ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

Review : Doctor Strange

Review : Doctor Strange
Score : 8.75/10

"งานภาพดีที่สุดในหนัง Marvel เนื้อเรื่องเรียบง่าย ไม่ซับซ้อนมาก ผสมผสานได้อย่างลงตัว Benedict โคตรเท่ ส่วนตัวร้าย... ปล่อยไปเถิด IMAX โคตรคุ้มค่าจริงๆ"


เรื่องย่อ : "Doctor Stephen Strange" ศัลยแพทย์ระบบประสาท ได้ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ทำให้มือทั้งสองข้างของเขาไม่สามารถใช้มือในการผ่าตัดได้อีก จึงต้องหาทางรักษาด้วยเคล็ดลับของโลกเวทย์มนตร์อันลี้ลับและพลังอำนาจของมิติอื่น และทำให้เขาได้กลายเป็นคนกลางที่เชื่อมต่อระหว่างโลกความเป็นจริงกับโลกอื่น โดยใช้ความสามารถด้านเวทย์มนตร์ที่เรียนรู้มา

- ด้านเนื้อเรื่องยอมรับว่า เหมือนได้ดูหนังเรื่องแรกของ Marvel Studios นั่นก็คือ "IRON MAN" นั่นเอง แต่ว่า สิ่งที่เหมือนกันก็คือ การดำเนินเรื่องที่เป็นเส้นตรงไปเลย ไม่ซับซ้อนอะไรมาก แต่เป็นการเล่าเรื่องของ Doctor Strange แทน มีเล่นแพลทฟอร์มหลายๆ อย่างที่ Classic มากในโลกภาพยนตร์ แต่ส่วนตัวถือว่าโอเค ไม่ได้แย่อะไรมาก

แม้จะเล่นอะไรซ้ำๆ เดิมๆ แต่ส่วนตัวไม่ได้รู้สึกว่า มันคือ "เหล้าเก่าในขวดใหม่" อย่าง "STAR WARS : THE FORCE AWAKENS" แม้จะเล่นซ้ำ แต่อย่างที่บอกไปว่า มันมีสไตล์ของ Doctor Strange อยู่ด้วย ก็ไม่ได้แย่หรืออะไรมากครับ

มุกฮายังคงหยอดมาตามสไตล์ Marvel เหมือนเดิม ผสมกับเนื้อเรื่องได้ดี แต่ก็แอบรู้สึกว่า มากไปนิดนึง จนนึกว่าดูหนังคอมเมดี้ซูเปอร์ฮีโร่ พักหลังเริ่มเยอะจริงๆ พี่เพลาๆ บ้างก็ดีนะ

ส่วนตัวร้าย... เหมือนเดิมตามสไตล์ Marvel ง่อยไงก็ง่อยงั้นเลย ไม่พัฒนา ยอมรับว่าดูเก่งชิบหาย แต่พอ Climax เท่านั้นแหละ... ยอมรับว่า มีการปูตัวละครด้วยการเล่าถึงที่มา เหตุที่ทำให้เป็นตัวร้าย แต่ส่วนหนึ่งพอเป็นแค่ตำบอกเล่า เลยทำให้ตัวร้ายดูไม่มีอะไรมากเท่าไร นอกจากนามธรรมที่บอกว่าโหด ถ้า Marvel ให้เวลาเล่าเรื่องตัวร้ายแบบ DC บ้างก็น่าจะดีขึ้นกว่านี้ครับ ถือว่า เป็นสิ่งหนึ่งที่ต้องแก้อย่างมาก ณ ตอนนี้

ตัวละคร Doctor Strange ถือว่า เรื่องราวเบื้องหลัง เจ็บปวดมาก ตอนดูคือเข้าใจตัวละครเลย คนที่ไม่เคยล้มมาก่อนในชีวิต พอถึงคราวที่ล้ม ไม่มีใครที่สามารถจะแบกรับความเจ็บปวดนั้นได้ จึงควรที่จะมีควรมาเยียวยา ให้กำลังใจ แต่สำหรับพี่หมอเรา... Super Ego สูงไปไม่นิดเล๊ย!!! น่าตื้บโคตรๆ

- "Ancient One" ที่รับบทโดย "Tilda Swinton" คือโคตรเท่ นางเป็นอาจารย์ที่ดูผิวเผินจะใจร้าย แต่จริงๆ ก็น่ารัก อ่อนโยนนิดๆ เหมือนกัน ตอนสู้นี่โคตรเท่จริงจังบอกเลย

ส่วนตัวละครอื่นๆ อย่าง Wong ที่รับบทโดย "Benedict Wong" หรือ "Mordo" ที่รับบทโดย "Chiwetel Ejiofor" (ชื่อพี่อ่านยากจัง ฮา) ต่างก็มีบทบาทพอตัว อาจจะไม่ได้เด่นมาก แต่ก็รอการกลับมาของตัวละครทั้ง 2 อย่างแน่นอนครับ

ไม่รู้ว่า ภายในเรื่องเปลี่ยนไปจากคอมมิคมากแค่ไหน แต่จากที่ถามๆ มา เห็นว่า เปลี่ยนไปพอตัวเลย ทั้งพื้นฐานตัวละคร อุปกรณ์เวทมนตร์ต่างๆ ดังนั้น คนที่อ่านคอมมิคมา ก็คงต้องปล่อยวางทุกสิ่งที่คุณรู้ และเปิดใจรับในสิ่งใหม่เข้ามา

