Review : Warcraft - The Beginning
Score : 7.5/10
"ยิ่งใหญ่ ตามรอยมหากาพย์ The Lord of The Rings
กำเนิดศึกสองพิภพของจริง เตรียมพร้อมสู่มหาศึกครั้งใหญ่ในอนาคต"
เรื่องย่อ : อาณาจักรอาซีร็อธอันเงียบสงบ กำลังใกล้จะเกิดสงครามปะทุขึ้นเมื่อความศิวิไลซ์ของอาณาจักรแห่งนี้กำลังเผชิญกับผู้รุกรานที่เป็นเผ่าพันธุ์ที่น่ากลัว นั่นก็คือ พวกนักรบออร์คซึ่งละทิ้งบ้านเกิดที่กำลังจะตายและหนีมาตั้งอาณานิคมที่ดาวดวงอื่น เมื่อประตูที่เชื่อมระหว่างสองโลกเปิดออก กองทัพฝ่ายหนึ่งเผชิญกับการทำลายล้าง ขณะที่อีกฝ่ายหนี่งเผชิญกับการสูญสิ้นเผ่าพันธุ์ จากทั้งสองด้านที่ต่างกัน สองวีรบุรุษต้องมาปะทะกัน ซึ่งจะเป็นตัวตัดสินชะตากรรมของวงศ์ตระกูลของพวกเขา รวมถึงประชาชนร่วมเผ่าพันธุ์ และบ้านของพวกเขาด้วยนั่นคือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวที่พัวพันกับอำนาจและการเสียสละ ที่ซึ่งสงครามมีหลายโฉมหน้า และทุกคนต่างต่อสู้เพื่อบางสิ่งบางอย่าง
*ก่อนเริ่ม Review ขอบอกก่อนว่า แอดมินไม่มีความรู้เรื่องเกม Warcraft แต่อย่างใดเลยนะครับ ดังนั้น ถ้าผิดประการใดต้องขออภัยด้วยครับ*
- สำหรับด้านการเล่าเรื่อง หลักๆ จะอยู่ที่เผ่าพันธุ์มนุษย์และออร์ค ที่ต้องมาต่อสู้กันเพื่อความอยู่รอดของเผ่าพันธุ์ตัวเอง ซึ่งตัวละครของฝั่งออร์คดูจะมีมิติและเป็นส่วนสำคัญของเรื่องราวมากกว่า พาร์ทมนุษย์ที่จะพูดถึงการหาวิธีปกป้องและทำให้ทุกอาณาจักรสงบสุข ส่วนเผ่าอื่นๆ ก็มีถูกเอ่ยถึงในเรื่องบ้าง แต่ยังไม่เยอะเท่าไร เหมือนรอไว้ภาคถัดไปมากกว่า
- ตัวเรื่องมาแนวแอ็คชั่นแฟนตาซี ที่ปนมุกฮาๆ มาด้วย ทั้งที่โทนเรื่องมันออกแนวจริงจัง แต่โอเครู้สึกชอบ บาลานซ์โทนได้ดีอยู่ เดินเรื่องเร็วมากในช่วงแรก ยังจับอะไรไม่ทันเลย พอครึ่งหลังรู้สึกโอเคขึ้นหน่อย มีหักมุมบ้าง ทิ้งประเด็นไว้เล่นต่อภาคหน้าพอตัว
- สเกลของหนังใหญ่มาก ระดับ The Lord of The Rings แต่ว่า ยังเดินไปไม่สุดเท่าไร เข้าใจว่าทาง บลิตซาร์ด น่าจะทำภาคนี้ออกมาเพื่อลองตลาด ดูปฎิกิริยาของผู้ชมกันก่อนว่า จะมาในด้านบวกหรือลบมากกว่ากัน รวมไปถึงตัวผกก.ดันแคน โจนส์ ที่พึ่งมาจับหนังสเกลใหญ่แบบนี้ ก็มีพลาดๆ ไปไม่น้อย ยังจับจุดไม่ค่อยได้จริงๆ เพราะการกำกับหนังปกติกับ กำกับหนังที่ต้องใช้ VFX มันต่างกันไปคนล่ะแบบเลย แต่ถือว่า ยังอยู่ในภาพรวมที่โอเคครับ
