ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

Review : Heroes v Aliens - The 4 Night Crossover Event - Supergirl, The Flash, Arrow & DC's Legends of Tomorrow

Review : Heroes v Aliens : The 4 Night Crossover Event
Score : 8.5/10 (Entertain) 7.5/10 (All)

“การรวมทีมครั้งยิ่งใหญ่ของฮีโร่ DCCW ที่อาจจะไม่ได้ดีที่สุด
แต่ก็มอบความบันเทิงได้ในระดับนึงเลยทีเดียว”


- นับเป็นปีที่ 3 แล้ว ที่ DC Super Heroes Series ได้มา Crossover กัน ตั้งแต่ “The Flash VS Arrow, Heroes Join Forces” มาจนถึง “Heroes v Aliens” ซึ่งในปีนี้ ก็ได้ 2 ซีรี่ส์ น้องใหม่มาร่วม Crossover กันด้วย นั่นก็คือ “Supergirl” ที่ย้ายจากช่อง CBS มาฉายช่อง The CW ซึ่งก่อนหน้านั้นก็ได้ Crossover กับ “The Flash” ไปใน Season 1 ตอนที่ 18 และ “DC’s Legends of Tomorrow” ที่การ Crossover เมื่อปีที่แล้ว เป็นการเปิดเนื้อเรื่องสู่ซีรี่ส์แยกของตัวเอง แต่ในที่สุดปีนี้ก็ได้มารวมกันสักที ภายใต้การ Crossover ที่ใช้ชื่อตอนว่า “Invasion (ผู้รุกราน)”


- สำหรับในปีนี้ เหล่าฮีโร่และตัวละครที่เกี่ยวข้องประมาณ 20 ชีวิตได้มารวมทีมกันต่อสู้กับวายร้ายที่มาจากนอกโลก ซึ่งมีนามว่า “Dominator (โดมิเนเตอร์)” ที่มีเป้าหมายจะกำจัดเหล่า Meta-Human ให้สิ้นซาก จึงต้องเกิดการร่วมทีมครั้งนี้ขึ้นมา

- ด้านเนื้อเรื่อง ก็ถือว่า แบ่งแยกการเล่าเรื่องไปตามแต่ล่ะซีรี่ส์ แต่มีการเอาตัวละครของซีรี่ส์อื่นๆ ไปช่วยเหลือกันในเรื่องราวที่เกิดขึ้น ส่วน “Supergirl” ที่ถูกดึงตัวมาช่วยจากต่างมิติ ในซีรี่ส์ก็จะมีเพียงแค่การปูทางเฉยๆ เพื่อเข้าสู่เรื่องราวจริงๆ โดยเรื่องจากซีรี่ส์ “The Flash” สปีดเตอร์ผู้สร้างความวุ่นวายทางกาลเวลา หรือ “Flashpoint” ขึ้นมานั่นเอง…

- ในส่วนของทาง “The Flash” จะเป็นการเล่าเรื่องปูทางถึงที่มาของ “Dominator” ให้ทุกคนได้รู้กันว่า เอเลี่ยนตัวนี้มีที่มายังไงกันแน่? แล้วก็ปัญหาที่เกิดขึ้นจากทางซีรี่ส์ของ “The Flash” ตัวเหตุการณ์ “Flashpoint” ก็จะส่งผลถึงทุกคนในตอนนี้ด้วยเล็กน้อยครับ และก็มีการต่อสู้กันนิดหน่อยในช่วงท้ายเรื่อง ซึ่งใครที่อยากจะเห็นเหล่าฮีโร่ตีกันเองเหมือนกับตอน “The Flash VS Arrow” ในการ Crossover ครั้งแรก ครั้งนี้ก็จะได้เห็นกันอีกครั้งนึงครับ

- ทางฝั่งของ “Arrow” เนื่องด้วยเป็นการฉลองครบรอบ 100 ตอนของซีรี่ส์นี้พอดี ก็มีการนำตัวละครเก่าที่ล้วนจากไปแล้วกันในซีซั่นก่อนๆ กลับมาให้แฟนๆ ได้เห็นกันชื่นใจอีกครั้ง ซึ่งก็ใช้เวลาไปทั้งเรื่องเลยทีเดียว และก็จะมีเรื่องราวที่พูดถึงต่อจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากในซีรี่ส์ “The Flash” ด้วย ตรงนี้แอบกลายเป็นส่วนน้อยของเรื่องที่ถูกเล่า แต่เนื้อเรื่องตรงส่วนนี้ก็ส่งไม้ต่อไปให้ยังซีรี่ส์ “DC’s Legends of Tomorrow” รับช่วงต่อ

