Review : Me Before You
Score : 8/10
"Feel good มากมาย สร้างอารมณ์ขันตลอดทั้งเรื่อง
ฟินจิกเบาะ น้ำตาซึม เกือบจะร้องไห้"
เรื่องย่อ : ลูอิซ่า “ลู” คลาร์ก อาศัยอยู่ในเมืองที่ดูประหลาดตาย่านชานเมืองประเทศอังกฤษ เธอไม่มีทิศทางชีวิตที่ชัดเจน สาววัย 26 ผู้มีความคิดสร้างสรรค์สดใสต้องเปลี่ยนงานจากด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่งเพื่อดูแลครอบครัวที่ฐานะไม่ค่อยดี ความมองโลกแง่ดีของเธอทำให้ต้องพบกับบททดสอบ เมื่อเธอต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายในการทำงานใหม่ของเธอ เธอได้งานที่ปราสาทท้องถิ่น โดยทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลและเพื่อนของวิล เทรย์เนอร์ เศรษฐีแบงค์หนุ่มที่ต้องอยู่บนรถเข็นจากอุบัติเหตุเมื่อ 2 ปีก่อนจนโลกของเขาต้องเปลี่ยนไปในพริบตา เขาไม่รักการผจญภัยอีกต่อไป ตอนนี้วิลรู้สึกท้อแท้ในชีวิต จนกระทั่งลูมุ่งมั่นที่จะทำให้เขาเห็นว่าการมีชีวิตอยู่คือสิ่งล้ำค่า พวกเขาได้พบกับเรื่องตื่นเต้นต่างๆ ไปด้วยกัน ลูและวิลได้อะไรมากกว่าที่เดิมพันไว้ เพราะพวกเขาได้พบกับชีวิตและจิตวิญญาณที่เปลี่ยนไปในแบบที่ไม่มีใครคาดฝัน
ก่อนเริ่ม Review ขอออกตัวก่อนเลยว่า ตอนแรกไม่รู้เลยว่านี่เรื่องอะไร เห็นกระแสมาแรงมาก เลยลองเปิดตัวอย่างดู ก็กระตุ้นความอยากดูขึ้นมา เลยตัดสินใจ หาเวลาตีตั๋วไปดูเลย
- ด้านเนื้อเรื่อง ปูเรื่องราวได้ดี เราเหมือนรับรู้อะไรต่างๆ ที่เกิดขึ้นในครอบครัวเทรย์เนอร์ จากมุมมองของ ลูอิซ่า คลาร์ค นางเอกเพียงด้านเดียว คือได้รับหน้าที่ต้องมาดูแล วิล เทรย์เนอร์ พระเอกของเรื่อง ซึ่งตัวเรื่องก็สร้างความผูกพันธ์ระหว่างตัวละครได้ดี ด้วยอารมณ์ขันต่างๆ ที่เกิดขึ้นตลอดทั้งเรื่อง จนสิ่งที่ไม่คาดคิดถูกโยนเข้ามา ก็แอบตกใจนิดนึง ดูแล้วเข้าใจความรู้สึกของ คลาร์ค เลย จนมาท้ายเรื่อง ทำเอาน้ำตาซึม เกือบบ่อน้ำตาแตก
- เข้าใจทั้งความรู้สึกของทั้ง คลาร์ค และ วิล ถึงในสิ่งที่ทั้ง 2 ตัวละครต่างตัดสินใจ เกี่ยวกับการใช้ชีวิต คลาร์ค มองว่าชีวิตยังมีค่า เราอย่าพึ่งท้อแท้กับชีวิต ถึงแม้ว่า สิ่งที่เผชิญอาจจะเป็นสิ่งที่เลวร้ายเกินกว่าที่คนอื่นจะเข้าใจได้ ส่วน วิล มองว่า ชีวิตที่ทำอะไรไม่ได้ สภาพเหมือนตายไปแล้ว อยู่ไปก็เปล่าประโยชน์ แม้จะมีคนมาบอกว่า ชีวิตนี้ยังมีค่า ยังทำอะไรได้อีกเยอะ แต่สิ่งที่เขาเป็น ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถเข้าใจได้
- สรุปง่ายๆ เลย เรื่องนี้ต้องการให้เราเห็นถึงคุณค่าของชีวิต ให้ใช้ชีวิตที่เป็นอยู่อย่างคุ้มค่า ทำทุกสิ่งที่อยากจะทำ ทำให้สุด ก่อนที่จะไม่มีโอกาสได้ทำมัน และต้องมานั่งเสียใจ หรืออาจจะไม่มีโอกาสแม้แต่คำว่า นั่งเสียใจด้วย
- เพลงที่เลือกมาใช้ประกอบภาพยนตร์ ถือว่า เลือกมาได้ดีเลยครับ สร้างอารมณ์ร่วมได้ทุกฉากจริงๆ ทั้งฉากที่เป็นคอมเมดี้และฉากที่เป็นดราม่า โดยเฉพาะดราม่านี่บ่อน้ำตาเกือบแตกเลย
- มุมภาพเรื่องนี้หลายๆ ฉาก สวยมาก ดูแล้วอยากไปเที่ยวเลย อารมณ์ดูหนังญี่ปุ่นที่จะขายทั้งเนื้อเรื่องและบรรยากาศควบคู่กันไป ชอบมาก
- สำหรับนักแสดงนำทั้ง 2 "Emilia Clarke & Sam Claflin" ต่างก็เล่นได้ดีมาก แอบสงสารตัวละครของ Emilia ไม่น้อยเลย หลังจากที่ดูจบ ส่วนของ Sam ก็สงสารเช่นเดียวกัน ต่างคนต่างก็มีความคิดเป็นของตัวเองในการที่จะตัดสินใจทำ ซึ่งทั้ง 2 นักแสดงก็ถ่ายทอดความรู้สึกทุกอย่างออกมาได้ยอดเยี่ยมครับ
- หลังดูจบเลยลองไปเปิดดูชื่อผู้เขียนบทภาพยนตร์ ก็ตกใจนิดๆ ที่เจ้าของหนังสือต้นฉบับ "Jojo Moyes" มาเขียนบทภาพยนตร์เองเลย เหมือนกับ "Gone Girl" ที่เจ้าของหนังสือ "Gillian Flynn" มาเขียนบทภาพยนตร์เอง แอบชอบตรงนี้ เพราะทำให้เนื้อเรื่องจากหนังสือที่ผู้เขียนต้องการถ่ายทอดยังอยู่ครบถ้วน แม้อาจจะมีตัดออกไปบ้าง
อาทิตย์นี้ถ้าจะให้แนะนำภาพยนตร์ว่าเรื่องไหนน่าดู ก็ขอแนะนำ "Me Before You" เลยครับ ส่วนตัว แนวดราม่า-โรแมนติก จะไม่ค่อยดูสักเท่าไร แต่เรื่องนี้พอมาดูแล้ว รู้สึก Feel good มาก เกือบบ่อน้ำตาแตกเลย พยายามกั้นเอาไว้ ถ้าไม่กั้นเหรอครับ? ร้องไห้ไปเรียบร้อยแล้วจริงๆ นะ ยังไงก็แนะนำเลยครับ หนังเขาดีจริงๆ...
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น