ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

Review : PASSENGERS

Review : PASSENGERS
Score : 8/10 (Entertain) 7/10 (ALL)

"สนุก ดูเพลิน งานภาพสวยมาก 4DX คุ้ม เหมือนเล่นเครื่องเล่นในสวนสนุก"


เรื่องย่อ : ระหว่างการเดินทางไปยัง โฮมสตีท 2 อนานิคมใหม่ของมนุษย์ ซึ่งต้องใช้เวลาเดินทาง 120 ปี กระสวยจำศีลของ จิม และ ออโรร่า เปิดขึ้นมาก่อนเวลาที่จะไปถึง 90 ปี ทำให้ทั้ง 2 ต้องไขปริศนาเบื้องหลังความผิดพลาดครั้งนี้เมื่อยานอวกาศของพวกเขามีทีท่าว่ากำลังจะพัง ทำให้ชีวิตของผู้โดยสารที่กำลังอยู่ระหว่างการอพยพครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติต้องตกอยู่ในอันตราย

- ด้านเนื้อเรื่อง มาถึงก็เข้าเรื่องเลยครับ ไม่ต้องมีอินโทรอะไรมากมาย จะใช้เป็นตัวอักษรขึ้น สรุปข้อมูลที่ควรรู้คร่าวๆ ให้ทั้งหมด จากนั้นก็เล่าเรื่องราว ที่เป็นส่วนวิกฤตของยาน Avalon ทันที และมีอีกประเด็นนึงที่ไม่ขอบอก เพราะจะสปอยล์เนื้อเรื่อง ซึ่งในภาพรวมทั้งหมดก็ถือว่า ดูได้เพลินๆ สบายๆ ครับ

- หลายๆ ส่วนในหนัง สามารถเดาได้ง่ายๆ และพล็อตก็คล้ายๆ หลายๆ เรื่องเช่นกัน แต่ก็เอามาโยงจนเป็นเรื่องใหม่ได้ ดูแล้วอาจจะจำเจ แต่ต้องยกให้กับ "Chris Pratt & Jennifer Lawrence" ที่ประคับประคองหนังไปได้จนถึงฝั่ง

- เนื้อเรื่องมีมุกแทรกมาเป็นช่วง ให้หนังดูไม่น่าเบื่อ ซึ่งจบออกมาก็จำมุกอะไรไม่ได้เลย มันดูเพลินๆ จริง จำได้แค่มุกเดียวคือมุก สเปซ นี่แหละครับ น่าจะเอาใช้จีบสาวได้นะ ฮา

- CG ต้องยอมรับว่าสวยจริง แอบนึกถึงตอนดู Jupiter Ascending เบาๆ สำหรับฉากในห้วงอวกาศ แล้วก็ Prop ประกอบฉาก ทุกอย่างดูมีความทันสมัย สะดวกสบาย สมกับเป็นอุปกรณ์, เครื่องใช้ต่างๆ ในอนาคตจริงๆ ดูแล้วก็สบายตาและเป็นบรรยากาศในยานที่โอเค ให้ความรู้สึกสบายจริงๆ ครับ

- แอบมานั่งนึกว่า ถ้า "Keanu Reeves กับ Emily Blunt" เล่น จะเป็นยังไง? คงเป็นคู่ Passengers สายทึกแน่ๆ เพราะตั้งแต่แรก ทั้ง 2 คน ถูกวางตัวเอาไว้ให้เล่นเรื่องนี้อยู่แล้ว น่าจะได้เห็นสายทึกแน่ๆ ครับ ถ้ามาจริง ฮา~

- เพลงประกอบได้ "Thomas Newman" จาก "Skyfall, Spectre & Bridge of Spies" มาประพันธ์เพลงประกอบให้ ซึ่งก็ถือว่าโอเคเลยครับ ช่วยบิ้วท์อารมณ์ให้กับเรื่องได้ดี ฟังแล้วเพลินๆ สบายๆ มีกดอารมณ์ความรู้สึกไปช่วงนึงด้วย ตอนแก้ปัญหาวิกฤตยานนี่แบบ นึกว่าฟังเพลงของ James Bond จังหวะนี่ได้เลยครับ

- หนังแทบจะทุกเรื่องจะต้องมีสิ่งที่ต้องการสื่อแฝงเอาไว้ ซึ่งเรื่องนี้ก็มีเหมือนกัน ไม่ได้แค่ดูเพลินอย่างเดียว...

