ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

Review : 君の名は。(Kimi no na wa : Your name.)

"Review : 君の名は。(Kimi no na wa : Your name.)
Score : 9.25/10


"หลากหลายอารมณ์ในเรื่องเดียว พล็อตดี งานภาพดี เพลงก็ดี
และก็ยังแฝงข้อคิดดีๆ ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง"


เรื่องย่อ : เรื่องราวปาฏิหาริย์ระหว่างของคนสองคน มิตสึฮะ เด็กสาวผู้อาศัยอยู่ในชนบทแต่มีความฝันที่อยากไปใช้ชีวิตในเมืองกรุง และ ทากิ เด็กหนุ่มในโตเกียวผู้ทำงานพิเศษที่ร้านอาหารอิตาเลียน และสนใจในงานด้านศิลปะ วันหนึ่ง มิตสึฮะได้ฝันว่าตัวเองกลายเป็นเด็กหนุ่ม ขณะที่ทากิฝันว่าตัวเองกลายเป็นเด็กสาวในชนบททั้งๆที่เขาไม่เคยไปมาก่อน ทั้งสองจึงต่างเดินทางเพื่อไขความลับของความฝัน จนทำให้เกิดเป็นความผูกพันธ์ขึ้นและกระโจนสู่เรื่องราวที่ไม่คาดฝัน

- สำหรับด้านเนื้อเรื่องถือว่า หยิบเอาประเด็นที่เป็นสิ่งลี้ลับและยังไม่สามารถหาคำตอบได้นั่นก็คือ "แดนสนทยา" โดยนำมาโยงเข้ากับเนื้อเรื่องหลักก็คือการที่ มิตสึฮะ และ ทากิ สลับร่างกันในความฝัน ซึ่งสิ่งที่หยิบมาเล่นถือว่านำมาเชื่อมโยงกันได้ดี และก็มีเล่นมุกฮาๆ ตลกๆ เยอะมาก ตลอดช่วงครึ่งเรื่องแรก จนมาถึงช่วงครึ่งเรื่องหลังที่จะเริ่มเฉลยสิ่งต่างๆ พร้อมกับดราม่า เรียกน้ำตา (T.J. ไม่ร้อง แต่ The Doctor ร้อง) เรียกได้ว่า ตอนเฉลยทุกอย่างที่เชื่อมโยงเข้ามา แบบ เหยด!!! โคตรเทพเลยพี่ ผมอยากเขียนบทหนังให้ได้ครึ่งนึงของพี่จังเลย...

- นอกจากนั้นก็ยังแฝงแง่คิดสำหรับในเรื่องความรักด้วยว่า "เวลาเป็นสิ่งที่ไม่สามารถย้อนกลับไปแก้ไขได้ ดังนั้น จงดูแลและใส่ใจคนที่รักให้ดีที่สุด เพราะถึงตอนที่ต้องจาก จะมาเรียกหากันยังไง จะทำดีแค่ไหน ก็ไม่มีโอกาสที่จะได้ทำมันอยู่ดี"

- และอีกสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยก็คือการนำวัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่นที่เป็นพวกเรื่องความเชื่อต่างๆ สอดแทรกเข้ามา อย่างเรื่องการถักร้อยเชือกก็จะมีความหมายถึงการเชื่อมโยงของผู้คน หรืออย่าง คุชิคามิ-สาเก ที่เป็นการทำสาเกขึ้นมาเพื่อไหว้เทพเจ้า ด้วยวิธีการเคี้ยวข้าวให้เป็นน้ำ เป็นต้น ซึ่งถ้าใครที่ชื่นชอบความเป็นญี่ปุ่นและรู้เรื่องวัฒนธรรมตรงนี้ก็จะอินมากขึ้น ส่วนใครที่ไม่ได้ตามลึกอย่างผู้เขียน ก็ถือว่าได้ความรู้ใหม่ ได้รู้วัฒนธรรมของคนญี่ปุ่นมากขึ้นจากเรื่องนี้ไปเลย...

