ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

Review : KONG - SKULL ISLAND

Review : KONG - SKULL ISLAND [22/2017]
Score : 9/10 (Entertain), 7/10 (All) & @;฿;!@"/10 (End-Credit)

"เปิดตัว Kong ได้สมศักดิ์ศรี แอ็คชั่นโคตรมันส์ โคตรเท่ งานภาพโคตรดี
IMAX เพิ่มความยิ่งใหญ่ถึงขีดสุด เนื้อเรื่องไม่ได้ดีมาก แต่ก็โอเคที่อยากให้ตาม
End-Credit เจ๋งที่สุดตลอดกาล Welcome to Monster-Verse"


"KONG : SKULL ISLAND" เป็นเรื่องราวของกลุ่มนักสำรวจที่ได้เดินทางไปยัง Skull Island ที่ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นเกาะที่ตำนานและวิทยาศาสตร์รวมตัวกันบนเกาะ เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์โบราณมากมาย ซึ่งกลุ่มนักสำรวจก็ได้ไปเจอกับ Kong พระเจ้าของเกาะ รวมไปถึง Skull Crawlers ศัตรูคู่อาฆาต การต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดจึงเริ่มขึ้น
ก่อนจะเริ่ม ขอบอกก่อนนิดนึงว่า เผื่อไม่ให้งงตอนไปดูกัน เรื่องนี้จะเกิดในปี 1973 ก่อนเหตุการณ์ Godzilla VS MUTO ในปี 2014 นะครับ เผื่อจะตกใจกันว่า อ้าว! จักรวาลเดียวกัน แต่ห่างขนาดนั้น จะต่อกันยังไงล่ะ? ต้องไปดูครับ ถึงจะรู้ว่าต่อกันยังไง?!

เนื้อเรื่องภาพรวมคือการเปิดจักรวาล Monster-Verse ที่ Warner Bros. & Legendary ได้เริ่มสร้างขึ้นตั้งแต่ปี 2014 โดยเอา Godzilla มาเป็นตัวเป็นจักรวาล ให้กว้างขึ้นซะมากกว่า โดยการแนะนำ Kong ลิงยักษ์ที่ซึ่งเป็นสัตว์โบราณอาศัยอยู่บนโลกก่อนที่มนุษย์จะถือกำเนิดและยึดครอง

หลังจากที่ดูจบ Subplot ที่เป็นองค์กรสืบหาสัตว์ประหลาด "MONARCH" (ซึ่งองค์กรนี้มีจุดเชื่อมโยง Godzilla กับ Kong ใน Monster-Verse ด้วย) และตัว Skull Island มีความน่าสนใจมากกว่า Mainplot ที่ต้องต่อสู้กับตัว Skull Crawlers เพื่อเอาชีวิตรอดซะอีก  เพราะตอนนี้อยากรู้เหตุผลหลักว่า "MONARCH" ต้องการที่จะทำอะไรหลังจากที่เจอพวกสัตว์ประหลาดต่างๆ รวมไปถึง ใน Skull Island ยังมีสัตว์โบราณอีกกี่ชนิดที่อยู่บนเกาะนั้น เพราะถ้าดูจากในหนังโผล่มาประมาณ 5-6 สายพันธุ์เท่านั้นเอง แต่ระหว่างนั้น ก็ถือว่าได้ข้อมูลของตัว Kong มาพอตัวในส่วนของ Mainplot 

เนื้อเรื่องพาร์ทมนุษย์ ส่วนตัวมองว่า ทำได้ดีกว่า Godzilla อีกนะ อาจจะเป็นเพราะว่า Godzilla กับ Kong มันคนล่ะแนวกันด้วยแหละมั้ง? ทำให้หาจุดร่วมในพาร์ทมนุษย์ได้ดีกว่า มีมุกตลกหยอดมาเรื่อยๆ ซึ่งเราก็โอเคกับมุกมันในภาพรวม อาจจะไม่ได้ทุกมุกก็ตาม

ลักษณะการเดินเรื่องบางจุดแม่งมีความเป๊ะกับ Godzilla มาก คนแก่สุดแม่งจะต้องมีอันเป็นไปเสมอ ฮา โดยเฉพาะ Opening ลอกมาแบบเดียวเป๊ะเลย แต่ก็ถือว่าทำให้เป็นเอกลักษณ์ในแฟรนด์ไซส์นี้ไปเลย


Action แม่งสุดๆ มากันตั้งแต่ต้นเรื่องยันจบเรื่อง ซัดกันนัว  นึกว่าดูมวยปล้ำบนเกาะกะโหลก มีฉากนึง นึกว่า Pacific Rim มาเอง เป๊ะมาก แล้วก็ได้กลิ่นอายการถ่ายแบบโทคุซัตสึในหลายๆ ฉากมาก ส่วนของพาร์ทมนุษย์เท่ได้เพราะมุมกล้องของเฮีย Larry Fong

ก่อนหน้านี้ ผู้กำกับ Jordan Vogt-Roberts ได้ให้สัมภาษณ์ว่า Kong จะไม่ค่อยๆ โผล่ แต่จะโผล่แม่งเลย เออ! พี่โผล่แม่งจริงๆ ไม่ต้องลุ้นอะไรทั้งสิ้น ทุกซีนที่โผล่ มีความน่าเกรงขามไม่แพ้ Godzilla 

