ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

Review : Power Rangers

Review : Power Rangers [28/2017]
Score : 7/10

"เปิดจักรวาล Power Rangers ได้น่าสนใจ
พาไปสำรวจตัวละครอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน เอาใจคอขบวนการ 5 สีอย่างเต็มพิกัด"


Power Rangers ฮีโร่ทีมมหากาฬ เป็นเรื่องราวของเด็กวัยรุ่น 5 คน ที่มีปัญหาในชีวิตของตัวเอง แต่จู่ๆวันนึงชะตาก็ทำให้พวกเขาได้พบเจอกับเหรียญลึกลับที่ทำให้พวกเขามีพละกำลังมากขึ้น และได้รับหน้าที่ในการปกป้องโลกด้วยพลังที่พวกเขาได้รับมา

- การกลับมาในฉบับภาพยนตร์ครั้งนี้ของ Power Rangers ได้การตีความใหม่จาก เด็กที่มีพรสวรรค์ผู้ถูกรับเลือกให้กลายเป็นฮีโร่ 5 สี เพื่อปกป้องโลก กลายมาเป็น เด็กที่มีปัญหาชีวิต ต้องมารวมตัวกันเป็นฮีโร่เพื่อปกป้องโลก ซึ่งตัวหนังเองก็สามารถตีความใหม่ออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพพอตัว ทำให้เราเข้าถึงตัวละครได้มากขึ้น และสามารถสะท้อนสังคมของอเมริกาได้ดีด้วย แต่เนื้อเรื่องบางส่วนก็แอบงงๆ อยู่เหมือนกันว่า เล่ามาในตอนไหน เหมือนอยากจะให้มีก็มีมาเลย

- งานภาพของเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่เหนือคาดอยู่พอสมควร เพราะรู้สึกได้เลยว่าเขาต้องการที่จะทำมุมกล้องออกมาในรูปแบบที่อลังการพอสมควร เน้นถ่าย Close Up กับ Extreme Long Shot ค่อนข้างเยอะ ภาพจึงออกมาสวยงามและสื่ออารมณ์ออกมาได้ในระดับนึงเลยทีเดียว (ถ้ามองง่ายๆ ก็นึกถึงหนังของ Micheal Bay) แต่ก็มีจุดที่ไม่ค่อยจะโอเคอยู่บ้าง เพราะบางครั้งก็ใช้มุมกล้องที่ผิดแบบจากที่ควรจะใช้ ยกตัวอย่างเช่น ฉากแอ็คชั่นที่ควรใช้การ Close Up ที่จะทำให้ฉากแอ็คชั่นดูตื่นเต้นขึ้น แต่ใช้ภาพระยะไกลที่ให้เข้าถึงอารมณ์ได้น้อยลงไปพอควร และบางครั้งก็ใช้การมุมกล้องตามหลังตัวละครในแบบที่ไม่ค่อยจำเป็น ซึ่งมันทำให้ดูขัดๆไปบ้างในบางส่วน

- พูดถึงงานภาพแล้วจะไม่พูดถึงโทนของภาพก็คงจะไม่ได้ โทนที่ใช้ในเรื่องนี้มีความชัดเจน โดยช่วงแรกจะออกมืดมนพอสมควร แต่หลังจากที่เข้าสู่ช่วงหลังโทนสดใสขึ้นมาทันที ซึ่งมันส่งผลดีในแง่ของการสื่ออารมณ์ แต่ในแง่ของความรู้สึกต่อเนื่องมันทำให้เรารู้สึกเหมือนดูหนังคนละเรื่อง แล้วจะรู้สึกถึงโทนที่ไม่ติดต่อกันสักเท่าไหร่ และสีที่ใช้ในหนังเรื่องนี้ดูไม่ค่อยโดดเด่นเท่าไหร่ เพราะสีประกอบฉากค่อนข้างที่จะไปในโทนเดียว มันทำให้รู้สึกว่ามันไม่ค่อยจะสวย แถมยังส่งผลไปการสื่ออารมณ์ที่ไม่ค่อยชัดเจนอีกด้วย

