ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

Review : STAR TREK BEYOND

Review : STAR TREK BEYOND
Score : 8.3/10

"Justin Lin สานต่อตำนาน STAR TREK ได้ดี Action ยกระดับความมันส์ไปอีกขั้น
Beyond in IMAX แนะนำรัวๆ..."


เรื่องย่อ : ระหว่างทางในการทำภารกิจ 5 ปี ของ ยาน U.S.S. Enterprise พวกเขาได้ถูกโจมตีโดยกองทัพเอเลี่ยนลึกลับ จนต้องสละยาน และต้องไปติดอยู่บนดาวเคราะห์แห่งหนึ่ง ซึ่งมีลูกเรือจำนวนหนึ่งได้ถูกจับไปเป็นเชลย เพื่อที่จะช่วยลูกเรือกลับมา กัปตัน Kirk ต้องเผชิญหน้ากับศัตรูใหม่ที่เต็มไปด้วยความโหดเหี้ยมและมีเป้าหมายจะล้างแค้นสหพันธ์ดวงดาว

- ด้านเนื้อเรื่อง ถ้าเทียบกับ 2 ภาคก่อนหน้า ภาคนี้ถือว่าเดินเรื่องง่ายๆ เรียบๆ มากที่สุดล่ะครับ ไม่ซับซ้อนเท่าไร มีมุกฮาๆ ปนไปตลอดทั้งเรื่อง เช่นเดียวกับ 2 ภาคก่อนหน้า, มีจุดหักมุมในเรื่องที่เงิบไปนิดๆ และยังมีเซอร์วิสแฟนๆ "STAR TREK" รุ่นเก่าด้วย น่าจะน้ำตาซึมได้เลย ส่วนตัวพึ่งมาตามตั้งแต่ภาคยกเครื่องใหม่ปี 2009 แต่ก็พอรู้สึกได้ถึงความคลาสสิคจากรุ่นแรกเริ่มเลย

- เรื่องราวก็จะต่อกับตอนจบของ "INTO DARKNESS" และตามเรื่องย่อเป๊ะๆ เลย ในระหว่างที่ทำภารกิจ 5 ปี ลูกเรือยาน Enterprise ต้องเผชิญกับ Krall เอเลี่ยนที่ไม่ได้ปรากฎสายพันธุ์ ซึ่งได้ถล่มยานและจับตัวลูกเรือไป Kirk และคนที่รอดออกมาได้ จึงต้องหาทางช่วยเหลือลูกเรือกลับมาให้ได้

- มีเล่นประเด็นพ่อลูกตระกูล Kirk ทิ้งเอาไว้ ตามข่าวที่ยืนยันแล้วว่า ภาคหน้า "Chris Hemsworth" จะกลับมารับบท "George Kirk" อีกครั้ง หลังจากที่ตายไปตอนต้นภาคแรกเลย ดูท่าจะ Reset Timeline ใหม่กันอีกแล้ว...

- ภาคนี้รู้สึกได้เลยว่า ตัวละคร "Chekov และ Scotty" ดูมีบทบาทเยอะขึ้นพอตัว เมื่อเทียบกับ กัปตัน Kirk ที่เป็นตัวเอกของเรื่อง บทเด่นพอๆ กันเลย หลังจากภาค 2 บทอยู่กลางๆ ไม่ได้เด่นอะไรมาก คู่หูคู่ฮาในภาคนี้ เปลี่ยนจาก "Kirk-Bones มาเป็น Spock-Bones" ก็ได้เห็นอะไรที่ฮาๆ เยอะมากขึ้น เพราะ 2 คนนี้ เรื่องนิสัยนี่ต่างขั้วกันแบบสุดๆ เลยจริงๆ...