- ด้านแอ็คชั่นก็อยู่ในเกณฑ์กลางๆ ยังมีจุดที่ต้องแก้อยู่ จากที่ได้ตามๆ ข่าวมา แอ็คชั่นจะให้นักแสดงสู้แกว่งๆ ดาบไปแบบตอน "STAR WARS : Episode II - Attack of The Clones" แบบนั้นเลย แล้วก็มีคนใส่ชุดเขียวมาสู้ด้วยในฉากอะไรแบบนี้ ก็ถือว่ายกประโยชน์ให้ไป ในส่วนศึกใหญ่ก็ยังไม่ค่อยโอเคเหมือนกัน แต่ยังไงก็หวังว่าภาคหน้าจะปรับปรุงขึ้นมากกว่านี้นะ
- มุมกล้อง ที่ไม่ใช่ฉากแอ็คชั่นถือว่าโอเคหมด ดูมีมิติและสวยงาม สร้างความอลังการได้พอประมาณ แต่พาร์ทแอ็คชั่นต้องแก้กันขนานใหญ่เลยจริงๆ
- งาน CG ในระดับทุนสร้าง 160 ล้านเหรียญสหรัฐ ถือว่าเก็บงานได้ดีในภาพรวม มีหลุดๆ เยอะอยู่ แบบประปราย แต่สวยและอลังอยู่ ส่วนตัว ไม่แนะนำสำหรับการรับชมแบบ 3D จากที่ได้ดูมา ภาพไม่มีนูน, ลึก หรืออะไรที่เป็น 3D เลย
- เพลงประกอบ ยกให้พาร์ทที่เป็นแอ็คชั่นเลย ดูมีพลังและหนักแน่นมาก สมเป็นหนังสงคราม เสียดายบ้านเราไม่ได้เข้าในระบบ IMAX แต่ดูในระบบ Dolby Atmos แทนไป ก็โอเคอยู่ครับ น่าจะเป็นเรื่องแรกตั้งแต่ดู Atmos มา แล้วสามารถดูแทน IMAX ได้ในระดับนึงครับ
- สำหรับนักแสดง จากที่ลองไล่ๆ ไปดูชื่อมา แต่ล่ะคนก็มีผลงานกันมาไม่น้อย แค่ไม่ได้เป็นภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์กันเท่าไร เลยไม่ค่อยจะคุ้นหน้ามากนัก แต่ถือว่า Cast ชุดนี้ เล่นได้โอเคครับ ดูเป็นธรรมชาติดีในระดับนึง ไม่แข็งมากเท่าไร
- ตอนแรกที่ดูตัวอย่าง มีคิดไว้ว่าหนังน่าจะไปไม่รอด เจ๊งแน่ๆ แต่พอมาดูจริงๆ มันทำมาเพื่อลองตลาดนี่หว่า องค์ประกอบหลายๆ อย่าง มันหนังลองตลาดจริงๆ ถ้าไม่เจ๊ง ภาคหน้าทำแบบจริงจังและแก้ไขทุกอย่างให้ดีขึ้นกว่าเดิม หนังน่าจะสนุกและมันส์กว่านี้อีกเยอะแน่นอนครับ เพราะสเกลมันระดับ "The Lord of The Rings" ได้เลยจริงๆ ซึ่งก็ต้องรอดูกันไปยาวๆ เพราะกว่าอเมริกาจะฉายก็ 10 มิถุนายนเลย บ้านเราได้ดูก่อนตั้ง 2 สัปดาห์
โดยรวมยังมีจุดที่ต้องแก้อีกเยอะสำหรับ Warcraft แต่ก็ถือว่า เปิดตัวได้น่าสนใจในระดับนึง อาจจะไม่ได้ดีเลิศ เพราะดูยังไงก็ทำมาลองตลาดจริงๆ แต่เปอร์เซนต์มีภาคต่อน่าจะสูงอยู่ ซึ่งถ้าได้มีภาคต่อจริงๆ ภาคหน้าก็ขอจัดเต็มแบบเน้นๆ ไปเลย ภาคนี้ก็ยกผลประโยชน์ให้ไปก่อน อะไรพลาดๆ ไป ก็นำไปปรับแก้โดยด่วน แต่แนะนำให้ลองไปรับชมกันดูครับ
สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณทาง UIP Thailand สำหรับบัตรชมภาพยนตร์รอบพิเศษ ที่ได้ให้ไปร่วมการกำเนิดศึกสองพิภพในครั้งนี้ด้วยครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น