ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

Review : Independence Day (ID4)

Review : Independence Day (ID4) [1996]
Score : 7/10

"งานภาพดีงามตามยุคสมัย แอ็คชั่นโอเค มีเป็นพิธีรีตรอง
Jeff Goldblum คือพระเอกตัวจริงของเรื่อง"


เรื่องย่อ : เมื่อโลกต้องเผชิญหน้ากับกองทัพ มนุษย์ด่างดาวผู้มาเยือน เพื่อเปิดฉากสงครามกับมวลมนุษยชาติ ปรากฏความสะพรึงกลัวขึ้นจากรหัสลับ ที่ส่งผ่านจักรวาลมายังโลก โดยยานอวกาศขนาดยักษ์ เพียงไม่นานความตื่นตากลายเป็นน่ากลัว เมื่อจานผีลำมหึมาปล่อยลำแสงพุ่งสู่เมืองทั่วทุกมุมโลกให้ระเบิดเป็นจุลภายในพริบตา ความหวังสุดท้ายที่เหลือคือ การผนึกกำลังของผู้ที่รอดชีวิตทั้งหมด ตอบโต้ผู้รุกรานนอกพิภพ กลับคืนก่อนที่เผ่าพันธุ์มนุษย์จะถึงกาลอวสาน

- ด้านเนื้อเรื่องเรียบๆ ง่ายๆ ไม่ได้มีอะไรมากเลยครับ เอเลี่ยนมารุกรานโลก เพื่อที่จะยึดโลกและสูบทรัพยากรจากโลกไปให้หมด จึงได้ทำการโจมตีระลอกแรก ทำลายเมืองสำคัญของโลก ทำให้มนุษย์ต้องวางแผนลุกขึ้นสู้กลับ ผนึกกำลังเพื่อพิทักษ์โลกและมวลมนุษยชาติ ตอนจบก็รู้ๆ กันว่าจะจบยังไงนะครับ ถ้าหักมุมคงพีคน่าดู ฮา

ตัวเอเลี่ยนก็ถือว่า ฉลาดไม่เบา ใช้เครื่องมือของมนุษย์เข้าเล่นงานมนุษย์เอง เป็นการบอกให้เราระวังตัวไม่น้อย เครื่องมือที่ทำให้เราสะดวกสบายอยู่ในทุกวัน มันสามารถถูกใช้กลับมาย้อนเล่นงานตัวเราเองได้

- ตัวละคร "David Levinson" รับบทโดย "Jeff Goldblum" บทเด่นกว่า ตัวละคร "Captain Steven Hiller" ที่รับบทโดย "Will Smith" ซะด้วยซ้ำไป เป็นคนที่รู้ความเคลื่อนไหวของเอเลี่ยน จากคลื่นสัญญาณแทรกในดาวเทียม ว่าจะเริ่มโจมตีเราเมื่อไร? หาทางโต้กลับในศึกที่ไม่มีทางชนะได้ ซึ่งก็ไม่ได้คิดได้คนเดียว ตัวพ่อที่รับบทโดย "Judd Hirsch" เป็นคนจุดประกายความคิดให้พระเอก ถ้าไม่มีพ่อพระเอกก็คงแพ้ โดนยึดครองโลกไปเรียบร้อยแล้ว

- สำหรับ "Will Smith" น่าจะเป็นการเอาชื่อนักแสดงมาขาย เพราะไม่ได้มีบทเด่นอะไรมาก อย่างที่บอกไปก่อนหน้า มาเด่นเอาก็ตอนท้ายของเรื่อง ซึ่งตอนนั้น ส่วนตัว Will ก็ดังจากภาพยนตร์คู่หู Bad Boys ที่ออกฉายในปีก่อนหน้านั้นด้วย ดังนั้น ภาคต่อ "Resurgence" ส่วนตัวคิดว่า ไม่ต้องมี Will ก็สามารถเดินเรื่องต่อได้ครับ

CG ถือว่าใช้คุ้มทุน และเก็บรายละเอียดได้ดีเลยทีเดียว สำหรับหนังเมื่อ 20 ปีก่อน ผสมผสาน Prop ประกอบฉากกับฉากจริงได้ดี ยานอวกาศอลังการมาก สมกับสำหรับสมัยนั้นแล้วจริงๆ Action มีเป็นพิธีรีตรอง ไม่ได้เยอะอะไรมาก ซึ่งก็ถือว่าโอเคแล้วครับ

โดยรวม "Independence Day" ถือว่า เป็นหนังที่โอเค สามารถดูฆ่าเวลาได้ แต่งาน CG ยอมรับว่าอยู่ในเกณฑ์ดี สำหรับยุคสมัยนั้นเลยจริงๆ ครับ คุ้มทุกดอลลาร์ ก็หวังว่าภาคต่อ "Independence Day : Resurgence" จะสามารถทำได้ดีขึ้นยิ่งกว่าภาคแรก และพัฒนาไปตามยุคสมัย ให้สมการรอคอยสำหรับผู้ชมภาคแรกเมื่อ 20 ปีก่อนนะครับ

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ความรู้สึกส่วนตัวเกี่ยวกับการสร้างภาคต่อ ถามเองตอบเอง แต่ก็คิดว่า ผู้อ่านก็คงอยากจะรู้เช่นเดียวกัน

หนังควรมีภาคต่อไหม? 