- การตัดต่อทำได้ไวมาก รู้สึกถึงความเป็นวัยรุ่นใจร้อน ซึ่งเหมาะสมกับการแสดงออกที่เข้ากับตัวเรื่องและตัวละคร แต่บางครั้งมันก็ตัดไวจนบางประเด็นที่สามารถสร้างอารมณ์ร่วมกับเนื้อเรื่องได้มากกว่านี้ ขาดหายไป

- จุดเด่นของหนังเรื่องนี้คือนักแสดงนำที่แคสมาใหม่ทั้งหมด หน้าตาดี,เล่นบทแอ็คชั่นได้ ส่วนการแสดงก็ทำออกมาได้โอเคพอสมควรในระดับที่บทจะส่งให้ ในส่วนของนักแสดงสมทบในบทตัวร้ายที่ค่อนข้างจะเล่นใหญ่ เล่นเยอะ แต่ก็เข้ากับตัวหนังดีไม่มีปัญหา

- ในด้านของมิติตัวละครก็พอมีการเจาะลึกอยู่บ้าง ซึ่งจะทำให้เราเข้าใจความรู้สึกของตัวละครพอสมควรและทำให้เราเข้าใจปัญหาของแต่ละคน ส่งผลต่อการเข้าใจเหตุผลในการที่แต่ละคนเลือกที่เป็นฮีโร่ แต่ก็ยังมีบางตัวละครเล่าปัญหาได้อย่างไม่ชัดเจนเท่ากับตัวละครอื่นๆ อยู่บ้าง แต่ทั้งหมดก็เพียงพอในการอธิบายว่าทุกคนมีปมปัญหาอะไรในใจได้แล้ว

- ฉากแอ็คชั่นในเรื่องนี้ทำออกมาได้ดูดีพอสมควร ผสานกับ CG ที่ดูดีใช้ได้แต่ก็ไม่ได้ดีมากได้อย่างลงตัว ดูสนุกใช้ได้ เอาฮาได้เลยทีเดียว แต่ก็ยังแบ่งฉากต่อสู้ไม่ค่อยจะเท่ากันเท่าไหร่นัก จะยังคงมีบางตัวละครขาดหายไปบางช่วง และฉากแอ็คชั่นบางฉากก็เป็นอะไรที่เดาได้จนเรารู้สึกว่ามันซ้ำซากไปหน่อย แต่ก็มีบางฉากที่ เซอร์ไพรส์ กันอึ้งทึ่งเลยทีเดียว

- สิ่งที่ทำให้ขัดใจนิดๆ คือเรื่องของไดอะล็อคการพูดที่ค่อนข้างที่จะเป็นบทละครมากไปหน่อย และพร้อมที่จะพูดไดอะล็อคเท่ๆ ได้ทุกเวลา ซึ่งไม่ค่อยเหมาะสมกับตัวหนังที่พร้อมจะทำเป็นโทนจริงจังสักเท่าไหร่นัก และอีกเรื่องนึงคือ โฆษณาที่บางทีก็รู้สึกว่ามันชัดเจนและโจ่งแจ้งจนรู้สึกขัดไปเลย แต่ถ้ามองในแง่ของมุขก็เป็นมุขที่ผ่านครับ เพราะอะไรไปดูครับ

โดยรวมหนังเรื่องนี้เป็หนังที่ดูสนุก เพลิดเพลิน ผ่อนคลายของจริง แต่ก็ยังไม่มีอะไรโดดเด่นถึงขั้นน่าจดจำมากนัก แต่ยังคงแนะนำให้ดูครับ เพราะประเด็นมันค่อนข้างน่าสนใจมากจนน่าจะทำให้มีการสร้างภาคต่อเพื่อขยายจักรวาลได้อย่างดี เหมาะสำหรับไปดูกันเป็นหมู่คณะกับเหล่าผองเพื่อน สนุกสนานแน่นอน และจะมีเรื่องให้คุยกันอีกยาวแน่นอนครับ

ตอนจบมี Mid-Credit ด้วยนะครับ อย่าพึ่งรีบลุกออกจากโรงหนังกันไปซะก่อนล่ะ...

