ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

Review : STAR TREK

Review : STAR TREK [Movie 2009]
Score : 8.5/10

"เปิดตำนาน STAR TREK ไปพร้อมกับการผจญภัยรูปแบบใหม่ 
ที่จัดเต็มไปด้วย Action สุดมันส์ และ CG ล้ำยุค"


เรื่องย่อ : James Kirk เป็นหนุ่มหัวรั้น เขาไม่ต้องการดำเนินตามรอยเท้าของพ่อ ผู้เป็นกัปตันของสตาร์ฟลีตที่ได้รับการยกย่องอย่างสูง แต่แล้วความคิดของ James ก็จำต้องเปลี่ยนไป เมื่อโลกตกอยู่ในอันตรายจากกองกำลังจากต่างดาวที่นำโดยวายร้าย Nero และในที่สุดเขา ก็ได้พบเพื่อนๆ ที่จะเป็นลูกเรือในอนาคตของเขาที่สถาบันสตาร์ฟลีต

ชะตากรรมของจักรวาลตกอยู่ในกำมือของคู่ปรับสองคน ในขณะที่ James เป็นหนุ่มเกเรที่ชอบเสาะหาความตื่นเต้น Spock เติบโตมาจากสังคมที่ยึดมั่นกับหลักตรรกศาสตร์และปฏิเสธการใช้อารมณ์ทั้งปวง เมื่อผู้ใช้สัญชาตญาณอันเร่าร้อนปะทะกับผู้ใช้เหตุผลอันสุขุม พวกเขากลับกลายเป็นคู่หูที่แปลกแต่แข็งแกร่ง และมีเพียงพวกเขาเท่านั้นที่จะนำคณะลูกเรือฝ่าภยันตรายอันเกินจะคาดเดาไปได้

ลูกเรือหนุ่มสาวประจำการบน U.S.S. Enterprise ยานบินอวกาศที่ทันสมัยที่สุดเท่าที่มีการสร้างมา ในการผจญภัยที่เต็มไปด้วยการต่อสู้ เรื่องสนุกสนาน และการเสี่ยงตายสุดระทึกในอวกาศ พวกเขาทั้งหมดจะต้องหาทางหยุดยั้งศัตรูชั่วร้ายที่หวังจะทำลายมนุษยชาติให้ได้

*ก่อนเริ่ม Review ต้องขอบอกก่อนว่า ไม่เคยดูและติดตามภาพยนตร์ "STAR TREK" ทั้ง 10 ภาคก่อนหน้ามาก่อน พึ่งมาตามตั้งแต่ภาคนี้ ที่ได้ถูกนำมาสร้างใหม่ขึ้นมาเลยครับ ดังนั้น จะไม่มีการอิงกับภาพยนตร์รวมถึงซีรี่ส์ก่อนหน้าที่เคยสร้างมานะครับ และมีการเปิดเผยเนื้อหาของภาพยนตร์บางส่วน

- ในส่วนของเนื้อเรื่อง มีการปูทางของเรื่องราวได้ดี จุดกำเนิดของ "James T. Kirk & Spock" เหตุการณ์ที่ทำให้ทั้ง 2 คนได้มาพบเจอและทำภารกิจปกป้องจักรวาลจากวายร้ายต่างดาวเผ่า Romulan ผู้มาจากอนาคต มีนามว่า "Nero" ที่หมายจะทำลายดวงดาวทุกดวงที่เป็นพันธมิตรกับสหพันธ์ดวงดาว รวมไปถึงการก้าวขึ้นมาเป็นกัปตัน U.S.S. Enterprise ของกัปตัน Kirk ในอนาคต เพื่อที่จะทำภารกิจสำรวจดวงดาวอื่นๆ ในจักรวาลต่อไป