- แต่ว่า ตัวเรื่องก็มีข้อเสียอยู่ตรงที่ว่า ตอนประเด็นสลับร่าง จะเน้นไปทางฝั่งของมิตสึฮะมากกว่า ของทากิ แทบจะไม่มีเลย ส่วนใหญ่จะเป็นคำบอกเล่าจาก เทสซี่ & ซายะจัง ซะมากกว่า แม้จะมีภาพแทรก แต่ก็ไม่ค่อยจะเป็นเรื่องเป็นราวสักเท่าไร ส่วนครึ่งหลังก็สลับตัวละครดำเนินเรื่องเป็นทากิแทน ซึ่งช่วงครึ่งหลังพอจะเข้าใจได้อยู่ แต่ช่วงครึ่งแรก พอเน้นด้านเดียว ทำให้รู้สึกมันไปไม่สุด ไปไม่ครบทุกด้าน แถมชวนงงไปอีกนิดๆ ด้วยต่างหาก ต้องใช้เวลานิดนึง ก็ปรับตัวได้ล่ะ

- ด้านงานภาพ เมื่อเป็นผู้กำกับ "ชินไค มาโคโตะ" แล้ว ก็ต้องมีการนำบรรยากาศจริงๆ ของเมืองมาแปลงเป็นภาพอนิเมชั่นด้วย ซึ่งก็ถือว่าทำออกมาได้ดีงามเช่นเคย ในส่วนที่เป็นเมืองอิโตโมริ เมืองชนบทของมิตสึฮะ บรรยากาศก็ดูสวยงาม ดูแล้วสดชื่นสบายตา จนอยากไปนอนพักซะเหลือเกิน (แต่ไปพักแล้ว ไม่ขอเหตุการณ์แบบในเรื่องนะ ใครที่ไปดูแล้วคงจะเข้าใจความหมายว่าพูดถึงอะไรนะครับ) ส่วนตัวเมืองที่ทากิอาศัยอยู่ ก็จะเป็นสภาพบรรยากาศของเมืองเลยจริงๆ บรรยากาศแออัด มีแต่ความวุ่นวาย ก็สะท้อนวิถีชีวิตของทั้ง 2 แบบได้ดีครับ บางฉากก็มีการใช้โมเดล 3D เข้ามา ภาพบางจุดดูแล้วก็ยังโดดๆ เช่น รถบนถนนหรือรถไฟ ที่วาดถนนและรางเป็น 2D แต่ใช้รถและรถไฟเป็นโมเดล 3D แต่ว่า งานภาพโดยรวมก็ยังถือว่าโอเคอยู่ครับ แม้จะมีภาพลอยๆ บ้าง แต่ก็เป็นเพียงส่วนน้อยครับ

- เสียงพากย์ตัวละครเอกทั้ง 2 "ทากิ" ให้เสียงโดย "คามิกิ ริวโนะสุเกะ" และ "มิตสึฮะ" ให้เสียงโดย "คามิชิราอิชิ โมเนะ" ก็ถือว่า ต่างฝ่ายต่างก็ให้เสียงออกมาได้ดีทั้งคู่ โดยเฉพาะในส่วนตอนที่สลับร่าง ตอน "มิตสึฮะ" ไปอยู่ในร่าง "ทากิ" ลักษณะการพูดก็จะออกเป็นผู้หญิงนิดๆ แล้วก็มีเขินๆ อายๆ หน่อย

- เพลงประกอบได้วง RADWIMPS มาทำเพลงให้ ซึ่งก็มีเพลงที่มีเนื้อร้องด้วยอย่าง Zenzenzense, Sparkle & Nandemonaiya และเพลงที่มีแค่เสียงประกอบ ซึ่งก็ถือว่าช่วยบิ๊วท์อารมณ์กับตัวเรื่องได้มากขึ้น งานนี้ ต้องบอกเลยว่า ดูจบแล้วต้องหาซื้อเพลงมาฟังกันเลยทีเดียว...

โดยภาพรวมแล้ว 君の名は。(Kimi no na wa : Your name.) ก็ถือว่า เป็นผลงานของ "ชินไค มาโคโตะ" ที่ทำออกมาชวนซึ้งและคอยให้ติดตามเนื้อเรื่องไปเรื่อยจนจบ ถ้าเทียบกับเรื่องก่อนๆ หน้าคือขยี้หัวใจเลย เอ็งต้องร้องไห้ออกมา อะไรอย่างงี้ เรื่องนี้ถือว่าซอฟท์ลงมาพอตัวเลย สำหรับใครที่เป็นคอหนังรักและหนังดราม่า รวมไปถึงเป็นคออนิเมชั่น และเป็นคองานของอาจารย์ชินไค ก็ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง!!!

