ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

Review : Suicide Squad

Review : Suicide Squad
Score : Overview 7/10 & 
Entertain 8/10


“Action จัดเต็ม, CG เก็บรายละเอียดดี, เนื้อเรื่องไม่ต้องง้อ เอามันส์อย่างเดียวพอ
*แนะนำว่า ควรดูแค่ตัวอย่างเดียว ตัวไหนก็ได้ก่อนรับชม เพื่ออรรถรสที่ดีขึ้นในโรงภาพยนตร์”


เรื่องย่อ : "Amanda Waller" หัวหน้าหน่วยงานลับของรัฐบาลที่มีชื่อว่า "A.R.G.U.S" หรือชื่อเต็มว่า "กองกำลังติดอาวุธปฎิวัติการปกครองภายใต้ความลับ" ได้ก่อตั้งหน่วยที่รวบรวมเหล่าวายร้ายในชื่อ "หน่วยเฉพาะกิจพิเศษ X (Task Force X)" มาทำภารกิจพิทักษ์โลก เพื่อแลกกับอิสรภาพของตน

เมื่อช่วงต้นปีว่า “Batman v Superman : Dawn of Justice” (หลังจากนี้ขอเรียกเป็นชื่อย่อ BvS นะครับ) ดูแล้วปวดหัวมากกับเนื้อเรื่องที่ตัดขาดๆ แหว่งๆ ไป รวมไปถึงฉาก Action ที่ไปไม่สุด เรื่องนี้ก็เช่นเดิมครับ เว้นในส่วนของ Action ที่เติมเต็มได้มากกว่า BvS จริงๆ...

- ในส่วนของเนื้อเรื่องก็จะเกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์ BvS ในทันทีเลย ซึ่งแอบดูเหมือนยัดเหยียดเข้ามานิดนึง รวมไปถึงการก่อตั้ง หน่วยเฉพาะกิจพิเศษ X (Task Force X) เมื่อพี่ซุปลาโลก ตามที่ทุกคนในเรื่องเข้าใจและยังไม่รู้ว่าพี่แกยังมีชีวิตอยู่ "Amanda" จึงได้ขอตั้งทีมขึ้นมา เพื่อรับมือกับภัยร้ายหรือคนที่อาจจะเหมือนกับ "Superman" ในอนาคต เดินเรื่องราวเป็นแบบเส้นตรงแด่วมาเลย ไม่มีหักมุม ไม่ซับซ้อนอะไรให้มากความ แต่ก็เรียบๆ แบบแบนราบไปนิดนึงครับ แม้จะมีในส่วนของดราม่าเสริมมาก็ตาม

- ทุกอย่างทุกตัดต่อให้เดินเรื่องไวตลอดจะทั้งเรื่อง และพอจะช้าปุ๊บก็ช้าเลย เรียกได้ว่า ขัดกันแบบสุดๆ มีบางฉากที่รู้สึกเหมือนกับ BvS ว่าจะใส่เข้ามาทำไม? ในช่วงแรก แต่พอดูไปเรื่อยๆ ก็อ๋อ เข้าใจว่าใส่มาทำไม ส่วนตัวรู้สึกว่า มันเหมือนโยนๆ เข้ามา ไม่ค่อยปะติดปะต่อกันเท่าไร ต้องมานั่งต่อเนื้อเรื่องเองเช่นเดียวกับ BvS แต่ถ้ามองในภาพรวมถือว่าสามารถเข้าใจเนื้อเรื่องที่เกิดขึ้นในภาพรวมได้โอเคกว่า BvS เยอะ

- มีการปูทางตัวละครหลักของเรื่องเกือบจะหมดทุกตัวละคร ถือแม้จะรีบๆ ไปนิดนึงแต่ก็ยังดีที่มีปู เพราะไม่งั้นเราก็คงจะไม่รู้ในส่วนพาร์ทดราม่าของแต่ล่ะตัวละครที่ตามมาในเรื่องเป็นช่วงๆ อย่างแน่นอน

- มองในภาพรวม เรื่องราวก็ใส่มาให้เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นเช่นเดียวกับหนัง "TRANSFORMERS" ของ "Michael Bay" หลักๆ จะไประเบิดความมันส์กันที่ Action ของเรื่องมากกว่า แม้ว่าจะไม่ได้มีเยอะมาก และระเบิดตูมตามเท่ากับพี่ Bay แต่สามารถตอบโจทย์คอ Action ได้อย่างที่บอกไปในตอนต้นครับ