- เนื้อเรื่องจะเล่นประเด็นความขัดแย้งของตัวละคร "Nero กับ Spock" จากโลกอนาคต ซึ่งส่งผลให้เกิดความแค้น และตามมาล้างแค้นในอดีต จากความบังเอิญในการข้ามการเวลา และเกิดการเปลี่ยนแปลงเส้นเวลาใหม่ ตามที่ในเรื่องราวได้มีการพูดถึงเหตุการณ์ในเส้นเวลาเดิมก่อนการเปลี่ยนแปลงจากการถามของ "Kirk (ปัจจุบัน) กับ Spock (อนาคต)" แม้ว่า ประเด็นอนาคตจะถูกคลายปมพร้อมกับที่มาของวายร้ายในช่วงกลางๆ เกือบเข้าช่วงท้ายเรื่อง แต่ก็ถือว่ามีความน่าสนใจ และสามารถถ่ายทอดออกมาได้ดีเลยครับ

- บทเกลี่ยให้กับทุกตัวละครได้ดีมาก และนักแสดงนำของเรื่องต่างก็แสดงออกมาได้ดีและยังสร้างเอกลักษณ์เฉพาะของตัวละครให้โดดเด่นขึ้นมาได้อีกด้วย จนรู้สึกว่า ไม่มีใครเด่นเกินหน้าเกินตากันจริงๆ ทุกตัวละครเด่นเท่ากันหมด ขนาดตัวละคร "Scotty" ของ "Simon Pegg" ที่กว่าจะปรากฎตัวก็ช่วงองก์สุดท้ายของเรื่อง ก็ยังมีเอกลักษณ์ประจำตัวที่เรียกว่า ขาดตัวละครเล่านี้ในการขับเคลื่อนเนื้อเรื่องไปไม่ได้เลยจริงๆ (แต่ส่วนตัวแอบคิดว่า "Pavel Chekov" ตัวละครที่รับบทโดย "Anton Yelchin" ดูเด่นที่สุดยังไงก็ไม่รู้ เหมือนบทดันให้มาก)

- ฉาก Action, ยอมรับเลยว่า "J.J. Abrams" สามารถสร้างความตื่นเต้น, หวาดเสียว และลุ้นตัวเกร็งอยู่ไม่น้อยเลยตั้งแต่ต้นเรื่อง ยันท้ายเรื่อง ทั้งฉากที่ต่อสู้กันด้วยยานก็ดี, ฉากต่อสู้กันตามปกติทั่วไป หรือฉากกระโดดร่มลงมายังเครื่องเจาะ ที่ดูแล้วหวาดเสียวจริงจัง ตอนดูอารมณ์ร่วมกับฉากต่างๆ มาเต็มครับ ฮา

- ในเมื่อเป็นภาพยนตร์ที่กำกับโดย "J.J. Abrams" หรือเจ้าพ่อแห่ง Lens Flare หรือแสงสะท้อนที่เกิดขึ้นในภาพ ก็ถือว่าหลายๆ ฉาก Flare ช่วยสร้างอารมณ์ในฉากเพิ่มขึ้น รวมไปถึงทำให้ภาพสวยขึ้นมาจริงๆ แต่บางฉากก็แสบตามา แค่ต้นเรื่องมาก็แสบตาแล้ว...

- เพลงประกอบภาพยนตร์ที่ประพันธ์โดย "Michael Giacchino" ฟังแล้วติดหูมาก เขียน Review ไปก็นั่งฮัมเพลงไปพลางๆ ด้วย เพลงประกอบลงตัวกับเนื้อเรื่องพอตัวในระดับนึง รู้สึกถึงความยิ่งใหญ่, น่าตื่นเต้น และการผจญภัยออกไปสำรวจจักรวาล

- งานภาพที่สร้างขึ้นด้วย Computer Graphic (CG) นับว่า เก็บรายละเอียดได้ดี และมีความน่าตื่นตาตื่นใจมากเลยทีเดียวครับ ทั้งตัวยาน U.S.S. Enterprise, ยานของเผ่า Romulan, ยาน U.S.S. Kelvin ในตอนต้นเรื่อง, ฉาก Action ต่างๆ ในเรื่อง, ฉากที่ยานเดินทางเหนือแสง และอีกหลายๆ ฉาก ซึ่งถือว่า คุ้มกับทุนสร้างภาพยนตร์ทุกเหรียญที่ลงทุนไปจริงๆ...

