ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

Review : Finding Dory

Review : Finding Dory
Score : 8.5/10

"กลมกล่อม ดราม่า, คอมเมดี้ ผสมผสานได้อย่างลงตัว งานภาพสวย 
รู้สึกเหมือนย้อนกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง 
คุ้มค่าแก่การดูบน IMAX เหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในหนังจริงๆ..."


เรื่องย่อ : การตามหาความทรงจำที่หายไปของ ดอรี่ ปลาสีฟ้าที่เคยช่วย มาร์ลินตามหานีโม่ ซึ่งการตามหาความทรงจำในครั้งนี้จะทำให้เราได้เรียนรู้ถึงมิตรภาพและความหมายของคำว่า ครอบครัว

*ก่อนเริ่ม Review ขอบอกก่อนว่า จำความรู้สึกหรืออะไรจากภาคแรกไม่ได้เลย ห่างหายไปนานถึง 13 ปี แถมแผ่น DVD ที่มีอยู่ก็ไม่รู้หายไปไหน จะย้อนกลับมาดูก็ไม่ได้ ดังนั้น ภาคนี้รีวิวแบบนับ 1 เลยนะครับ

- ด้านเนื้อเรื่อง ยังคงกำกับและเขียนบทโดย "Andrew Stanton" จาก "Finding Nemo" ดังนั้น เนื้อเรื่องสามารถไว้วางใจได้มากเลย ดูกระชับขึ้นจากภาคแรกมาก เน้นเจาะกลุ่มตลาดเด็กจริงๆ ดราม่าตามหาครอบครัวของดอรี่ และคอมเมดี้ตลอดทั้งเรื่อง ซึ่งสามารถผสมผสานได้อย่างกลมกล่อมจริงๆ มีเล่นแฟลชแบ็คย้อนอดีตความทรงจำของดอรี่ ซึ่งตัดสลับไปมากับฉากปัจจุบันได้โอเคเลยครับ ไม่มีมึนหรืออะไรเลยแม้แต่น้อย หลายๆ ฉากนึกว่ามิชชั่นอิพพอสซิเบิ้ลด้วยซ้ำครับ แต่ชอบมาก

ในเรื่องจะได้พบกับตัวละครภาคแรกด้วย แต่จะมีตัวละครไหนมาบ้าง ไม่ขอบอกเพราะจำไม่ได้เหมือนกันครับ ฮา ซึ่งคนที่ตามดูมาตั้งแต่ภาคแรกจะร้อง ว้าว! แน่นอน,

ตัวละครใหม่ที่เพิ่มเข้ามาในเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น แฮงค์ (ปลาหมึก), เดสทีนี่ (วาฬ), บิลลี่ (ปลาโลมา) และอีกประมาณ 5-6 ตัวละคร ยอมรับว่า แต่ล่ะตัวละครนี่พกความโจ๊กกันมาแบบจัดเต็มมาก เว้น แฮงค์ ที่นึกว่า อีธาน ฮันท์ ฉบับปลาหมึกด้วยซ้ำ อย่างกะสายลับจริงๆ เดสทีนี่ก็น่ารักมาก วาฬสาวสายตาสั้น ถ้าเป็นคนก็ลืมใส่แว่น

งานภาพ ถือว่าเก็บรายละเอียดได้ดีมาก การเคลื่อนไหวทุกอย่างดูสมูทไปหมด คือรู้สึกว่าไม่ได้ดูอนิเมชั่นที่งานภาพดีขนาดนี้มานานมาก ตั้งแต่เรื่องอะไรก็จำไม่ได้ หลายๆ ฉากดูแล้ว นึกว่าถ่ายจากฉากจริงเอามาใส่ในเรื่องด้วยซ้ำ แยกแทบไม่ออกว่านี่คืออนิเมชั่น

ดนตรีก็ช่วยบิวท์อารมณ์ได้ดีอยู่พอสมควร หลายเพลงเพราะๆที่ชอบก็มี เหมาะกับหนังมาก มีช็อตนึงที่ใช้เพลงลิขสิทธิ์แล้วเข้ากับฉากมาก ขำก๊ากลั่นโรงเลย

สำหรับระบบ IMAX เรื่องนี้ขอแนะนำเลย ดูแล้วสบายตามาก ภาพสว่าง ไหลลื่น รู้สึกเหมือนเข้าไปชมอควาเรียมมายังไงอย่างงั้นเลย ใกล้ชิดมาก!!!

