ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

Review : One Piece Film Gold

Review : One Piece Film Gold
Score : 8.5/10

"ระเบิดความมันกันแบบสุดๆ ครบรส ดราม่า, แอ็คชั่น, คอมเมดี้
คุ้มค่าแก่การรอคอยตลอด 3 ปี"


เรื่องย่อ : จะเล่าถึงกลุ่มโจรสลัดหมวกฟางที่ต้องปะทะกับศัตรูที่ถูกขนานนามว่าเป็นจักรพรรดิทองคำ "กิลด์เตโซโร" บนเรือคาสิโนขนาดมหึมากลางทะเล ซึ่งเป็นพื้นที่ๆ รัฐบาลโลกไม่กล้าแตะต้อง ร่วมลุ้นไปกับเส้นทางการผจญภัยครั้งล่าสุดของลูฟี่และผองเพื่อน สู่บทพิสูจน์การเป็นราชาโจรสลัด ทุกสิ่งที่พวกเขาพยายามปกป้องถูกควบคุมโดยอำนาจและความมั่งคั่ง สู้สุดตัวเท่านั้นถึงจะชนะ


- ด้านเนื้อเรื่อง ไม่แน่ใจว่าต่อกับอนิเมและมังงะรึเปล่า? แต่ดูแล้ว เหมือนเป็นช่วงระหว่างการเดินทางของกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง ที่ได้ไปเจอกับ "กรันเตโซโร" เรือคาสิโนขนาดขนาดมหึมากลางทะเล ที่มีความยาวถึง 10 กิโลเมตร และต้องมาปะทะกับ "กิลด์เตโซโร" โอนเนอร์ของเรือ ที่หมายจะใช้ทองทั้งหมดในการครอบครองโลก

เรื่องราวถือว่าครบรสทั้งดราม่า, แอ็คชั่น และ คอมเมดี้ เลยครับ ด้านดราม่าของตัวละคร "กิลด์เตโซโร" แม้จะมีน้อยแต่สร้างอิมแพคออกมาได้ดี จนแอบอยากจะให้ทำเนื้อเรื่องเสริมออกมามาก เพราะดูแล้ว ยังมีเรื่องราวเบื้องหลังของตัวละครนี้ที่เล่าได้อีกมาก ไม่รู้ว่า จะมีเล่าในมังงะรึเปล่า? หรืออาจจะมีเนื้อเรื่องเสริมพิเศษลงใน Blu-ray ส่วนตัวอยากให้มีจริงๆ นะ นอกจากดราม่าของ "กิลด์เตโซโร" แล้วก็ยังมีดราม่าอดีตของ "นามิ" ด้วย แต่จะเป็นอะไรนั้น รับชมกันเองดีกว่าครับ

ด้านแอ็คชั่น ก็ระเบิดความมันกันตั้งแต่ต้นเรื่องกันเลยครับ ส่วนตัว รู้สึกว่าภาค "Film Z" แอ็คชั่นมันเต็มสูบมากกว่า คงจะเป็นเพราะเซ็ตโต้ ที่เป็นอดีตพลเรือเอกของกองทัพเรือด้วย แต่ภาคนี้ก็ถือว่าแอ็คชั่นมันไม่แพ้กันเลยจริงๆ

ส่วนทางด้านคอมเมดี้ ฮากันตั้งแต่ต้นจนจบเรื่องเลย สงสัยภาค "Film Z" ที่ไปด้านเครียดๆ ซะเยอะ ภาคนี้เลยจัดเต็มความฮากันแบบเต็มที่มาให้เลย ขำกันลั่นโรงเลยทีเดียวครับ

ตัวร้ายประจำภาค "กิลด์เตโซโร" ถือว่า เป็นตัวร้ายที่ต้องจารึกในประวัติศาสตร์ของ "One Piece" เลยครับ เอาจริงๆ จะเรียกว่าตัวร้ายก็ไม่ได้ เพราะที่ทำลงไป ก็ล้วนแต่มีเหตุผลที่ไม่มีใครรู้ว่า ทำไม "กิลด์เตโซโร" ถึงเลือกเดินทางสู่ด้านมืดได้

"เงินแม้จะบันดาลได้ทุกสิ่งทุกอย่าง แต่สิ่งที่บันดาลให้ไม่ได้ก็มีอยู่เช่นเดียวกัน" เป็นสิ่งที่ "One Piece Film Gold" ต้องการจะสื่อในครั้งนี้ โดยผ่านตัวละครที่ทรงพลังและน่าสงสารที่สุด

นอกจากเรื่อง "เงิน" แล้ว อีกสิ่งหนึ่งของเรื่องที่สื่อออกมาก็คือ "มิตรภาพ" ของคนที่มาจากใจจริง โดยไม่ต้องใช้ "เงิน" ในการซื้อ เพราะคนเราล้วนมีขาวและดำ คนบางคนที่เรามี "มิตรภาพ" ด้วย แท้จริงแล้วเขาอาจจะเข้าหาเพราะ "เงิน" แต่บางคนเข้าหาเราจากใจจริง ดังนั้น "มิตรภาพ" ที่มาจากใจจริง เป็นสิ่งที่ควรรักษาเอาไว้ให้ดีที่สุดครับ

โดยภาพรวม ถือว่ายกระดับขึ้นไปอีกขั้นจาก "One Piece Film Z" เมื่อ 3 ปีก่อน แม้ว่า แอ็คชั่นจะดรอปลงมานิดนึงก็ตาม แต่ยังคงความมัน, ฮา และดราม่าแบบสุดๆ ได้เป็นอย่างดี คุ้มค่าแก่การรอคอยจริงๆ ครับ ดังนั้น ใครที่เป็นแฟนของ "One Piece" ไม่ควรพลาด "One Piece Film Gold" โดยเด็ดขาด!!!