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

掟上今日子の備忘録。(Okitegami Kyoko no Biboroku) สมุดบันทึกความทรงจำของ โอคิเตะงามิ เคียวโกะ

            ก่อนจะเริ่มต้นวิจารณ์หรือวิเคราะห์ดีล่ะ เลือกไม่ถูก ถ้างั้นใช้เป็นว่า วิเคราะห์ น่าจะเหมาะสมที่สุดล่ะ ต้องขอบอกก่อนว่า ไม่ได้ตามดูซีรี่ส์จากทางฝั่งญี่ปุ่นมานานมากประมาณเกือบ 3 ปีได้ หลังจากซีรี่ส์ “Ando Lloyd - A.I. Knows Love ?” แล้วช่วงนี้ประจวบเหมาะกับไม่มีอะไรดู (เหรอ ? ) เลยลองมานั่งหาซีรี่ส์จากทางญี่ปุ่นดูบ้าง เปลี่ยนแนวจากที่ปกติเดิมจะดูแต่ซีรี่ส์ภาพยนตร์จากทางอเมริกาซะส่วนใหญ่ และ Okitegami Kyoko no Biboroku. เพื่อนก็แนะนำมาตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วก่อนซีรี่ส์จะจบด้วยซ้ำ (ตอนนั้น ฉายไป 8 ตอน ซีรี่ส์มีทั้งหมด 10 ตอน) เขาดูกันไปจะเกือบปีล่ะ ตัวเองพึ่งจะมานั่งดู หยิบขึ้นมาดูเท่านั้นแหละ กลายเป็นติดใจจนเลิกดูไม่ได้ นั่งดูอยู่บนห้องมันทั้งวันนี่แหละครับ ฮา

Review : Detective Conan EPISODE “ONE”

Review : Detective Conan EPISODE “ONE” Score : 8.5/10 "เสริมเนื้อเรื่องได้ดี ดูเพลิน สนุกมาก ตัวละครมากันพร้อมหน้า ใครที่เป็นแฟนโคนันฟินแน่..." “ยอดนักสืบจิ๋ว โคนัน EPISODE “ONE” กำเนิดยอดนักสืบจิ๋ว” เป็นอนิเมะตอนพิเศษที่นำเอาตอนที่ 1 ของโคนัน มาขยายเรื่องราวเพิ่มขึ้น ว่าตัวละครแต่ล่ะตัว ทำอะไรอยู่ที่ไหนอย่างไรบ้าง และมีเนื้อเรื่องบางส่วนที่ขยายเรื่องราวนอกจากตอนที่ 1 มาด้วย ซึ่งฉายไปเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม ที่ผ่านมาในประเทศญี่ปุ่น และบ้านเราก็ได้เข้าฉายในโรงภาพยนตร์วันที่ 22 ธันวาคม ครับ แต่ก่อนหน้านั้น ก็สามารถชมได้ทาง iFlix ตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม ถือว่า ฉายห่างจากญี่ปุ่นแค่ประมาณ 1-2 อาทิตย์เอง

รวมข่าวทั้งหมดของ "Supergirl Season 2" และสิ้นปีนี้เตรียมพบ Big Event ของ DC Super Heroes ในช่อง The CW

หลังจากช่วงกลางเดือนที่ผ่านมาได้มีการ  ยืนยัน! "Supergirl" ย้ายจากช่อง CBS ไป CW พร้อมทีมนักแสดงกลับมาครบชุด  ก็ได้มีข้อมูลใหม่เพิ่มเติมออกมา พร้อม Teaser อย่างเป็นทางการ ว่าสิ้นปีนี้เตรียมพบกับการเปลี่ยนแปลงของ "Supergirl" โดยการย้ายมาฉายในช่อง The CW นั่นเอง