- ถ้าให้เรียงลำดับคามเด่นของตัวละครโดยแบ่งเป็น 1-3 (เด่น 1, ปกติ 2, เกือบตัวประกอบ 3) ก็แบ่งได้ตามนี้ครับ “1. Deadshot, Harley Quinn & Rick Flag”, “2. Enchantress, Boomerang, El Diablo, Amanda Waller & Killer Croc” & “3. Katana (แฟนคน Review เอง ///โดนทุบ), Joker & GQ” ส่วนพี่ Slipknot … ไปดูกันเองล่ะกันครับ ฮา

- ส่วนตัวรู้สึกว่า “Joker” แทบจะไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใส่เข้ามาในเนื้อเรื่องเลยแม้แต่น้อย เหมือนพยายามยัดเข้ามาแบบ "Spider-Man" ใน "Captain America : Civil War" หากไม่ใช่การเล่าอดีตของ "Harley Quinn / Dr. Harleen Quinzel" (ตรงนี้ไม่ได้เปิดเผยเนื้อเรื่องนะครับ มีในตัวอย่างอยู่แล้ว)

- นอกจากตัวละครหลักของเรื่องก็ยังมีสมาชิกทีม “Justice League” มาปรากฎตัวด้วย 2 คน อย่างที่รู้ๆ กันอยู่แล้วว่ามี “Batman” ปรากฎตัวแน่นอน แต่อีกคนขอไม่บอกว่าเป็นใคร ขอเก็บไว้ให้ไปรับชมกันเองครับ ซึ่งก็ไม่ได้มีบทบาทอะไรมากมาย และมีผลอะไรต่อเนื้อเรื่องมากนักสักเท่าไร

- การตัดต่อก็คงไม่ต้องพูดอะไรมาก ก็พังแบบเดียวกับ BvS นี่แหละ หลายๆ ฉากที่เห็นในตัวอย่างหายไปเยอะมาก!!! แต่ว่า ดูแล้วเข้าใจ, รู้เรื่องมากกว่า ตามที่ได้เขียนไปแล้วครับ แนะนำว่า ดูตัวอย่างเพียงแค่ตัวเดียว แล้วก็รอบเดียว พวก TV Spot หรือฉากต่างๆ ที่ปล่อยมาเป็น Cut Scene อย่าไปเปิดดู เพื่อความอรรถรสที่ดีในการรับชมครับ

- เพลงลิขสิทธิ์ที่ใช้ในเนื้อเรื่องส่วนตัวรู้สึกว่า ไม่ได้มีความลงตัวกับฉากที่ใช้สักเท่าไร ใช้เป็นเพลงประกอบแบบปกติน่าจะโอเคกว่า ส่วนเพลงประกอบก็โอเคแหละครับ แค่ว่า ไม่ค่อยติดหูหรือทำให้อยากซื้อเก็บหรือกลับไปเปิดฟังสักเท่าไร

- งาน CG ใช้น้อยมาก!!! ทุนสร้าง 175 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนใหญ่ก็คงหมดไปกับค่าตัวนักแสดง ถึงแม้จะใช้ CG น้อย แต่ถือว่าเก็บรายละเอียดทุกอย่างได้ดีมาก ไม่ได้รู้สึกว่ามันไม่เนียนหรือ Fake แบบฉากสู้ของ DC Trinity (Batman, Superman & Wonder Woman) กับ Doomsday ใน BvS แต่ยอมรับว่า Credit Scene สวยมากจริงๆ…

- สำหรับ 3D เรื่องนี้ ไม่แนะนำสักเท่าไรครับ แม้ว่า จะมีฉากที่ถ่ายเพื่อใส่ CG ในภาพให้พุ่งทะลุออก แต่ว่า มันไม่ค่อยพุ่งสักเท่าไร รวมถึงความลึกของภาพก็ไม่ค่อยเห็นสักเท่าไรด้วย ดูแบบ 2D ปกติ ประหยัดเงินสักนิดนึงดีกว่าครับ