อย่างแรกเลยก็คือ "การอยู่ตัวคนเดียว สามารถทำในสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะทำได้ แต่จะเป็นด้านบวกหรือลบ ก็ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมที่จะผลักดันเราด้วย" และอย่างที่ 2 "อย่ามัวแต่เสียเวลา หาจุดที่เราอยากจะอยู่ จนลืมสิ่งที่เราอยู่ในปัจจุบัน (ไม่แน่ใจว่า คำพูดเป๊ะหรือไม่นะครับ)"

ทั้ง 2 ส่วนนี้ จะปรากฎให้เห็นในเรื่องแบบควบคู่กันไปนิดๆ ในช่วงแรก แต่ช่วงหลังจะควบคู่แบบขนานกันไปเลย ซึ่งจะถ่ายทอดผ่านตัวละครของ Jim ที่เป็นตัวละครหลักมากกว่า Aurora

4DX เรื่องนี้ ถือว่าคุ้มค่าในระดับนึงครับ เก้าอี้เขย่าและหมุนมันส์พอตัว Effect น้ำกับลมนี่มาเต็ม จนเกือบจะต้องถอดแว่นออกมาเช็ดกันเลยทีเดียว กลิ่นก็มาด้วยเช่นเดียวกัน มากันแทบจะทุก Effect ที่ระบบนี้จะมีให้จริงๆ ครับ

โดยภาพรวม Passengers อาจจะไม่ได้ดีอะไรมากมาย แต่ก็สามารถดูได้เพลินๆ ฆ่าเวลา แล้วก็งานภาพสวยมาก อันนี้ต้องยอมเลยจริงๆ ครับ
"Passengers : คู่โดยสารพันล้านไมล์" 
พร้อมออกเดินทาง 22 ธันวาคมนี้ ในระบบปกติ, REALD 3D & 4DX

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ตัวอย่างแรกและนักแสดงทั้งหมดในภาพยนตร์ Saiki Kusuo no Sainan ฉบับ Live Action

หลังจากประกาศสร้างมาตั้งปี 2015 ก็ได้มีการปล่อยตัวอย่างแรกพร้อมเหล่านักแสดงออกมาทั้งหมดแล้ว ตัวอย่างภาพยนตร์ - https://www.youtube.com/watch?v=4tCACKYolrs&t=0s และมีนักแสดงดังต่อไปนี้

"โกไคเจอร์" กลับมาครบทีม ร่วมฉลองซูเปอร์เซนไตซีรี่ส์ครบ 2,000 ตอน

นับตั้งแต่  "ขบวนการ ห้าจอมพิฆาต โกเรนเจอร์"  ได้ออกฉายตั้งแต่วันที่  4 เมษายน 1975  มาจนถึงขบวนการล่าสุด  "ขบวนการ ราชันย์สรรพสัตว์ จูโอเจอร์"  ซึ่งในวันที่  11 กันยายน  ก็จะฉายครบ  2,000 ตอน พอดี ในตอนที่  28-29   (ฉายวันที่ 4 และ 11 ก.ย.)  จึงได้มีตอนพิเศษขึ้นฉลอง โดยตอนพิเศษทั้ง  2  ตอน จะได้นักแสดงจาก  "ขบวนการ โจรสลัด โกไคเจอร์"  กลับมาแบบครบทีม ในรอบ  3 ปีครึ่ง  หลังจากภาพยนตร์  "ขบวนการ จารชน โกบัสเตอร์ ปะทะ ขบวนการ โจรสลัด โกไคเจอร์ เดอะมูฟวี่"

掟上今日子の備忘録。(Okitegami Kyoko no Biboroku) สมุดบันทึกความทรงจำของ โอคิเตะงามิ เคียวโกะ

            ก่อนจะเริ่มต้นวิจารณ์หรือวิเคราะห์ดีล่ะ เลือกไม่ถูก ถ้างั้นใช้เป็นว่า วิเคราะห์ น่าจะเหมาะสมที่สุดล่ะ ต้องขอบอกก่อนว่า ไม่ได้ตามดูซีรี่ส์จากทางฝั่งญี่ปุ่นมานานมากประมาณเกือบ 3 ปีได้ หลังจากซีรี่ส์ “Ando Lloyd - A.I. Knows Love ?” แล้วช่วงนี้ประจวบเหมาะกับไม่มีอะไรดู (เหรอ ? ) เลยลองมานั่งหาซีรี่ส์จากทางญี่ปุ่นดูบ้าง เปลี่ยนแนวจากที่ปกติเดิมจะดูแต่ซีรี่ส์ภาพยนตร์จากทางอเมริกาซะส่วนใหญ่ และ Okitegami Kyoko no Biboroku. เพื่อนก็แนะนำมาตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วก่อนซีรี่ส์จะจบด้วยซ้ำ (ตอนนั้น ฉายไป 8 ตอน ซีรี่ส์มีทั้งหมด 10 ตอน) เขาดูกันไปจะเกือบปีล่ะ ตัวเองพึ่งจะมานั่งดู หยิบขึ้นมาดูเท่านั้นแหละ กลายเป็นติดใจจนเลิกดูไม่ได้ นั่งดูอยู่บนห้องมันทั้งวันนี่แหละครับ ฮา