ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

Review : Ghost in The Shell

Review : Ghost in The Shell [29/2017]

"งานวิชวลล้ำ โปรดักชั่นเลิศ แอ็คชั่นสนุก ประเด็นดีแต่ดึงออกมาไม่สุด
IMAX เติมเต็มโลก Ghost in The Shell ในทุกส่วน"


เรื่องย่อ : Major มนุษย์ในร่างไซบอร์ก ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ปฎิบัติงานอยู่ในหน่วย Section 9 ซึ่งเป็นองค์กรปราบปรามอาชญากรรมทุกรูปแบบ จนกระทั่ง วันหนึ่งเธอได้ค้นพบความจริงว่า ชีวิตในอดีตของเธอไม่ได้อย่างที่เธอได้รับรู้ เธอจึงเริ่มค้นหาอดีตของตัวเอง และต้องหยุดยั้งก่อนที่จะมีคนตกอยู่ในสถานการณ์แบบเดียวกับที่เธอได้เป็น


สิ่งที่โดดเด่นที่สุดของเรื่องนี้จริงๆ ก็คืองานวิชวลกับโปรดักชั่นที่มีความสมจริง จนรู้สึกเหมือนเราหลุดไปอยู่ในโลกของ Ghost in The Shell เลย...

- งานวิชวลจะเน้นออกไปในโทนมืดมน, ลึกล้ำ ผสานกับสีไฟนีออน แบบเดียวกับ TRON : Legacy แต่เรื่องนี้ไม่ได้ลงสีจ้าขนาดนั้น ซึ่งดูแล้ว รู้สึกว่า วิชวลนั้น กลืนเข้ากับบรรยากาศ จนเหมือนกับเป็นส่วนหนึ่งที่เรารู้สึกว่ามันไม่ได้มีอยู่จริง แต่มันเหมือนว่ามีและยังสามารถจับต้องได้ ถ้ามองให้เห็นภาพง่ายๆ ก็ เทคโนโลยี AR นั่นแหละครับ

รวมไปถึงชุดของ Major ที่ใช้ CG แต่งได้ดีจนรู้สึกว่า เป็นร่างกายเทียมจริงๆ ของ Scarlett เลย ถ้าดูจากโปสเตอร์จะเห็นว่า ไม่เนียนมาก ดูรู้ว่าเป็นชุด แต่พอมาอยู่ในหนัง กลายเป็นอีกเรื่องไปเลย

ในส่วนของโปรดักชั่นที่บอกว่า "เลิศ" จะเป็นในส่วนของ หุ่นยนต์ ที่สร้างขึ้นมาใช้ถ่ายทำจริงๆ ทำให้เรารู้สึกว่า มันเป็นของจริง จับต้องได้ พวกรถต่างๆ ก็เช่นเดียวกัน ซึ่งพอใช้ของจริงในการถ่ายทำ เลยทำให้เรารู้สึกยิ่งอินไปกับหนังมากขึ้นด้วย แต่ก็มีส่วนขัดใจอยู่เหมือนกันก็คือโลเคชั่นที่ถ่าย ไปถ่ายในฮ่องกง ซึ่งเรื่องราวต้นฉบับจริงๆ เกิดในญี่ปุ่น แต่ไปถ่ายประเทศเยื้องๆ แทนซะงั้น เลยดูแล้วขัดใจมาก


สำหรับเนื้อเรื่อง ประเด็นที่ต้องการจะสื่อหลักๆ เลยก็คือ Ghost & Shell (จิตวิญญาณ & กาย) และแท้จริงแล้วเราเป็นอะไร หุ่นยนต์หรือมนุษย์?

ในปัจจุบันนี้ อวัยวะเทียม มนุษย์ก็สามารถสร้างขึ้นมา พอที่จะใช้งานได้จริงบางแล้วในบางส่วน ซึ่งถือว่าเป็นนวัตกรรมที่ก้าวข้ามขีดความสามารถของมนุษย์ไปอีกขั้น แต่เราจะยังรู้สึกว่า เรายังเป็นมนุษย์อีกรึเปล่า? ถ้าทั้งร่างกายกลายเป็นหุ่นยนต์ไปหมด ถูกแทนที่ด้วยของเทียม วิญญาณเป็นของเรา แต่กายไม่ใช่ มนุษย์ยังมองว่าตัวเองเป็นมนุษย์ หรือเป็นหุ่นยนต์กันแน่? แล้วอะไรคือสิ่งที่บ่งบอกว่า เรายังเป็นเรา ไม่ได้เป็นสิ่งอื่นหรือสิ่งที่ถูกสร้างขึ้น เป็นสิ่งที่เรื่องนี้ได้ไขว่คว้าหาคำตอบ ณ ตรงนั้น ผ่านตัวผู้พัน

ซึ่งประเด็นตรงนี้นับว่าน่าสนใจไม่น้อย แต่หนังผลักตรงนี้ไปได้ไม่สุด จะเห็นบางช่วงที่ผู้พันสับสนว่าตัวเองเป็นใคร เป็นอะไรกันแน่? แต่ก็เล่าๆ ไปพักนึง โยนไปสืบสวน โยนไปแอ็คชั่น แล้วก็วนกลับมา โยนไปโยนมา จนแอบเสียดายประเด็นที่น่าสนใจของเรื่อง ณ จุดนี้ไป ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะว่า ทางสตูดิโอต้องการทำให้หนัง Mass เข้าถึงได้กับทุกกลุ่มคนดู ก็เลยต้องลดในส่วนนี้ลงมา และขายสืบสวน, แอ็คชั่นมากขึ้น แต่หนังก็ยังมีความน่าสนใจอยู่ แม้ว่าประเด็น Ghost & Shell และตัวเราเป็นอะไรนั้น? จะไม่ได้ถูกเน้นมากเท่าต้นฉบับก็ตาม