ตอบ : ส่วนตัวยังไงก็ได้ครับ ไม่ได้มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว

• "Will Smith" ไม่กลับมา หนังจะล่มไหม? 

ตอบ : ภาคแรกบทก็ไม่ได้เด่นมาก ถึงแม้ว่าจะมาทำให้ฮาขึ้นบ้าง แต่ส่วนตัวก็ไม่ได้มีปัญหาว่าจะเอามาหรือไม่เอามา เพราะไม่ได้เด่นอะไรมากจริงๆ ครับ

• "Will Smith" เรียกค่าตัว 50 ล้านจริงรึ? 

ตอบ : จริงครับ ส่วนตัวคิดว่า เจ้าตัวคงไม่อยากกลับมาเล่นแล้วด้วย เพราะก่อนหน้านี้เมื่อปีที่แล้ว ก็บอกเองเลยว่า จะไม่รับเล่นหนังภาคต่อ หากไม่ดีจริงๆ ซึ่งภาคแรกเจ้าตัวบทก็ไม่ได้เยอะอย่างที่กล่าวไป ดังนั้น คงเรียกค่าตัวสูง เพื่อให้สตูดิโอตัดใจแหละครับ 

ซึ่งทางสตูดิโอก็ได้ให้ผู้เขียนบท เขียนบทไว้ 2 แบบด้วยเช่นกัน เผื่อกรณีว่า "Will Smith" ไม่กลับมาเล่นในภาคต่อนี้จริงๆ

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

"Independence Day - ID4 : สงครามวันดับโลก" Remaster และวางจำหน่ายในรูปแบบ DVD & Blu-ray แล้ว วันนี้ โดย Catalyst

"Independence Day : Resurgence - ID4 : สงครามใหม่วันบดโลก" พร้อมแสดงแสนยานุภาพให้เหล่าเอเลี่ยนได้ประจักษ์ 23 มิถุนายน ในระบบ 2D, 3D, RealD 3D, IMAX 3D, MX4D & 4DX

Review By : T.J. @ T.J. Movie Review

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ตัวอย่างแรกและนักแสดงทั้งหมดในภาพยนตร์ Saiki Kusuo no Sainan ฉบับ Live Action

หลังจากประกาศสร้างมาตั้งปี 2015 ก็ได้มีการปล่อยตัวอย่างแรกพร้อมเหล่านักแสดงออกมาทั้งหมดแล้ว ตัวอย่างภาพยนตร์ - https://www.youtube.com/watch?v=4tCACKYolrs&t=0s และมีนักแสดงดังต่อไปนี้

掟上今日子の備忘録。(Okitegami Kyoko no Biboroku) สมุดบันทึกความทรงจำของ โอคิเตะงามิ เคียวโกะ

            ก่อนจะเริ่มต้นวิจารณ์หรือวิเคราะห์ดีล่ะ เลือกไม่ถูก ถ้างั้นใช้เป็นว่า วิเคราะห์ น่าจะเหมาะสมที่สุดล่ะ ต้องขอบอกก่อนว่า ไม่ได้ตามดูซีรี่ส์จากทางฝั่งญี่ปุ่นมานานมากประมาณเกือบ 3 ปีได้ หลังจากซีรี่ส์ “Ando Lloyd - A.I. Knows Love ?” แล้วช่วงนี้ประจวบเหมาะกับไม่มีอะไรดู (เหรอ ? ) เลยลองมานั่งหาซีรี่ส์จากทางญี่ปุ่นดูบ้าง เปลี่ยนแนวจากที่ปกติเดิมจะดูแต่ซีรี่ส์ภาพยนตร์จากทางอเมริกาซะส่วนใหญ่ และ Okitegami Kyoko no Biboroku. เพื่อนก็แนะนำมาตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วก่อนซีรี่ส์จะจบด้วยซ้ำ (ตอนนั้น ฉายไป 8 ตอน ซีรี่ส์มีทั้งหมด 10 ตอน) เขาดูกันไปจะเกือบปีล่ะ ตัวเองพึ่งจะมานั่งดู หยิบขึ้นมาดูเท่านั้นแหละ กลายเป็นติดใจจนเลิกดูไม่ได้ นั่งดูอยู่บนห้องมันทั้งวันนี่แหละครับ ฮา

Review : Kung Fu Panda 3

Review : Kung Fu Panda 3 Score : 8/10 "ดูเพลิน สนุก ตลกฮา ปนน่ารักของเหล่าแพนด้า ตอนท้ายซึ้งดี พร้อมออกตามหาตัวตน ว่าเรานั้นเป็นใคร?" เรื่องย่อ : การกลับมาของพ่อแพนด้าของโปที่หายสาบสูญไปเมื่อนานมาแล้ว ทั้งคู่กลับมาร่วมทางกันสู่เมืองลับแลของแพนด้า เพื่อพบกับพวกแพนด้าตัวตลกหน้าใหม่ แต่เมื่อจอมวายร้ายผู้อยู่เหนือธรรมชาติอย่าง ไค เริ่มกวาดล้างประเทศจีนด้วยการเอาชนะจ้าวแห่งกังฟูทั้งหมด โพต้องทำสิ่งเหลือเชื่ออย่างการศึกษาวิธีการฝึกฝนเหล่าพี่น้องจอมเซ่อที่น่ารักของเขา เพื่อให้กลายเป็นเหล่าสุดยอดกังฟูแพนด้า!