สุดท้ายนี้ก็ต้องขอขอบคุณบัตรชมภาพยนตร์รอบพิเศษจากทาง M Pictures ด้วยนะครับ ที่ได้เชิญให้ไปชมอนิเมชั่นดีๆ จากทางญี่ปุ่นส่งท้ายปี

"อนิเมชั่นเรื่องล่าสุดของ ชินไค มาโคโตะ ที่จะทำให้คุณหัวเราะ, เหงา, เศร้า และซึ้ง
พร้อมกับแฝงข้อคิด ให้ดูแลคนที่รักให้มากที่สุด เพราะอดีตไม่สามารถย้อนกลับไปแก้ไขได้"


Review By : T.J. & The Doctor @ T.J. MOVIE REVIEW

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ตัวอย่างแรกและนักแสดงทั้งหมดในภาพยนตร์ Saiki Kusuo no Sainan ฉบับ Live Action

หลังจากประกาศสร้างมาตั้งปี 2015 ก็ได้มีการปล่อยตัวอย่างแรกพร้อมเหล่านักแสดงออกมาทั้งหมดแล้ว ตัวอย่างภาพยนตร์ - https://www.youtube.com/watch?v=4tCACKYolrs&t=0s และมีนักแสดงดังต่อไปนี้

"โกไคเจอร์" กลับมาครบทีม ร่วมฉลองซูเปอร์เซนไตซีรี่ส์ครบ 2,000 ตอน

นับตั้งแต่  "ขบวนการ ห้าจอมพิฆาต โกเรนเจอร์"  ได้ออกฉายตั้งแต่วันที่  4 เมษายน 1975  มาจนถึงขบวนการล่าสุด  "ขบวนการ ราชันย์สรรพสัตว์ จูโอเจอร์"  ซึ่งในวันที่  11 กันยายน  ก็จะฉายครบ  2,000 ตอน พอดี ในตอนที่  28-29   (ฉายวันที่ 4 และ 11 ก.ย.)  จึงได้มีตอนพิเศษขึ้นฉลอง โดยตอนพิเศษทั้ง  2  ตอน จะได้นักแสดงจาก  "ขบวนการ โจรสลัด โกไคเจอร์"  กลับมาแบบครบทีม ในรอบ  3 ปีครึ่ง  หลังจากภาพยนตร์  "ขบวนการ จารชน โกบัสเตอร์ ปะทะ ขบวนการ โจรสลัด โกไคเจอร์ เดอะมูฟวี่"

掟上今日子の備忘録。(Okitegami Kyoko no Biboroku) สมุดบันทึกความทรงจำของ โอคิเตะงามิ เคียวโกะ

            ก่อนจะเริ่มต้นวิจารณ์หรือวิเคราะห์ดีล่ะ เลือกไม่ถูก ถ้างั้นใช้เป็นว่า วิเคราะห์ น่าจะเหมาะสมที่สุดล่ะ ต้องขอบอกก่อนว่า ไม่ได้ตามดูซีรี่ส์จากทางฝั่งญี่ปุ่นมานานมากประมาณเกือบ 3 ปีได้ หลังจากซีรี่ส์ “Ando Lloyd - A.I. Knows Love ?” แล้วช่วงนี้ประจวบเหมาะกับไม่มีอะไรดู (เหรอ ? ) เลยลองมานั่งหาซีรี่ส์จากทางญี่ปุ่นดูบ้าง เปลี่ยนแนวจากที่ปกติเดิมจะดูแต่ซีรี่ส์ภาพยนตร์จากทางอเมริกาซะส่วนใหญ่ และ Okitegami Kyoko no Biboroku. เพื่อนก็แนะนำมาตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วก่อนซีรี่ส์จะจบด้วยซ้ำ (ตอนนั้น ฉายไป 8 ตอน ซีรี่ส์มีทั้งหมด 10 ตอน) เขาดูกันไปจะเกือบปีล่ะ ตัวเองพึ่งจะมานั่งดู หยิบขึ้นมาดูเท่านั้นแหละ กลายเป็นติดใจจนเลิกดูไม่ได้ นั่งดูอยู่บนห้องมันทั้งวันนี่แหละครับ ฮา