สำหรับระบบ IMAX เติมเต็มโลกของ Ghost in The Shell ได้ในทุกส่วน ไม่ว่าจะเป็นเพลงประกอบและเสียงประกอบฉากที่แน่นขึ้นกว่าโรงปกติ ภาพคมชัดและสีสด จนเห็นทุกดีเทลที่อาจจะพลาดไปในระบบปกติ และเพิ่มความอลังการให้กับภาพยนตร์มากขึ้นบนจอ IMAX เหมือนกับว่าเราหลุดเข้าไปอยู่ในโลกนั้นเลย

3D เรื่องนี้ก็แปลงออกมาได้ดีครับ ภาพไม่มีเหลื่อมเลย ขยับก็จะเหลื่อมแค่บางฉากเท่านั้นเอง มี Effect พุ่งออกมาเล็กน้อย อย่างละอองหิมะ, กระจกแตก เป็นต้นครับ

โดยรวมแล้วหนังเรื่องนี้ก็ถือว่ามีดีในแง่ของวิชวล ภาพสวยสมจริงจนเหมือนเข้าไปอยู่ในโลกนั้น แต่บทเรียบง่ายกว่าฉบับอนิเมะมาก เหมือนกับทำออกมาให้เข้าใจง่ายเข้าไว้ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้จริงๆว่าหนังเรื่องนี้มีความสนุกที่พอดีอยู่ในตัวของมันเอง จนเราแทบจะมองข้ามเรื่องบทและเสพวิชวลได้อย่างเต็มที่จริงๆ ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบงานภาพและวิชวลสวยๆ พร้อมกับได้ข้อคิดเล็กๆ น้อยๆ ติดตัวกลับไป ก็ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

Review By : T.J. @ T.J. ENTERTAINMENT REVIEW
Score : 7.5/10 (T.J., MikeTavish & Mister P.)

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ตัวอย่างแรกและนักแสดงทั้งหมดในภาพยนตร์ Saiki Kusuo no Sainan ฉบับ Live Action

หลังจากประกาศสร้างมาตั้งปี 2015 ก็ได้มีการปล่อยตัวอย่างแรกพร้อมเหล่านักแสดงออกมาทั้งหมดแล้ว ตัวอย่างภาพยนตร์ - https://www.youtube.com/watch?v=4tCACKYolrs&t=0s และมีนักแสดงดังต่อไปนี้

掟上今日子の備忘録。(Okitegami Kyoko no Biboroku) สมุดบันทึกความทรงจำของ โอคิเตะงามิ เคียวโกะ

            ก่อนจะเริ่มต้นวิจารณ์หรือวิเคราะห์ดีล่ะ เลือกไม่ถูก ถ้างั้นใช้เป็นว่า วิเคราะห์ น่าจะเหมาะสมที่สุดล่ะ ต้องขอบอกก่อนว่า ไม่ได้ตามดูซีรี่ส์จากทางฝั่งญี่ปุ่นมานานมากประมาณเกือบ 3 ปีได้ หลังจากซีรี่ส์ “Ando Lloyd - A.I. Knows Love ?” แล้วช่วงนี้ประจวบเหมาะกับไม่มีอะไรดู (เหรอ ? ) เลยลองมานั่งหาซีรี่ส์จากทางญี่ปุ่นดูบ้าง เปลี่ยนแนวจากที่ปกติเดิมจะดูแต่ซีรี่ส์ภาพยนตร์จากทางอเมริกาซะส่วนใหญ่ และ Okitegami Kyoko no Biboroku. เพื่อนก็แนะนำมาตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วก่อนซีรี่ส์จะจบด้วยซ้ำ (ตอนนั้น ฉายไป 8 ตอน ซีรี่ส์มีทั้งหมด 10 ตอน) เขาดูกันไปจะเกือบปีล่ะ ตัวเองพึ่งจะมานั่งดู หยิบขึ้นมาดูเท่านั้นแหละ กลายเป็นติดใจจนเลิกดูไม่ได้ นั่งดูอยู่บนห้องมันทั้งวันนี่แหละครับ ฮา

Review : Kung Fu Panda 3

Review : Kung Fu Panda 3 Score : 8/10 "ดูเพลิน สนุก ตลกฮา ปนน่ารักของเหล่าแพนด้า ตอนท้ายซึ้งดี พร้อมออกตามหาตัวตน ว่าเรานั้นเป็นใคร?" เรื่องย่อ : การกลับมาของพ่อแพนด้าของโปที่หายสาบสูญไปเมื่อนานมาแล้ว ทั้งคู่กลับมาร่วมทางกันสู่เมืองลับแลของแพนด้า เพื่อพบกับพวกแพนด้าตัวตลกหน้าใหม่ แต่เมื่อจอมวายร้ายผู้อยู่เหนือธรรมชาติอย่าง ไค เริ่มกวาดล้างประเทศจีนด้วยการเอาชนะจ้าวแห่งกังฟูทั้งหมด โพต้องทำสิ่งเหลือเชื่ออย่างการศึกษาวิธีการฝึกฝนเหล่าพี่น้องจอมเซ่อที่น่ารักของเขา เพื่อให้กลายเป็นเหล่าสุดยอดกังฟูแพนด้า!