"Jaylah" ตัวละครใหม่ที่เพิ่มเข้ามาก็มีบทบาทมากพอตัว ทั้งฉลาดแล้วก็สามารถต่อสู้ได้ เป็นอีก 1 ตัวละครสำคัญของเรื่องเลย ดูเหมือนในเรื่องจะปั้นตัวละครนี้มาแทน "Dr. Carol Marcus" ที่รับบทโดย "Alice Eve" และภาคนี้เธอก็ไม่ได้กลับมาเล่น บทเลยหายไปดื้อๆ เลย

- "Krall" วายร้ายประจำภาคที่ดูช่วงแรกมาโหดมาก แต่ไปๆ มาๆ ตอนจบนึกถึงวายร้ายจากหนัง Marvel ทันทีเลย แต่ปูมหลังของตัวละครนี้ก็แอบเห็นใจไม่น้อยด้วยเช่นกัน

- จุดหักมุมในเรื่องแอบเงิบไปนิดๆ ไม่ได้เฉลียวใจหรืออะไรเอาไว้เลย อยู่ดีๆ ก็หล่นตุ้บลงมา แต่ถือว่าเงิบอยู่ครับ

- Action ยกระดับความมันส์และโม้ขึ้นไปอีกขั้น แต่ยังรู้สึกเหมือนว่า "Justin Lin" ยั้งๆ มือเอาไว้ Climax เกือบดีสุดๆ แล้ว ติดตรงที่จบเร็วไปหน่อย ซึ่งก็สนุกโม้มันส์ดี แค่ว่า ยังไม่สุดเท่ากับที่ "J.J.Abrams" ทำเอาไว้ใน 2 ภาคก่อนหน้าครับ จากความรู้สึกส่วนตัวรู้สึกว่ามันยังบิวท์ให้มันส์กว่านี้ได้อีก

- แอบชอบและรู้สึกแปลกๆ ในเวลาเดียวกันกับ CG ตอนวาร์ปของภาคนี้ มันดูแปลกๆ ไป ถ้าเทียบกับตอนที่ J.J. ทำไว้ ซึ่งอันนั้นมันก็คล้ายๆ กับ "STAR WARS" ล่ะนะ แต่อันนี้นึกถึง "Interstellar" หน่อยๆ เลย...

- เพลงประกอบก็ยังคงความยิ่งใหญ่ตามแบบฉบับ "STAR TREK" เอาไว้เช่นเดียวกับ 2 ภาคก่อนหน้า ไม่ค่อยมีอะไรเปลี่ยนไปมากสักเท่าไรครับ แต่ถือว่าสร้างอารมณ์ร่วมให้กับเรื่องราวได้ดีครับ

- สำหรับระบบ IMAX ถือว่า Beyond ตามชื่อหนังเลยจริงๆ เพราะได้มีไปดูระบบปกติมา ซึ่งก็โอเคใช้ได้อยู่ครับ แต่พอมาดู IMAX เท่านั้นแหละ เสียงกระหึ่ม, แน่น โดยเฉพาะฉากแอ็คชั่น ภาพสว่างและชัดขึ้น ได้ดูยาน Enterprise ลำใหญ่ๆ แบบยาน Star Destroyer ของ "STAR WARS" ก็คุ้มค่าแล้ว...

- 3D ก็แปลงภาพออกมาได้ดีครับ ขยับแล้วภาพไม่เลื่อน แต่ถ้าขยับแบบไปทั้งตัวเลย ยังไงก็เลื่อนเต็มๆ

- ตอนจบมีขึ้นชื่อไว้อาลัย "Leonard Nimoy & Anton Yelchin" 2 นักแสดงผู้ล่วงลับไปเมื่อกุมภาพันธ์ปีที่แล้วสำหรับ คุณปู่ Leonard และ Anton ในปีนี้เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาครับ

โดยภาพรวมก็ถือว่าผู้กำกับ "Justin Lin" เข้ามาสานต่องานจากผู้กำกับ "J.J. Abrams" ได้ดีครับ เป็น "STAR TREK" ที่เพิ่มความโม้มากขึ้น มุมกล้องเอียงๆ มาครบ ขาดก็แค่ Flare ที่หายไปนี่แหละครับ ฮา

แล้วก็เดินเรื่องเรียบง่ายที่สุดในบรรดาทั้ง 3 ภาค แต่ก็มอบความบันเทิงได้ดีไม่แพ้ 2 ภาคก่อนหน้าเลย แล้วก็แนะนำให้รับชมกันในระบบ IMAX นะครับ ถ้าเป็นไปได้ Beyond จริงๆ...