- “DC’s Legends of Tomorrow” หนังมี 3 องก์ ในการเล่าเรื่อง สำหรับตอน Crossover นี่ก็คือองก์ที่ 3 ที่ถึงเวลาเปิดการต่อสู้กับเหล่า “Dominator” กันสักที โดยเรื่องราวก็จะเดินเรื่องตามสไตล์ของ “DC’s Legends of Tomorrow” ที่ต้องมีการย้อนอดีต เพื่อไปจัดการบางอย่างและให้อนาคตเปลี่ยนไป แต่ทำโดยระมัดระวังสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับไทม์ไลน์มากที่สุด และในช่วงปัจจุบัน ก็คือการเปิดศึกกับ “Dominator” กันนั่นเอง


- การเล่าเรื่องของแต่ล่ะซีรี่ส์ก็ถือว่ามีการส่งไม้ต่อในการเล่าเรื่องได้เป็นอย่างดี แต่ว่า ก็จะมีข้อบกพร่องที่บางจุดพอจะเห็นได้ชัดเลย อย่างแรกก็คือ “Supergirl” เหมือนเป็นการดึงมาใส่ให้รู้ว่า ตอนนี้ สามารถเดินทางข้ามโลกกันได้แล้วนะ แล้วจะดึง “Supergirl” มาร่วมทีมเมื่อไรก็ได้ เพราะตอนจบของการ Crossover ซิสโก้ได้ทำอุปกรณ์เปิดประตูมิติให้ คราวนี้แหละ เจอกันง่ายขึ้นแน่นอน ซึ่งในช่วงประมาณตอนที่ 13 หรือ 14 ก็จะมีการ Crossover ของซีรี่ส์ “Supergirl & The Flash” อีกรอบนึง โดยจะเป็น Musical Crossover ครับ แต่ก็พอจะเข้าใจอยู่ว่า เป็นน้องใหม่ที่มาจากต่างโลก ก็คงต้องใช้เวลาในการปรับตัวเข้ากับทีมฮีโร่ Earth-1 พอสมควร

จุดที่ 2 เนื้อเรื่องในแต่ล่ะพาร์ท ถึงแม้การส่งไม้ต่อในการเล่าเรื่องจะเป็นไปได้ด้วยดี แต่สิ่งที่รู้สึกอย่างเห็นได้ชัดเลยก็คือ มันดูกึ่งๆ เป็นการ Crossover และไม่ใช่การ Crossover พอตัว เพราะเมื่อซีรี่ส์ไหนที่เป็นตัวเดินเรื่อง ซีรี่ส์นั้นก็จะเด่นขึ้นมาแบบเห็นได้ชัดเลย แล้วตัวละครอื่นที่ไม่ใช่ตัวละครหลักของซีรี่ส์นั้น ก็จะถูกลดบทบาทลงไปโดยปริยาย เห็นง่ายๆ ก็คือน้องใหม่อย่าง “Supergirl” นี่แหละ ที่พร้อมจะถูกลืมได้ทุกเมื่อเลยจริงๆ

จริงๆ ก็ยังพอมีอีก แต่ก็พอจะเข้าใจว่า เมื่อรวมตัวละครมากขึ้น ก็ต้องแบกรับเรื่องการกระจายบทด้วย ซึ่งถ้ามองลึกลงไปก็มีปัญหาอยย่างที่บอกไป  แต่ถ้าดูโดยไม่คิดอะไรมาก ก็จะสนุกในระดับนึงเลยจริงๆ ครับ เหล่าฮีโร่ 11+1 คน (Firestorm 2 คนรวมกัน) ได้มาต่อสู้ร่วมกัน นี่มัน “Justice League” ฉบับซีรี่ส์ชัดๆ


- สำหรับด้าน Action โปรดักชั่นระดับซีรี่ส์อาจจะทำสู้ระดับหนังไม่ได้ เพราะทางนั้นเขาทุนสูงกว่าและมีเวลาทำมากกว่า แต่ส่วนตัวไม่ได้รู้สึกว่ามันแย่ แต่นี่แหละคือการต่อสู้แบบฉบับของซีรี่ส์ที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง โม้ไม่สุดเพราะโปรดักชั่นไม่ถึงแล้วไง แต่ยังไงก็โคตรมันส์อยู่ดี ฉากที่ชอบที่สุดจริงๆ ถามว่าคือฉากไหน ต้องบอกว่า ไม่ใช่ฉากตอนท้ายที่ทุกคนมาร่วมทีมสู้ด้วยกัน แต่มันคือฉากที่ ตัวละครจากทีม Arrow ทั้ง 3+2 (เพราะอีก 2 คนย้ายไปอยู่ทีม Legends แล้ว) ต้องหลบหนีออกจากยานแม่ของ “Dominator” เป็นฉากที่มันส์ที่สุดแล้วจริงๆ ครับ

โดยภาพรวม อาจจะไม่ใช่การ Crossover ที่สุด มีโดดๆ ไปบ้าง อะไรบ้าง แต่ก็สามารถมอบความบันเทิงให้กับแฟนๆ DC ได้ไม่แพ้กับการ Crossover 2 ครั้งก่อนหน้าเลยครับ ใครที่เป็นแฟนๆ ของทั้ง 4 ซีรี่ส์ก็อย่าลืมดูกันนะครับ