โดยรวมแม้ว่า จะเป็นภาพยนตร์ที่มีพื้นหลังอยู่ในอวกาศเช่นเดียวกับ "STAR WARS" แต่ "STAR TREK" ก็มีเรื่องราวการเดินทางที่เป็นเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ที่ "STAR WARS" ไม่มี ซึ่งถือว่าน่าสนใจ และน่าติดตามกันต่อไปยาวๆ กับ Franchise ชุดนี้ครับ

Review By : T.J. @ T.J. MOVIE REVIEW

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ตัวอย่างแรกและนักแสดงทั้งหมดในภาพยนตร์ Saiki Kusuo no Sainan ฉบับ Live Action

หลังจากประกาศสร้างมาตั้งปี 2015 ก็ได้มีการปล่อยตัวอย่างแรกพร้อมเหล่านักแสดงออกมาทั้งหมดแล้ว ตัวอย่างภาพยนตร์ - https://www.youtube.com/watch?v=4tCACKYolrs&t=0s และมีนักแสดงดังต่อไปนี้

掟上今日子の備忘録。(Okitegami Kyoko no Biboroku) สมุดบันทึกความทรงจำของ โอคิเตะงามิ เคียวโกะ

            ก่อนจะเริ่มต้นวิจารณ์หรือวิเคราะห์ดีล่ะ เลือกไม่ถูก ถ้างั้นใช้เป็นว่า วิเคราะห์ น่าจะเหมาะสมที่สุดล่ะ ต้องขอบอกก่อนว่า ไม่ได้ตามดูซีรี่ส์จากทางฝั่งญี่ปุ่นมานานมากประมาณเกือบ 3 ปีได้ หลังจากซีรี่ส์ “Ando Lloyd - A.I. Knows Love ?” แล้วช่วงนี้ประจวบเหมาะกับไม่มีอะไรดู (เหรอ ? ) เลยลองมานั่งหาซีรี่ส์จากทางญี่ปุ่นดูบ้าง เปลี่ยนแนวจากที่ปกติเดิมจะดูแต่ซีรี่ส์ภาพยนตร์จากทางอเมริกาซะส่วนใหญ่ และ Okitegami Kyoko no Biboroku. เพื่อนก็แนะนำมาตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วก่อนซีรี่ส์จะจบด้วยซ้ำ (ตอนนั้น ฉายไป 8 ตอน ซีรี่ส์มีทั้งหมด 10 ตอน) เขาดูกันไปจะเกือบปีล่ะ ตัวเองพึ่งจะมานั่งดู หยิบขึ้นมาดูเท่านั้นแหละ กลายเป็นติดใจจนเลิกดูไม่ได้ นั่งดูอยู่บนห้องมันทั้งวันนี่แหละครับ ฮา

Review : Kung Fu Panda 3

Review : Kung Fu Panda 3 Score : 8/10 "ดูเพลิน สนุก ตลกฮา ปนน่ารักของเหล่าแพนด้า ตอนท้ายซึ้งดี พร้อมออกตามหาตัวตน ว่าเรานั้นเป็นใคร?" เรื่องย่อ : การกลับมาของพ่อแพนด้าของโปที่หายสาบสูญไปเมื่อนานมาแล้ว ทั้งคู่กลับมาร่วมทางกันสู่เมืองลับแลของแพนด้า เพื่อพบกับพวกแพนด้าตัวตลกหน้าใหม่ แต่เมื่อจอมวายร้ายผู้อยู่เหนือธรรมชาติอย่าง ไค เริ่มกวาดล้างประเทศจีนด้วยการเอาชนะจ้าวแห่งกังฟูทั้งหมด โพต้องทำสิ่งเหลือเชื่ออย่างการศึกษาวิธีการฝึกฝนเหล่าพี่น้องจอมเซ่อที่น่ารักของเขา เพื่อให้กลายเป็นเหล่าสุดยอดกังฟูแพนด้า!