ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

Review : New Year's Gift (พรจากฟ้า)

Review : New Year's Gift (พรจากฟ้า)
Score : 10/10


"ดนตรีช่วยปรุงแต่ง และสอดประสานความรัก, ดนตรีช่วยเยียวยาจิตใจ,
ดนตรีช่วยหลอมรวมทุกคนเป็นหนึ่งเดียวกัน
ชอบมาก หนังดีที่ดูแล้วอบอุ่นหัวใจ ผสมผสานความโรแมนติค, ดราม่า, คอมเมดี้
และบทเพลงพระราชนิพนธ์ได้อย่างลงตัว"


เรื่องย่อ : ภาพยนตร์รักแห่งปีจาก GDH เล่าเรื่องราวความรักของคู่รัก 3 คู่ ที่มอบของขวัญให้กันและกันด้วย 3 บทเพลงพระราชนิพนธ์ อันได้แก่ เพลงยามเย็น, เพลง Still on My Mind และ เพลงพรปีใหม่


- ตอนแรกนึกว่าเนื้อเรื่องจะแบ่งพาร์ทไปเลย แต่ล่ะพาร์ทจบไปในตัว ไม่ได้เชื่อมต่อกัน พอเข้าไปดูจริงๆ แล้ว มันก็กึ่งๆ แยกพาร์ท แต่ก็มีจุดเชื่อมให้ทุกอย่างมันร้อยเรียงเข้าด้วยกันได้หมดเลย เป็นอะไรที่ชอบมาก

- สำหรับเนื้อเรื่องที่บอกว่าแบ่งเป็นพาร์ท ก็จะแบ่งเป็นเรื่องของ "บีม กับ แป้ง, เอ กับ ฟา และ หลง กับ คิม" ซึ่ง 3 เซ็ตตัวละคร จะมีเรื่องราวเป็นของตัวเอง

โดย "บีม กับ แป้ง" จะเป็นในส่วนเรื่องราวโรแมนติค ตามคำโปรยที่ว่า "ดนตรี คือของขวัญแรกพบ" ซึ่ง ดนตรีช่วยปรุงแต่ง และสอดประสานความรัก ของคู่นี้ได้เป็นอย่างดีเลยครับ, เรื่องราวของ "เอ กับ ฟา" จะเป็นในส่วนของดราม่า "ดนตรี คือของขวัญแห่งกำลังใจ" ดนตรีได้เข้าไปช่วยเยียวยาจิตใจผู้ป่วยและผู้ดูแล ตามเนื้อเรื่องที่ได้สื่อออกมา และเนื้อเรื่องของ "หลง กับ คิม" จะเป็นในส่วนของคอมเมดี้ "ดนตรี คือของขวัญแห่งความสุข" ถ่ายถอดออกมาในรูปแบบของ ดนตรีช่วยหลอมรวมทุกคนเป็นหนึ่งเดียวกัน ซึ่งเสียงเพลงมันมีอยู่นตัวทุกคนอยู่แล้ว แค่ว่า เราจะถ่ายทอดออกมาในรูปแบบไหนเท่านั้นเอง?


- เรื่องราวทั้ง 3 ต่างมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ในส่วนที่โรแมนติค ดูแล้วก็น่ารักกุ๊กกิ๊ก ทำแต้มกันแบบรัวๆ ในส่วนของดราม่า ก็ดราม่ากันน้ำตาซึม ในส่วนของคอมเมดี้ ก็ขำกันรัวๆ ซึ่งใน 3 ส่วนก็ผสมกันด้วยมุกเสี่ยวๆ ที่ดูแล้ว จะเสี่ยวไปไหน รวมไปถึงทั้ง 3 เรื่องยังมีจุดเชื่อมกัน ในแบบที่ไม่คิดว่า พี่เชื่อมกันงี้เลยเหรอ? แต่ยอมรับว่า เชื่อมกันได้ดีและลงตัวกันสนิทเลย ไม่ได้แย่อะไรเลยแม้แต่หน่อยครับ

แล้วก็ยังผสมผสานกับเพลงพระราชนิพนธ์ทั้ง 3 "ยามเย็น, Still on The Mind & พรปีใหม่" ได้เป็นอย่างดี สื่อตามที่ผู้สร้างต้องการได้ก็คือ การนำเพลงทั้ง 3 มาสร้างเป็นเรื่องราว ที่เกิดขึ้นในเรื่องนี้นั่นเอง!!!