ในภาพรวม “Suicide Squad” มาแนวๆ หนังสไตล์ "Michael Bay" เนื้อเรื่องใส่มาให้พอเข้าใจ แล้วไประเบิดกับ Action มันส์ๆ ดีกว่า ในแง่ความบันเทิงให้ 8/10 ถือว่าดีกว่า BvS แต่ถ้ามองในภาพรวมก็ให้ 7/10 น้อยกว่า BvS ฉบับที่ฉายโรงไป 0.5 คะแนน เพราะเนื้อเรื่องแทบไม่มีอะไรเลยจริงๆ เดินเป็นเส้นตรงไปเลย แล้วขอแนะนำอีกรอบนึงว่า ดูตัวอย่างเพียงแค่ตัวเดียวและรอบเดียวพอ อย่าได้ดูอะไรอย่างอื่นอีก เพื่ออรรถรสในการรับชมแบบเต็มสูบครับ

ภาพยนตร์มี Mid-Credit Scene ด้วย เรียกได้ว่า ห้ามพลาดโดยเด็ดขาด เป็นการปูทางสู่ภาพยนตร์ของ DC ในอนาคตต่อไป...

Review By : T.J. @ T.J. Movie Review

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ตัวอย่างแรกและนักแสดงทั้งหมดในภาพยนตร์ Saiki Kusuo no Sainan ฉบับ Live Action

หลังจากประกาศสร้างมาตั้งปี 2015 ก็ได้มีการปล่อยตัวอย่างแรกพร้อมเหล่านักแสดงออกมาทั้งหมดแล้ว ตัวอย่างภาพยนตร์ - https://www.youtube.com/watch?v=4tCACKYolrs&t=0s และมีนักแสดงดังต่อไปนี้

"โกไคเจอร์" กลับมาครบทีม ร่วมฉลองซูเปอร์เซนไตซีรี่ส์ครบ 2,000 ตอน

นับตั้งแต่  "ขบวนการ ห้าจอมพิฆาต โกเรนเจอร์"  ได้ออกฉายตั้งแต่วันที่  4 เมษายน 1975  มาจนถึงขบวนการล่าสุด  "ขบวนการ ราชันย์สรรพสัตว์ จูโอเจอร์"  ซึ่งในวันที่  11 กันยายน  ก็จะฉายครบ  2,000 ตอน พอดี ในตอนที่  28-29   (ฉายวันที่ 4 และ 11 ก.ย.)  จึงได้มีตอนพิเศษขึ้นฉลอง โดยตอนพิเศษทั้ง  2  ตอน จะได้นักแสดงจาก  "ขบวนการ โจรสลัด โกไคเจอร์"  กลับมาแบบครบทีม ในรอบ  3 ปีครึ่ง  หลังจากภาพยนตร์  "ขบวนการ จารชน โกบัสเตอร์ ปะทะ ขบวนการ โจรสลัด โกไคเจอร์ เดอะมูฟวี่"

掟上今日子の備忘録。(Okitegami Kyoko no Biboroku) สมุดบันทึกความทรงจำของ โอคิเตะงามิ เคียวโกะ

            ก่อนจะเริ่มต้นวิจารณ์หรือวิเคราะห์ดีล่ะ เลือกไม่ถูก ถ้างั้นใช้เป็นว่า วิเคราะห์ น่าจะเหมาะสมที่สุดล่ะ ต้องขอบอกก่อนว่า ไม่ได้ตามดูซีรี่ส์จากทางฝั่งญี่ปุ่นมานานมากประมาณเกือบ 3 ปีได้ หลังจากซีรี่ส์ “Ando Lloyd - A.I. Knows Love ?” แล้วช่วงนี้ประจวบเหมาะกับไม่มีอะไรดู (เหรอ ? ) เลยลองมานั่งหาซีรี่ส์จากทางญี่ปุ่นดูบ้าง เปลี่ยนแนวจากที่ปกติเดิมจะดูแต่ซีรี่ส์ภาพยนตร์จากทางอเมริกาซะส่วนใหญ่ และ Okitegami Kyoko no Biboroku. เพื่อนก็แนะนำมาตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วก่อนซีรี่ส์จะจบด้วยซ้ำ (ตอนนั้น ฉายไป 8 ตอน ซีรี่ส์มีทั้งหมด 10 ตอน) เขาดูกันไปจะเกือบปีล่ะ ตัวเองพึ่งจะมานั่งดู หยิบขึ้นมาดูเท่านั้นแหละ กลายเป็นติดใจจนเลิกดูไม่ได้ นั่งดูอยู่บนห้องมันทั้งวันนี่แหละครับ ฮา