สุดท้ายนี้ต้องขอบอกว่า มาเงียบๆ ไม่ค่อยโปรโมท แต่มาแบบม้ามืดมาก สนุก, บันเทิงกว่าที่คิดเอาไว้เยอะเลยครับ รู้สึกเหมือนได้ย้อนกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง แลัควรค่าแก่การชมบนจอ IMAX จริงๆ เข้าเพียงแค่ 1 สัปดาห์เท่านั้น ถ้าเป็นไปได้ห้ามพลาดเลยครับ

Review By : T.J. & The Doctor @ T.J. Movie Review

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ตัวอย่างแรกและนักแสดงทั้งหมดในภาพยนตร์ Saiki Kusuo no Sainan ฉบับ Live Action

หลังจากประกาศสร้างมาตั้งปี 2015 ก็ได้มีการปล่อยตัวอย่างแรกพร้อมเหล่านักแสดงออกมาทั้งหมดแล้ว ตัวอย่างภาพยนตร์ - https://www.youtube.com/watch?v=4tCACKYolrs&t=0s และมีนักแสดงดังต่อไปนี้

掟上今日子の備忘録。(Okitegami Kyoko no Biboroku) สมุดบันทึกความทรงจำของ โอคิเตะงามิ เคียวโกะ

            ก่อนจะเริ่มต้นวิจารณ์หรือวิเคราะห์ดีล่ะ เลือกไม่ถูก ถ้างั้นใช้เป็นว่า วิเคราะห์ น่าจะเหมาะสมที่สุดล่ะ ต้องขอบอกก่อนว่า ไม่ได้ตามดูซีรี่ส์จากทางฝั่งญี่ปุ่นมานานมากประมาณเกือบ 3 ปีได้ หลังจากซีรี่ส์ “Ando Lloyd - A.I. Knows Love ?” แล้วช่วงนี้ประจวบเหมาะกับไม่มีอะไรดู (เหรอ ? ) เลยลองมานั่งหาซีรี่ส์จากทางญี่ปุ่นดูบ้าง เปลี่ยนแนวจากที่ปกติเดิมจะดูแต่ซีรี่ส์ภาพยนตร์จากทางอเมริกาซะส่วนใหญ่ และ Okitegami Kyoko no Biboroku. เพื่อนก็แนะนำมาตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วก่อนซีรี่ส์จะจบด้วยซ้ำ (ตอนนั้น ฉายไป 8 ตอน ซีรี่ส์มีทั้งหมด 10 ตอน) เขาดูกันไปจะเกือบปีล่ะ ตัวเองพึ่งจะมานั่งดู หยิบขึ้นมาดูเท่านั้นแหละ กลายเป็นติดใจจนเลิกดูไม่ได้ นั่งดูอยู่บนห้องมันทั้งวันนี่แหละครับ ฮา

Review : Kung Fu Panda 3

Review : Kung Fu Panda 3 Score : 8/10 "ดูเพลิน สนุก ตลกฮา ปนน่ารักของเหล่าแพนด้า ตอนท้ายซึ้งดี พร้อมออกตามหาตัวตน ว่าเรานั้นเป็นใคร?" เรื่องย่อ : การกลับมาของพ่อแพนด้าของโปที่หายสาบสูญไปเมื่อนานมาแล้ว ทั้งคู่กลับมาร่วมทางกันสู่เมืองลับแลของแพนด้า เพื่อพบกับพวกแพนด้าตัวตลกหน้าใหม่ แต่เมื่อจอมวายร้ายผู้อยู่เหนือธรรมชาติอย่าง ไค เริ่มกวาดล้างประเทศจีนด้วยการเอาชนะจ้าวแห่งกังฟูทั้งหมด โพต้องทำสิ่งเหลือเชื่ออย่างการศึกษาวิธีการฝึกฝนเหล่าพี่น้องจอมเซ่อที่น่ารักของเขา เพื่อให้กลายเป็นเหล่าสุดยอดกังฟูแพนด้า!