สุดท้ายนี้ก็ต้องขอขอบคุณบัตรชมภาพยนตร์รอบพิเศษจากทาง UIP Thailand ด้วยครับ ที่ให้วาร์ปไปรับชมการผจญภัยของลูกเรือยาน U.S.S. Enterprise ครั้งใหม่บนจอ IMAX

Review By : T.J. @ T.J. Movie Review

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ตัวอย่างแรกและนักแสดงทั้งหมดในภาพยนตร์ Saiki Kusuo no Sainan ฉบับ Live Action

หลังจากประกาศสร้างมาตั้งปี 2015 ก็ได้มีการปล่อยตัวอย่างแรกพร้อมเหล่านักแสดงออกมาทั้งหมดแล้ว ตัวอย่างภาพยนตร์ - https://www.youtube.com/watch?v=4tCACKYolrs&t=0s และมีนักแสดงดังต่อไปนี้

"โกไคเจอร์" กลับมาครบทีม ร่วมฉลองซูเปอร์เซนไตซีรี่ส์ครบ 2,000 ตอน

นับตั้งแต่  "ขบวนการ ห้าจอมพิฆาต โกเรนเจอร์"  ได้ออกฉายตั้งแต่วันที่  4 เมษายน 1975  มาจนถึงขบวนการล่าสุด  "ขบวนการ ราชันย์สรรพสัตว์ จูโอเจอร์"  ซึ่งในวันที่  11 กันยายน  ก็จะฉายครบ  2,000 ตอน พอดี ในตอนที่  28-29   (ฉายวันที่ 4 และ 11 ก.ย.)  จึงได้มีตอนพิเศษขึ้นฉลอง โดยตอนพิเศษทั้ง  2  ตอน จะได้นักแสดงจาก  "ขบวนการ โจรสลัด โกไคเจอร์"  กลับมาแบบครบทีม ในรอบ  3 ปีครึ่ง  หลังจากภาพยนตร์  "ขบวนการ จารชน โกบัสเตอร์ ปะทะ ขบวนการ โจรสลัด โกไคเจอร์ เดอะมูฟวี่"

掟上今日子の備忘録。(Okitegami Kyoko no Biboroku) สมุดบันทึกความทรงจำของ โอคิเตะงามิ เคียวโกะ

            ก่อนจะเริ่มต้นวิจารณ์หรือวิเคราะห์ดีล่ะ เลือกไม่ถูก ถ้างั้นใช้เป็นว่า วิเคราะห์ น่าจะเหมาะสมที่สุดล่ะ ต้องขอบอกก่อนว่า ไม่ได้ตามดูซีรี่ส์จากทางฝั่งญี่ปุ่นมานานมากประมาณเกือบ 3 ปีได้ หลังจากซีรี่ส์ “Ando Lloyd - A.I. Knows Love ?” แล้วช่วงนี้ประจวบเหมาะกับไม่มีอะไรดู (เหรอ ? ) เลยลองมานั่งหาซีรี่ส์จากทางญี่ปุ่นดูบ้าง เปลี่ยนแนวจากที่ปกติเดิมจะดูแต่ซีรี่ส์ภาพยนตร์จากทางอเมริกาซะส่วนใหญ่ และ Okitegami Kyoko no Biboroku. เพื่อนก็แนะนำมาตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วก่อนซีรี่ส์จะจบด้วยซ้ำ (ตอนนั้น ฉายไป 8 ตอน ซีรี่ส์มีทั้งหมด 10 ตอน) เขาดูกันไปจะเกือบปีล่ะ ตัวเองพึ่งจะมานั่งดู หยิบขึ้นมาดูเท่านั้นแหละ กลายเป็นติดใจจนเลิกดูไม่ได้ นั่งดูอยู่บนห้องมันทั้งวันนี่แหละครับ ฮา