Review : LOGAN [21/2017]
Score : 8.5/10
"ขอบคุณสำหรับ 18 ปีที่ผ่านมา ถึงเวลาแขวนกรงเล็บแล้วนะ Wolverine,
ปิดตำนาน Wolverine ของ Hugh Jackman ได้อย่างสมคำร่ำลือ
ฉากแอ็คชั่นมันส์ถึงใจเข้ากับดนตรีประกอบ ใช้เรท R ได้อย่างคุ้มค่า
ขยี้อารมณ์ความรู้สึกด้วยความผูกพันธ์ของเรากับตัวละครจนเราเสียน้ำตา"
ฉากแอ็คชั่นมันส์ถึงใจเข้ากับดนตรีประกอบ ใช้เรท R ได้อย่างคุ้มค่า
ขยี้อารมณ์ความรู้สึกด้วยความผูกพันธ์ของเรากับตัวละครจนเราเสียน้ำตา"
LOGAN เป็นเรื่องราวของ Wolverine ในช่วงปี 2029 ในช่วงที่มนุษย์กลายพันธ์ุถูกไล่ล่าและใกล้จะสูญพันธ์ุ เขาจึงหลีกหนีจากโลกภายนอก โดยดูแล Charles Xavier ที่กำลังป่วยไปด้วย ซึ่งตัว LOGAN เองก็มีอาการป่วยจากสารพิษจากอะดาแมนเที่ยมที่ทำให้ประสิทธิภาพในการฟื้นฟูร่างกายของเขาลดลง แล้ววันนึงชะตากรรมก็พาเขาไปพบกับ Laura Kinney (X-23) ร่างโคลนที่เปรียบเสมือนลูกสาวของเขา ที่กำลังหลบหนีจากการทดลองมนุษย์กลายพันธุ์ในโครงการที่จะสร้างมนุษย์กลายพันธุ์เป็นเครื่องมือที่ใช้ในสงคราม โดยมีกลุ่มมนุษย์ไซบอร์กตามล่าตัวเธอ LOGAN จึงต้องกลับมาอีกครั้งเพื่อปกป้องเด็กสาวให้ปลอดภัย
ช่วงองค์แรกจะลงไปกับการสำรวจตัวละคร Wolverine ว่าชีวิตหลังเกษียนจากการเป็น X-MEN นั้นเป็นอย่างไรบ้าง สภาพโรยราที่ไม่สามารถรักษาตัวเองได้เหมือนในอดีต ทำให้ชีวิตของ Wolverine เป็นอย่างไรบ้าง ก่อนที่สาวน้อยมนุษย์กลายพันธุ์ X-23 จะมาปรากฎตัว และพามนุษย์หมาป่ากรงเล็บอะดาแมนเทียม ไปเผชิญกับการต่อสู้ครั้งสุดท้าย ก่อนปิดตำนานอย่างแท้จริง
และก็ยังครบรสทั้งในด้านดราม่ากับคอมเมดี้ด้วย อาจจะไม่ได้ไปจนสุดปลายทาง แต่ก็ถือว่า นำมาผสมผสานกับตัวเรื่องได้เป็นอย่างดีครับ
ในเรื่องจะมี Easter Egg จากหนัง X-MEN ภาคก่อนๆ มาไม่น้อย ถ้าใครตามหนังมาทุกภาค จะต้องฟินไปตามๆ กันอย่างแน่นอน เหมือนได้รำลึกอดีตถึงวันเก่าๆ กับเพื่อนที่ได้รู้จักกันมาตลอด 18 ปี
หนังเรื่องนี้ ติดดิน มีความเป็นมนุษย์มากที่สุดในบรรดาหนังซูเปอร์ฮีโร่ทั้งมวลที่เคยสร้างมาตามที่ผู้กำกับ James Mangold ได้เคยบอกเอาไว้ว่า Action แบบเวอร์วังอลังการตามแบบฉบับหนังซูเปอร์ฮีโร่จะไม่มี, CG พังเมืองคุณจะไม่ได้เห็น ก็ไม่มีให้เห็นเลยทั้งเรื่องจริงๆ ทุกอย่าง ตั้งอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริงหมด ก็ตามนั้นจริงๆ แหละครับ บู๊กันเลือดสาด ใช้เรท R ได้โคตรจะคุ้มค่า หลายๆ ฉากนี่เหวอไปเลย
นอกจาก Wolverine ที่เป็นตัวละครเด่นแล้ว Professor X & Caliban ก็มีบทเด่นเหมือนกัน แต่ Caliban จะเด่นน้อยกว่า Professor X นิดนึง Professor เก็บไปหลายฉากเด็ดๆ มาก และตัวละครก็ถูกพาไปสำรวจด้วยเช่นกัน อาจจะไม่ได้ลงลึกมาก แต่ก็รับรู้ได้ว่า หมดช่วงเวลาที่แข็งแกร่งที่สุดของ Professor X ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
อีก 1 ตัวละครที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ X-23 รับบทโดย Dafne Keen ต้องขอปรบมือให้เลยจริงๆ น้องเล่นดีมาก บทพูดมีน้อยมาก เน้นแสดงออกทางสีหน้าทั้งเรื่อง ไม่ว่าจะมีบทพูดหรือไม่ ซึ่งก็แสดงออกมาได้ดีมาก FC หนูมาเพียบแน่ๆ หลังจากเรื่องนี้ไปแล้ว อยากเห็น Dafne Keen ในบท X-23 เรื่องต่อๆ ไป จริงๆ นะ ยังโชว์ของได้อีกเยอะมาก ไม่อยากให้มาแค่นี้แล้วจบไปเลย เสียดายของดีที่มีอยู่ในมือจริงๆ Fox ได้โปรดเอาน้องกลับมาอีก Please
ตัวหนังมันไม่ได้ดีอะไรมาก แต่ความผูกพันธ์ระหว่างตัวละคร Wolverine ที่มีมา ตั้งแต่หนัง "X-MEN" ของผู้กำกับ Bryan Singer เมื่อปี 2000 ถ้าใครที่ตามมาทุกภาค มันจะเป็นแรงผลักดัน ที่ทำให้เรารู้สึกอินและสงสารตัวละครเป็นอย่างมาก
นับว่าเป็นหนังที่คู่ควรแก่การขึ้นหิ้งไปอยู่ข้างๆ X-MEN : Days of Future Past เลย อาจจะไม่ได้ดีที่สุด แต่ก็มีความสมจริงที่สุด ดิบเถื่อนที่สุด สมแก่การปิดตำนาน Wolverine แล้วล่ะครับ
Review By : T.J. @ T.J. ENTERTAINMENT REVIEW
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น