ถามว่า สำหรับคนที่ไม่ได้ตามทั้ง 4 ซีรี่ส์นี้มาเลย แล้วดูแค่เฉพาะตอน Crossover โดยไม่ดูตอนก่อนหน้าแล้วจะรู้เรื่องไหม? รู้แค่ว่า “The Flash” ได้ไปป่วนเวลาหรือที่เรียกว่า “Flashpoint” แค่นี้ก็เพียงพอแล้วครับ เพราะในตอนของ “The Flash” จะมีพูดถึงเหตุการณ์นี้เล็กน้อยครับ แล้วก็ตอนของ “Supergirl” ไม่ต้องดูก็ได้ เพราะกว่าพี่แบร์จะไปรับตัวมาก็ช่วง 40 วินาทีสุดท้ายก่อนจบ และในตอนของ “The Flash” ก็จะมีการเล่าเรื่องราวอยู่แล้วครับ

Review By : T.J. @ T.J. MOVIE REVIEW

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

掟上今日子の備忘録。(Okitegami Kyoko no Biboroku) สมุดบันทึกความทรงจำของ โอคิเตะงามิ เคียวโกะ

            ก่อนจะเริ่มต้นวิจารณ์หรือวิเคราะห์ดีล่ะ เลือกไม่ถูก ถ้างั้นใช้เป็นว่า วิเคราะห์ น่าจะเหมาะสมที่สุดล่ะ ต้องขอบอกก่อนว่า ไม่ได้ตามดูซีรี่ส์จากทางฝั่งญี่ปุ่นมานานมากประมาณเกือบ 3 ปีได้ หลังจากซีรี่ส์ “Ando Lloyd - A.I. Knows Love ?” แล้วช่วงนี้ประจวบเหมาะกับไม่มีอะไรดู (เหรอ ? ) เลยลองมานั่งหาซีรี่ส์จากทางญี่ปุ่นดูบ้าง เปลี่ยนแนวจากที่ปกติเดิมจะดูแต่ซีรี่ส์ภาพยนตร์จากทางอเมริกาซะส่วนใหญ่ และ Okitegami Kyoko no Biboroku. เพื่อนก็แนะนำมาตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วก่อนซีรี่ส์จะจบด้วยซ้ำ (ตอนนั้น ฉายไป 8 ตอน ซีรี่ส์มีทั้งหมด 10 ตอน) เขาดูกันไปจะเกือบปีล่ะ ตัวเองพึ่งจะมานั่งดู หยิบขึ้นมาดูเท่านั้นแหละ กลายเป็นติดใจจนเลิกดูไม่ได้ นั่งดูอยู่บนห้องมันทั้งวันนี่แหละครับ ฮา

Review : Detective Conan EPISODE “ONE”

Review : Detective Conan EPISODE “ONE” Score : 8.5/10 "เสริมเนื้อเรื่องได้ดี ดูเพลิน สนุกมาก ตัวละครมากันพร้อมหน้า ใครที่เป็นแฟนโคนันฟินแน่..." “ยอดนักสืบจิ๋ว โคนัน EPISODE “ONE” กำเนิดยอดนักสืบจิ๋ว” เป็นอนิเมะตอนพิเศษที่นำเอาตอนที่ 1 ของโคนัน มาขยายเรื่องราวเพิ่มขึ้น ว่าตัวละครแต่ล่ะตัว ทำอะไรอยู่ที่ไหนอย่างไรบ้าง และมีเนื้อเรื่องบางส่วนที่ขยายเรื่องราวนอกจากตอนที่ 1 มาด้วย ซึ่งฉายไปเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม ที่ผ่านมาในประเทศญี่ปุ่น และบ้านเราก็ได้เข้าฉายในโรงภาพยนตร์วันที่ 22 ธันวาคม ครับ แต่ก่อนหน้านั้น ก็สามารถชมได้ทาง iFlix ตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม ถือว่า ฉายห่างจากญี่ปุ่นแค่ประมาณ 1-2 อาทิตย์เอง

รวมข่าวทั้งหมดของ "Supergirl Season 2" และสิ้นปีนี้เตรียมพบ Big Event ของ DC Super Heroes ในช่อง The CW

หลังจากช่วงกลางเดือนที่ผ่านมาได้มีการ  ยืนยัน! "Supergirl" ย้ายจากช่อง CBS ไป CW พร้อมทีมนักแสดงกลับมาครบชุด  ก็ได้มีข้อมูลใหม่เพิ่มเติมออกมา พร้อม Teaser อย่างเป็นทางการ ว่าสิ้นปีนี้เตรียมพบกับการเปลี่ยนแปลงของ "Supergirl" โดยการย้ายมาฉายในช่อง The CW นั่นเอง