เนื้อเรื่องตอนนี้ปูทางสู่ "Avengers : Infinity War & Doctor Strange 2" เรียบร้อยแล้ว แต่ยังไงก็ต้องผ่านด่านบอสพี่ม่วงไปก่อน สำหรับพี่หมอของเรา

Action คืออย่างมันส์ แต่เสียดายฉาก "Inception" ที่อุตสาห์รอดู นึกว่าจะสู้กันแบบเละเทะ เวอร์วังอลังการงานสร้าง แต่ก็ต้องผิดหวังไปนิดๆ ส่วนฉากอื่นๆ ก็ถือว่าโอเคเลย มันส์ใช้ได้อยู่

เพลงประกอบไม่ค่อยจะติดหูสักเท่าไร พอเพิ่มสีสันให้แก่หนังได้บ้าง แต่ส่วนตัวกลายเป็นชอบเพลง End Credit มากกว่าซะอีก

งานภาพยอมรับว่า ดีมาก เป็น 3D ที่ดูแล้วไม่ปวดตา หรือปวดหัวอะไรเลย ต่างจาก 15 นาทีที่ดูแล้วจะมึนๆ นิดหน่อย เหมือนยังปรับภาพไม่ค่อยดีเท่าไร

IMAX ถือว่าคุ้มค่ามาก ได้เห็นงานภาพอลังการแบบเต็มตา พร้อมกับสัดส่วนพิเศษเกือบทั้งเรื่อง ที่ถือว่า คุ้มค่ากว่า "Captain America : Civil War" เป็นกอง

สรุปโดยรวม ตีตั๋วไปดูงานภาพก็คุ้มล่ะครับ 3D ไม่มึนหัวเลยด้วย เนื้อเรื่องดูง่าย เหมือนดู "IRON MAN" เลย Benedict เท่มากๆ บอกกันตรงๆ IMAX ยิ่งโคตรคุ้มครับ มี End-Credit 2 ตัวนะครับ อย่าพึ่งรีบลุกออกไปจาก

Review By : T.J. @ T.J. MOVIE REVIEW

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ตัวอย่างแรกและนักแสดงทั้งหมดในภาพยนตร์ Saiki Kusuo no Sainan ฉบับ Live Action

หลังจากประกาศสร้างมาตั้งปี 2015 ก็ได้มีการปล่อยตัวอย่างแรกพร้อมเหล่านักแสดงออกมาทั้งหมดแล้ว ตัวอย่างภาพยนตร์ - https://www.youtube.com/watch?v=4tCACKYolrs&t=0s และมีนักแสดงดังต่อไปนี้

掟上今日子の備忘録。(Okitegami Kyoko no Biboroku) สมุดบันทึกความทรงจำของ โอคิเตะงามิ เคียวโกะ

            ก่อนจะเริ่มต้นวิจารณ์หรือวิเคราะห์ดีล่ะ เลือกไม่ถูก ถ้างั้นใช้เป็นว่า วิเคราะห์ น่าจะเหมาะสมที่สุดล่ะ ต้องขอบอกก่อนว่า ไม่ได้ตามดูซีรี่ส์จากทางฝั่งญี่ปุ่นมานานมากประมาณเกือบ 3 ปีได้ หลังจากซีรี่ส์ “Ando Lloyd - A.I. Knows Love ?” แล้วช่วงนี้ประจวบเหมาะกับไม่มีอะไรดู (เหรอ ? ) เลยลองมานั่งหาซีรี่ส์จากทางญี่ปุ่นดูบ้าง เปลี่ยนแนวจากที่ปกติเดิมจะดูแต่ซีรี่ส์ภาพยนตร์จากทางอเมริกาซะส่วนใหญ่ และ Okitegami Kyoko no Biboroku. เพื่อนก็แนะนำมาตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วก่อนซีรี่ส์จะจบด้วยซ้ำ (ตอนนั้น ฉายไป 8 ตอน ซีรี่ส์มีทั้งหมด 10 ตอน) เขาดูกันไปจะเกือบปีล่ะ ตัวเองพึ่งจะมานั่งดู หยิบขึ้นมาดูเท่านั้นแหละ กลายเป็นติดใจจนเลิกดูไม่ได้ นั่งดูอยู่บนห้องมันทั้งวันนี่แหละครับ ฮา

Review : Kung Fu Panda 3

Review : Kung Fu Panda 3 Score : 8/10 "ดูเพลิน สนุก ตลกฮา ปนน่ารักของเหล่าแพนด้า ตอนท้ายซึ้งดี พร้อมออกตามหาตัวตน ว่าเรานั้นเป็นใคร?" เรื่องย่อ : การกลับมาของพ่อแพนด้าของโปที่หายสาบสูญไปเมื่อนานมาแล้ว ทั้งคู่กลับมาร่วมทางกันสู่เมืองลับแลของแพนด้า เพื่อพบกับพวกแพนด้าตัวตลกหน้าใหม่ แต่เมื่อจอมวายร้ายผู้อยู่เหนือธรรมชาติอย่าง ไค เริ่มกวาดล้างประเทศจีนด้วยการเอาชนะจ้าวแห่งกังฟูทั้งหมด โพต้องทำสิ่งเหลือเชื่ออย่างการศึกษาวิธีการฝึกฝนเหล่าพี่น้องจอมเซ่อที่น่ารักของเขา เพื่อให้กลายเป็นเหล่าสุดยอดกังฟูแพนด้า!