ส่วนเสียงพากย์ "กิลด์เตโซโร" ที่ได้ "คุณซันนี่ สุวรรณเมทานนท์" มาให้เสียง ก็ถือว่า ดีกว่าตัวอย่างพอตัวครับ ยังมีติดๆ ขัดๆ บ้างเล็กน้อย แต่ก็ถือว่าดีกว่าที่ได้ยินในตัวอย่างแน่นอนครับ ก็ขอเป็นกำลังใจให้กับคุณซันนี่ กับการพากย์เสียงผลงานชิ้นต่อๆ ไปในอนาคตครับ


เห็นว่า หนังสือการ์ตูน "One Piece" ฉบับพิเศษ 777 จะมีพูดถึงประวัติเบื้องหลังของ "กิลด์เตโซโร" ด้วย ดังนั้น ใครที่อยากรู้เรื่องราวของตัวละครนี้เพิ่ม ก็ต้องซื้อบัตรชมภาพยนตร์ 3 ใบ และจะได้รับหนังสือการ์ตูน 1 เล่มครับ สำหรับในเครือเมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ (อ่านรายละเอียดได้ในรูปภาพ และสาขาที่ร่วมรายการในการแจกหนังสือการ์ตูนฉบับพิเศษ)

สุดท้ายนี้ก็ต้องขอขอบคุณบัตรชมภาพยนตร์รอบพิเศษจากทาง Dream Express [DEX] ที่ได้ให้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่ในนิวเวิลด์ด้วยครับ

"One Piece Film Gold" ระเบิดความมันครั้งยิ่งใหญ่ที่จะสั่นสะเทือนไปทั่วนิวเวิลด์ 
25-31 สิงหาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์ที่ร่วมรายการเท่านั้น

Review By : T.J. @ T.J. MOVIE REVIEW


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ตัวอย่างแรกและนักแสดงทั้งหมดในภาพยนตร์ Saiki Kusuo no Sainan ฉบับ Live Action

หลังจากประกาศสร้างมาตั้งปี 2015 ก็ได้มีการปล่อยตัวอย่างแรกพร้อมเหล่านักแสดงออกมาทั้งหมดแล้ว ตัวอย่างภาพยนตร์ - https://www.youtube.com/watch?v=4tCACKYolrs&t=0s และมีนักแสดงดังต่อไปนี้

掟上今日子の備忘録。(Okitegami Kyoko no Biboroku) สมุดบันทึกความทรงจำของ โอคิเตะงามิ เคียวโกะ

            ก่อนจะเริ่มต้นวิจารณ์หรือวิเคราะห์ดีล่ะ เลือกไม่ถูก ถ้างั้นใช้เป็นว่า วิเคราะห์ น่าจะเหมาะสมที่สุดล่ะ ต้องขอบอกก่อนว่า ไม่ได้ตามดูซีรี่ส์จากทางฝั่งญี่ปุ่นมานานมากประมาณเกือบ 3 ปีได้ หลังจากซีรี่ส์ “Ando Lloyd - A.I. Knows Love ?” แล้วช่วงนี้ประจวบเหมาะกับไม่มีอะไรดู (เหรอ ? ) เลยลองมานั่งหาซีรี่ส์จากทางญี่ปุ่นดูบ้าง เปลี่ยนแนวจากที่ปกติเดิมจะดูแต่ซีรี่ส์ภาพยนตร์จากทางอเมริกาซะส่วนใหญ่ และ Okitegami Kyoko no Biboroku. เพื่อนก็แนะนำมาตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วก่อนซีรี่ส์จะจบด้วยซ้ำ (ตอนนั้น ฉายไป 8 ตอน ซีรี่ส์มีทั้งหมด 10 ตอน) เขาดูกันไปจะเกือบปีล่ะ ตัวเองพึ่งจะมานั่งดู หยิบขึ้นมาดูเท่านั้นแหละ กลายเป็นติดใจจนเลิกดูไม่ได้ นั่งดูอยู่บนห้องมันทั้งวันนี่แหละครับ ฮา

Review : Kung Fu Panda 3

Review : Kung Fu Panda 3 Score : 8/10 "ดูเพลิน สนุก ตลกฮา ปนน่ารักของเหล่าแพนด้า ตอนท้ายซึ้งดี พร้อมออกตามหาตัวตน ว่าเรานั้นเป็นใคร?" เรื่องย่อ : การกลับมาของพ่อแพนด้าของโปที่หายสาบสูญไปเมื่อนานมาแล้ว ทั้งคู่กลับมาร่วมทางกันสู่เมืองลับแลของแพนด้า เพื่อพบกับพวกแพนด้าตัวตลกหน้าใหม่ แต่เมื่อจอมวายร้ายผู้อยู่เหนือธรรมชาติอย่าง ไค เริ่มกวาดล้างประเทศจีนด้วยการเอาชนะจ้าวแห่งกังฟูทั้งหมด โพต้องทำสิ่งเหลือเชื่ออย่างการศึกษาวิธีการฝึกฝนเหล่าพี่น้องจอมเซ่อที่น่ารักของเขา เพื่อให้กลายเป็นเหล่าสุดยอดกังฟูแพนด้า!