Review : Independence Day - Resurgence (IDR)
Score : 7.5/10
"พูดน้อยต่อยหนัก แอ็คชั่นจัดเต็ม ฮาแบบเต็มที่ CG ล้ำสมัยขึ้น
กลิ่นอายภาคแรกมาเต็ม บันเทิงใช้ได้ ภาค 3 มาแน่นอน"
เรื่องย่อ : การกลับมาของเหล่าเอเลี่ยนพร้อมเทคโนโลยีที่ทันสมัย ทำให้หลายๆชาติในโลกต้องร่วมมือกันช่วยหาวิธีปกป้องโลกจากหายนะครั้งนี้ แต่ก็ยังไม่อะไรที่สามารถจะป้องกันโลกจากเหล่าเอเลี่ยนที่ร้ายกาจอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนได้ จะมีก็เพียงมันสมองอันชาญฉลาดของชายและหญิงเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่จะสามารถปกป้องโลกนี้ได้
เข้าไปอ่าน Review ภาคแรกได้ที่ Review : Independence Day (ID4)
- ด้านเนื้อเรื่อง ถือว่ากระชับขึ้นมากกว่าภาคแรก ไม่ค่อยเสียเวลาพูดอะไรกันมากสักเท่าไร ซับซ้อนน้อยลง เน้นเอาคืน ทำมาไงก็เอากลับคืนไปงั้น Action ก็จัดกันกระหน่ำเลย พอถึงคิวพูดก็ฮากันมาแต่ไกล ฮากันทุกตัวละคร ภาคที่แล้วหลักๆ จะฮาที่ Will Smith คนเดียว ซะส่วนใหญ่ ดูๆ แล้ว เหมือนชดเชยจากภาคที่แล้วที่พูดกันเยอะจนจะหลับ ภาคนี้เลยเอาฮาไปเลย
- ความเก๋าของมนุษย์ที่ภาคแรก Will Smith ได้เตะเอเลี่ยนแบบไม่เกรงกลัว ภาคนี้ เหล่านักแสดงหน้าใหม่ก็ได้มารับช่วงต่อความเก๋าตรงนั้น ขอพูดกันตรงๆ เลยว่า "แม่งเก๋ากว่าตอน Will Smith อยู่ซะอีก"
- การตายของตัวละคร Will Smith ก็ถูกเอ่ยถึงในเรื่องด้วยเช่นกัน แต่ก็ไม่ได้เอ่ยอะไรเยอะมากขนาดนั้น ถ้าอยากรู้ต้องเข้าไปตามต่อที่ Website : War of 1996 ครับ
- ช่วงแรกๆ และบางส่วนในเรื่อง จะได้กลิ่นอายการดำเนินเรื่องราวคล้ายกับภาคแรกพอตัว จนนึกว่าดูภาคแรก แค่เปลี่ยนนักแสดงและ CG ทันสมัยขึ้น ซึ่งแม้การเดินเรื่องจะคล้ายๆ ภาคเก่าบ้าง แต่ก็ผสมผสานเข้ากับเนื้อเรื่องใหม่ได้อย่างลงตัว โดยเฉพาะช่วงครึ่งเรื่องหลัง พล็อตใหม่มาเต็ม เหมือนเซอร์วิสแฟนๆ ไปในตัว
- 20 ปี ผ่านไปไวเหมือนโกหก เวลาไม่ค่อยท่าให้เตรียมพร้อม เรื่องนี้ก็เช่นกัน เนื้อเรื่องไปไวมาก พร้อมกับตัวละครที่มาเยอะขึ้น จำชื่อไม่ได้ แต่เอกลักษณ์ตัวละครนี่เด่น จนจำหน้าได้แทน เว้น 2 สาวสุดแซ่บ เรน กับ แพททีเซีย ที่จำชื่อและหน้าตาได้แม่น (ฮา)
- ขยายสเกลเรื่องใหญ่มากขึ้น แต่ว่า ตัวบทถูกลดทอนลงอย่างเห็นได้ชัด เน้นจัดแอ็คชั่น กับความฮาที่ใส่เข้ามาเพื่อไม่ให้เนื้อเรื่องน่าเบื่อ ถ้ามองในด้านการดำเนินเรื่อง ถือว่า ไม่มีอะไรให้น่าจดจำหรือทรงพลังเท่าภาคแรกเลย แต่ถ้าแอ็คชั่นและความฮา ถือว่าสอบผ่านแบบเต็มๆ ครับ
- เนื้อเรื่องปูต่อภาค 3 เอาไว้แบบโต้งๆ ไม่ได้มี Mid-Credit หรือ End-Credit มาเป็นตัวปู เพราะมันไม่มีอยู่แล้ว มันปูกันในเรื่องแบบตรงๆ เลย ซึ่งเป็นการบอกไว้เลยว่า ภาคหน้าจะมันส์กว่านี้อีกแน่นอน งานนี้ ตั้งตารอดูเลย!!!