- เพลงทั้ง 3 มีเพลงยามเย็น เพลงเดียวที่มีคนร้อง โดยมี วี ไวโอเล็ต เป็นนักร้องนำ ในการประสานเสียงครับ ในส่วนของ "Still on The Mind & พรปีใหม่" จะเป็นเพลงบรรเลงอย่างเดียว ซึ่งทั้ง 3 เพลง ก็ได้ Re-Mix ขึ้นมา เป็นเพลงสำหรับภาพยนตร์ "พรจากฟ้า"


- สำหรับด้านนักแสดงทุกคนต่างเติมเต็มบทที่ได้รับมาได้ดีมาก "เต๋อ กับ หนูนา" ก็สายฮากันทั้งคู่ "มิว กับ ซันนี่" ก็เอาคนที่แสดงด้านดราม่าเก่งกับคอมเมดี้เก่ง มาอยู่ด้วยกัน แล้วผสมผสานเข้าไปด้วยกันได้อย่างลงตัว "นาย กับ วี" ดูแล้วอารมณ์ยังโดดๆ นิดนึง แต่ความโดดของทั้งคู่ กลับกลายเป็นดูแล้ว น่ารักอย่างบอกไม่ถูกเลยครับ

- ถ้าแบ่งคะแนนเป็นพาร์ท เนื้อเรื่องของ "บีม กับ แป้ง" 9/10, "เอ กับ ฟา" 9.5/10 และ "หลง กับ คิม" 9.25/10 แต่โดยภาพรวมทั้งหมดที่ให้เต็ม 10 เลย ก็เพราะเนื้อเรื่องทั้งหมดสามารถเชื่อมต่อและสอดประสานกันได้เป็นอย่างดี โดยที่เนื้อเรื่องทั้ง 3 ไม่ได้เสียแก่นที่ต้องการนำเสนอ และยังสร้างเอกลักษณ์เป็นของตัวเองได้ด้วย

สุดท้ายนี้ก็อยากจะขอแนะนำให้ไปรับชมภาพยนตร์ "พรจากฟ้า" กันนะครับ หนังโรแมนติค, ดราม่า และคอมเมดี้ ที่ผสมผสานเข้ากับบทเพลงพระราชนิพนธ์ได้อย่างลงตัว ดูแล้วอบอุ่นหัวใจอย่างบอกไม่ถูกเลยล่ะครับ

Review By : T.J. @ T.J. MOVIE REVIEW

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ตัวอย่างแรกและนักแสดงทั้งหมดในภาพยนตร์ Saiki Kusuo no Sainan ฉบับ Live Action

หลังจากประกาศสร้างมาตั้งปี 2015 ก็ได้มีการปล่อยตัวอย่างแรกพร้อมเหล่านักแสดงออกมาทั้งหมดแล้ว ตัวอย่างภาพยนตร์ - https://www.youtube.com/watch?v=4tCACKYolrs&t=0s และมีนักแสดงดังต่อไปนี้

"โกไคเจอร์" กลับมาครบทีม ร่วมฉลองซูเปอร์เซนไตซีรี่ส์ครบ 2,000 ตอน

นับตั้งแต่  "ขบวนการ ห้าจอมพิฆาต โกเรนเจอร์"  ได้ออกฉายตั้งแต่วันที่  4 เมษายน 1975  มาจนถึงขบวนการล่าสุด  "ขบวนการ ราชันย์สรรพสัตว์ จูโอเจอร์"  ซึ่งในวันที่  11 กันยายน  ก็จะฉายครบ  2,000 ตอน พอดี ในตอนที่  28-29   (ฉายวันที่ 4 และ 11 ก.ย.)  จึงได้มีตอนพิเศษขึ้นฉลอง โดยตอนพิเศษทั้ง  2  ตอน จะได้นักแสดงจาก  "ขบวนการ โจรสลัด โกไคเจอร์"  กลับมาแบบครบทีม ในรอบ  3 ปีครึ่ง  หลังจากภาพยนตร์  "ขบวนการ จารชน โกบัสเตอร์ ปะทะ ขบวนการ โจรสลัด โกไคเจอร์ เดอะมูฟวี่"

掟上今日子の備忘録。(Okitegami Kyoko no Biboroku) สมุดบันทึกความทรงจำของ โอคิเตะงามิ เคียวโกะ

            ก่อนจะเริ่มต้นวิจารณ์หรือวิเคราะห์ดีล่ะ เลือกไม่ถูก ถ้างั้นใช้เป็นว่า วิเคราะห์ น่าจะเหมาะสมที่สุดล่ะ ต้องขอบอกก่อนว่า ไม่ได้ตามดูซีรี่ส์จากทางฝั่งญี่ปุ่นมานานมากประมาณเกือบ 3 ปีได้ หลังจากซีรี่ส์ “Ando Lloyd - A.I. Knows Love ?” แล้วช่วงนี้ประจวบเหมาะกับไม่มีอะไรดู (เหรอ ? ) เลยลองมานั่งหาซีรี่ส์จากทางญี่ปุ่นดูบ้าง เปลี่ยนแนวจากที่ปกติเดิมจะดูแต่ซีรี่ส์ภาพยนตร์จากทางอเมริกาซะส่วนใหญ่ และ Okitegami Kyoko no Biboroku. เพื่อนก็แนะนำมาตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วก่อนซีรี่ส์จะจบด้วยซ้ำ (ตอนนั้น ฉายไป 8 ตอน ซีรี่ส์มีทั้งหมด 10 ตอน) เขาดูกันไปจะเกือบปีล่ะ ตัวเองพึ่งจะมานั่งดู หยิบขึ้นมาดูเท่านั้นแหละ กลายเป็นติดใจจนเลิกดูไม่ได้ นั่งดูอยู่บนห้องมันทั้งวันนี่แหละครับ ฮา