สิ่งที่เรื่องนี้ต้องการจะสื่อให้เห็น จุดนึงที่ชัดๆ เลยก็คือ "มนุษย์ก็ป่าเถื่อนและโหดร้ายไม่แพ้กับสัตว์เช่นเดียวกัน" สัญชาตญาณการเอาตัวรอด แสดงออกมาอย่างเห็นได้ชัด เมื่อมาอยู่ที่ Skull Island ภายในเกาะมันดูน่ากลัวก็จริง เพราะไม่รู้ว่าเราจะต้องเจอกับอะไรบ้าง ซึ่งหลังดูจบก็เกลียดเกาะนี้แบบโคตรๆ ไม่ขอไปเหยียบเกาะนี้โดยเด็ดขาด หากแม่งมีจริงๆ บนโลกนะ

ส่วนของ IMAX เนื่องจากดู Godzilla & Kong : Skull Island ในระบบเดียวกันทั้งคู่ ด้านภาพเสริมความอลังให้กับทั้งคู่ไม่แพ้กัน ตอน Godzilla VS Kong มีมันส์แน่ๆ แต่ด้านเสียง Godzilla โอเคกว่า เพราะซีนที่ Kong ทุบหน้าอก ตอนดูตัวอย่างใน IMAX เสียงแน่นดูน่าเกรงขามมาก มาดูจริงๆ Oh! Shit... ใครที่จะเข้าไปดูแนะนำว่า รีบเข้านิดนึงก็ดีนะครับ เพราะ IMAX มี Exclusive Countdown เช่นเดียวกับตอน Godzilla ด้วย...

End-Credit แม่งพีคที่สุดตลอดกาล ตัวหนังที่ดูอยู่ในเกณฑ์โอเค แต่ End-Credit ไม่ได้แค่โอเคหรือดี แต่มันสามารถอยากให้เรากลับไปดูอีกรอบ (แค่เฉพาะ End-Credit นะ 55555+) ดังนั้น อย่าพึ่งรีบลุกออกจากโรงไปซะก่อนนะครับ เดี๋ยวจะพลาดของเด็ดตอนท้าย

สำหรับใครที่จะเริ่มตาม Monster-Verse ก็สามารถ เริ่มตามที่ "KONG : SKULL ISLAND" เลยก็ได้ครับ หรือจะย้อนกลับไปดู "Godzilla (2014)" ก่อนก็ได้ อันนี้แล้วแต่ เพราะจุดเชื่อมมีเพียงแค่นิดเดียวเองครับ


"KONG : SKULL ISLAND - มหาภัย เกาะกะโหลก" ฉายแล้ว วันนี้ ในโรงภาพยนตร์

Review By : T.J. @ T.J. ENTERTAINMENT REVIEW

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ตัวอย่างแรกและนักแสดงทั้งหมดในภาพยนตร์ Saiki Kusuo no Sainan ฉบับ Live Action

หลังจากประกาศสร้างมาตั้งปี 2015 ก็ได้มีการปล่อยตัวอย่างแรกพร้อมเหล่านักแสดงออกมาทั้งหมดแล้ว ตัวอย่างภาพยนตร์ - https://www.youtube.com/watch?v=4tCACKYolrs&t=0s และมีนักแสดงดังต่อไปนี้

"โกไคเจอร์" กลับมาครบทีม ร่วมฉลองซูเปอร์เซนไตซีรี่ส์ครบ 2,000 ตอน

นับตั้งแต่  "ขบวนการ ห้าจอมพิฆาต โกเรนเจอร์"  ได้ออกฉายตั้งแต่วันที่  4 เมษายน 1975  มาจนถึงขบวนการล่าสุด  "ขบวนการ ราชันย์สรรพสัตว์ จูโอเจอร์"  ซึ่งในวันที่  11 กันยายน  ก็จะฉายครบ  2,000 ตอน พอดี ในตอนที่  28-29   (ฉายวันที่ 4 และ 11 ก.ย.)  จึงได้มีตอนพิเศษขึ้นฉลอง โดยตอนพิเศษทั้ง  2  ตอน จะได้นักแสดงจาก  "ขบวนการ โจรสลัด โกไคเจอร์"  กลับมาแบบครบทีม ในรอบ  3 ปีครึ่ง  หลังจากภาพยนตร์  "ขบวนการ จารชน โกบัสเตอร์ ปะทะ ขบวนการ โจรสลัด โกไคเจอร์ เดอะมูฟวี่"

掟上今日子の備忘録。(Okitegami Kyoko no Biboroku) สมุดบันทึกความทรงจำของ โอคิเตะงามิ เคียวโกะ

            ก่อนจะเริ่มต้นวิจารณ์หรือวิเคราะห์ดีล่ะ เลือกไม่ถูก ถ้างั้นใช้เป็นว่า วิเคราะห์ น่าจะเหมาะสมที่สุดล่ะ ต้องขอบอกก่อนว่า ไม่ได้ตามดูซีรี่ส์จากทางฝั่งญี่ปุ่นมานานมากประมาณเกือบ 3 ปีได้ หลังจากซีรี่ส์ “Ando Lloyd - A.I. Knows Love ?” แล้วช่วงนี้ประจวบเหมาะกับไม่มีอะไรดู (เหรอ ? ) เลยลองมานั่งหาซีรี่ส์จากทางญี่ปุ่นดูบ้าง เปลี่ยนแนวจากที่ปกติเดิมจะดูแต่ซีรี่ส์ภาพยนตร์จากทางอเมริกาซะส่วนใหญ่ และ Okitegami Kyoko no Biboroku. เพื่อนก็แนะนำมาตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วก่อนซีรี่ส์จะจบด้วยซ้ำ (ตอนนั้น ฉายไป 8 ตอน ซีรี่ส์มีทั้งหมด 10 ตอน) เขาดูกันไปจะเกือบปีล่ะ ตัวเองพึ่งจะมานั่งดู หยิบขึ้นมาดูเท่านั้นแหละ กลายเป็นติดใจจนเลิกดูไม่ได้ นั่งดูอยู่บนห้องมันทั้งวันนี่แหละครับ ฮา