- กึ่งๆ ส่งให้รุ่นใหม่มารับช่วงต่อกันนิดนึง แต่หลักๆ รุ่นใหม่จะมารับในส่วนแอ็คชั่นกับสร้างความบันเทิงให้เรื่องราวซะมากกว่า ส่วนการดำเนินเรื่อง วางแผนต่างๆ ก็ยังเป็นของรุ่นเก่า นักแสดงชุดดั้งเดิม
- แอ็คชั่นอย่างที่เขียนไปแล้ว จัดเต็มมากตลอดทั้งเรื่อง โยนมาทุกๆ 20 นาทีเห็นจะได้ นับตั้งแต่ขึ้นองก์ 2 ของเรื่อง ถล่มกันเละเทะ ยิ่งตอนท้ายเรื่องสุดๆ ถามว่า มันส์สมการรอคอยไหม? ก็มันส์ใช้ได้ครับ ถล่มกันเละจริง ส่วนตัวมองว่า แอ็คชั่นยังพัฒนาได้มากกว่านี้อีกเยอะ แต่เท่านี้ก็มันส์คุ้มราคาแล้ว
- ผ่านมา 20 ปี CG ก็พัฒนาขึ้นตามไปด้วย ว้าว! ขึ้นกว่าภาคแรก เก็บรายละเอียดงานทุกอย่างได้ดีมาก ยานแม่ยิ่งใหญ่ เวอร์วังอลังการ สมราคามาก ในส่วนอื่นก็เช่นกัน แต่ขอไม่เขียน เดี๋ยวจะเป็นการสปอยล์ครับ ไปชมกันเองดีกว่า
- แฟรนไซส์ "Independence Day" ต่อยอดไปได้อีกไกล ถ้าผู้กำกับยังคิดจะทำต่อกันจริงๆ เรียกได้ว่า หลุดขอบความเป็นจริงไปแล้ว ทำแบบ "Transformers" ก็ขายได้ เน้นแอ็คชั่น ถล่มกันเละเทะ
- IMAX เสียงแน่นใช้ได้อยู่ครับ เจ๋งที่สุดในเรื่องก็คงเป็นฉากที่ยานแม่ปรากฎตัวแล้วมาทำลายโลกในช่วงต้นเรื่องนี่แหละครับ สะเทือนแบบรู้สึกได้เลยว่ามันมาแล้ว ภาพยนตร์เข้าฉายในระบบ IMAX เพียงแค่อาทิตย์เดียวเท่านั้น ดังนั้น ถ้ามีโอกาสไปรับชมกันได้ ก็ห้ามพลาดเลยครับ
- งานภาพ 3D ก็ถือว่า แปลงไฟล์ภาพออกมาได้ดีด้วยครับ ขยับหัว หันซ้าย, หันขวา ภาพไม่เหลื่อม แต่ถ้ามากกว่านั้น ภาพก็เหลื่อมตามปกติครับ
โดยรวมเป็นหนังที่บันเทิงมากขึ้น Action & CG จัดเต็ม พัฒนาขึ้นตามยุคสมัย เน้นฮามากขึ้นกว่าภาคแรก งานนี้ รอดู "Independence 3" แน่นอน เนื้อเรื่องปูทางมาซะขนาดนี้แล้ว ไม่มีภาคต่อได้ยังไง แถมผู้กำกับก็ยืนยันเองว่า ทำแน่นอน อาทิตย์นี้แนะนำเลยครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น