดีใจและเศร้าใจปนกันไปได้อย่างลงตัว

โดยรวมแล้ว Train to Busan ไม่ใช่หนังซอมบี้ที่น่ากลัว ไม่ใช่หนังซอมบี้ที่แอคชั่น ไม่ใช่หนังซอมบี้ที่เลือดสาดจนน่าแหวะ แต่เป็นหนังเขย่าขวัญที่ยอดเยี่ยมมากเรื่องหนึ่ง ที่แฟนๆหนังซอมบี้กับแนว Thriller ไม่ควรพลาดอย่างแน่นอน!

Review By : The Doctor @ T.J. MOVIE REVIEW

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

掟上今日子の備忘録。(Okitegami Kyoko no Biboroku) สมุดบันทึกความทรงจำของ โอคิเตะงามิ เคียวโกะ

            ก่อนจะเริ่มต้นวิจารณ์หรือวิเคราะห์ดีล่ะ เลือกไม่ถูก ถ้างั้นใช้เป็นว่า วิเคราะห์ น่าจะเหมาะสมที่สุดล่ะ ต้องขอบอกก่อนว่า ไม่ได้ตามดูซีรี่ส์จากทางฝั่งญี่ปุ่นมานานมากประมาณเกือบ 3 ปีได้ หลังจากซีรี่ส์ “Ando Lloyd - A.I. Knows Love ?” แล้วช่วงนี้ประจวบเหมาะกับไม่มีอะไรดู (เหรอ ? ) เลยลองมานั่งหาซีรี่ส์จากทางญี่ปุ่นดูบ้าง เปลี่ยนแนวจากที่ปกติเดิมจะดูแต่ซีรี่ส์ภาพยนตร์จากทางอเมริกาซะส่วนใหญ่ และ Okitegami Kyoko no Biboroku. เพื่อนก็แนะนำมาตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วก่อนซีรี่ส์จะจบด้วยซ้ำ (ตอนนั้น ฉายไป 8 ตอน ซีรี่ส์มีทั้งหมด 10 ตอน) เขาดูกันไปจะเกือบปีล่ะ ตัวเองพึ่งจะมานั่งดู หยิบขึ้นมาดูเท่านั้นแหละ กลายเป็นติดใจจนเลิกดูไม่ได้ นั่งดูอยู่บนห้องมันทั้งวันนี่แหละครับ ฮา

Review : Detective Conan EPISODE “ONE”

Review : Detective Conan EPISODE “ONE” Score : 8.5/10 "เสริมเนื้อเรื่องได้ดี ดูเพลิน สนุกมาก ตัวละครมากันพร้อมหน้า ใครที่เป็นแฟนโคนันฟินแน่..." “ยอดนักสืบจิ๋ว โคนัน EPISODE “ONE” กำเนิดยอดนักสืบจิ๋ว” เป็นอนิเมะตอนพิเศษที่นำเอาตอนที่ 1 ของโคนัน มาขยายเรื่องราวเพิ่มขึ้น ว่าตัวละครแต่ล่ะตัว ทำอะไรอยู่ที่ไหนอย่างไรบ้าง และมีเนื้อเรื่องบางส่วนที่ขยายเรื่องราวนอกจากตอนที่ 1 มาด้วย ซึ่งฉายไปเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม ที่ผ่านมาในประเทศญี่ปุ่น และบ้านเราก็ได้เข้าฉายในโรงภาพยนตร์วันที่ 22 ธันวาคม ครับ แต่ก่อนหน้านั้น ก็สามารถชมได้ทาง iFlix ตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม ถือว่า ฉายห่างจากญี่ปุ่นแค่ประมาณ 1-2 อาทิตย์เอง

รวมข่าวทั้งหมดของ "Supergirl Season 2" และสิ้นปีนี้เตรียมพบ Big Event ของ DC Super Heroes ในช่อง The CW

หลังจากช่วงกลางเดือนที่ผ่านมาได้มีการ  ยืนยัน! "Supergirl" ย้ายจากช่อง CBS ไป CW พร้อมทีมนักแสดงกลับมาครบชุด  ก็ได้มีข้อมูลใหม่เพิ่มเติมออกมา พร้อม Teaser อย่างเป็นทางการ ว่าสิ้นปีนี้เตรียมพบกับการเปลี่ยนแปลงของ "Supergirl" โดยการย้ายมาฉายในช่อง The CW นั่นเอง