ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

Review : Inferno

Review : Inferno
Score : 8/10

"ตื่นเต้น ลุ้นระทึกตลอดทั้งเรื่อง ไม่ซับซ้อนมาก ดูง่ายที่สุดใน 3 ภาค หักมุมนี่เงิบจริง
IMAX บิ๊วท์อารมณ์ขึ้นมาก"


เรื่องย่อ : หลังจากลืมตาขึ้นมา "Robert Langdon" พบว่าตัวเองตื่นขึ้นมาท่ามกลางโรงพยาบาลที่เขาไม่รู้จัก เขารู้สึกมึนงงและบาดเจ็บที่หัว เขาจำอะไรไม่ได้เลยกับเหตุการณ์ที่ผ่านมาใน 36 ชั่วโมงก่อน เขามาอยู่ที่นี้ได้อย่างไร ? แต่ก่อนความจำเขาจะกลับคืนมา เขาค้นพบว่าในตัวของเขามีอุปกรณ์ชิ้นหนึ่งที่จะนำพาเขาไปหาเชื้อโรคที่ร้ายแรงชนิดที่คร่าชีวิตของคนครึ่งโลกได้ เขาต้องออกแก้ไขปริศนาโดยได้รับความช่วยเหลือจาก "Dr. Sienna Brooks" ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป…

*ก่อนเริ่ม Review นี้ จะไม่มีการอิงกับนิยายของ Dan Brown และจะไม่นำไปเปรียบเทียบ "The Da Vinci Code & Angels and Demons" สักเท่าไร เพราะจำเรื่องราวไม่ค่อยได้แล้ว

- สำหรับด้านเนื้อเรื่องก็ตามเรื่องย่อเลย ก็คือ "Robert Langdon" ต้องตามหาเชื้อไวรัสอินเฟอร์โน่ให้เจอ เพื่อที่จะหยุดยั้งในการทำลายมนุษยชาติ พร้อมกับการฟื้นความทรงจำที่หายไป ระหว่างที่กำลังตามหาอินเฟอร์โน่อยู่ โดยร่วมมือกับ "Dr. Sienna Brooks"

- ก็ถือว่า ยังคงซับซ้อนเช่นเคย มีหักมุมตามปกติ แต่ว่า เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่ดูง่ายที่สุด ซับซ้อนน้อยที่สุด แต่ก็ยังคงลุ้นระทึกเช่นเคย ด้วยความที่พอดูง่าย ทำให้เราไม่ต้องมานั่งดูซ้ำหลายๆ รอบ เพื่อเก็บรายละเอียดว่า เราตกหล่นอะไรไปบ้างรึเปล่า? หรือจะหลับไปไหนช่วงไหน สำหรับเรื่องนี้เลยถือว่า เป็นเรื่องที่ดูแล้วเพลินที่สุดจริงๆ

- ในส่วนจุดหักมุม บางจุดก็หักแบบง่ายๆ เดาได้ แต่มีอยู่จุดนึง หักกันมันซึ่งๆ หน้าเลย ไม่คิดว่าอยู่ดีๆ จะมาหักกันงี้ เรียกได้ว่า เงิบแดกคาโรงกันไป แต่แอบชอบนะ

- ฉากนรกของดันเต้ ที่มาเป็นภาพนิมิตเหตุการณ์ ก็ถือว่าน่ากลัวนิดๆ แต่ก็ไม่มาก เพราะฉากส่วนใหญ่ดันปล่อยมาในตัวอย่างจะหมดแล้ว กลายเป็นไม่ค่อยมีเซอร์ไพรซ์เท่าไรเลย

- ช่วงตอนที่ศจ.ความจำเสื่อมจะได้เห็นอะไรฮาๆ บ้างเล็กๆ น้อยๆ เพราะส่วนใหญ่ เนื้อหาสาระจะมากันแบบจัดเต็มมาก เรียกได้ว่า ถ้าไม่ดูกันแล้วง่วงไปข้าง ก็จะนั่งรับข้อมูลกันไม่ทันเลย แต่สำหรับภาคนี้ในส่วนช่วงครึ่งหลังที่จะเริ่มเจาะลงเนื้อหา ก็ถือว่า โอเค ดูแล้วเข้าใจได้ง่ายและพอประมาณ ไม่ลงลึกถึงขนาดที่จะต้องมาดูซ้ำหลายๆ รอบเพื่อให้เข้าใจ เพราะพูดกันเร็วเหลือเกิน เรื่องนี้ก็เร็วเหมือนกันนะ แต่ดรอปลงมาพอตัว

- ฉากวิ่งหนีของ "Robert Langdon" ก็ยังคงทำออกมาได้ลุ้นระทึกเหมือนเดิม ตอนที่โดรนไล่ล่า ซึ่งในตัวอย่างก็มีอยู่ ดูแล้วแบบ... โดรนพี่บินไวขนาดนั้นเลยรึ? โม้ชิบหาย แต่ก็ยังคงสนุกเหมือนเดิม เพราะตอนหนี ก็ต้องใช้ทริคอะไรเก่าๆ อย่างพวกทางลับที่ถูกสร้างซ่อนเอาไว้ แอบอยากไปตามรอยเหมือนกันนะ

- ด้านงานภาพแอบรู้สึกว่า ไม่ค่อยมีอะไรให้น่าจดจำเท่าไร ตอน "The Da Vinci Code & Angels and Demons" มีฉากสวยๆ ถ่ายทอดออกมาแล้ว ดูรู้สึกถึงความขลังและความยิ่งใหญ่พอตัว แต่สำหรับ "Inferno" ไม่ค่อยจะมีเท่าไรเลย

- เพลงประกอบก็ยังคงประพันธ์โดย "Hans Zimmer" เหมือนกับ 2 ภาคแรก จังหวะก็ยังคงดึงดูดแล้วบิ๊วท์อารมณ์ร่วมไปกับหนังได้เช่นเคย จังหวะดนตรีผสมกับแนวๆ อิเล็คโทร ซึ่งเป็นสายถนัดของ Junkle XL ด้วย ยิ่งทำให้เพลงดูทันสมัยแล้วแปลกๆ หูไปอีกแบบนึง ยิ่งพอดู IMAX เสียงอัพระดับเพิ่มขึ้นไปอีกเท่านึงจริงๆ

- IMAX ช่วยบิ๊วท์อารมณ์เพิ่มขึ้นมากจริงๆ มีฉากนึงสะดุ้งตกใจเลย ยอมใจกับระบบเสียง Laser จริงๆ ส่วนด้านภาพ ได้เห็นฉากที่ใหญ่มากขึ้น เก็บรายละเอียดภาพได้มากขึ้นกว่า โรงปกติ

โดยรวมก็ถือว่าไม่ได้แย่ขนาดนั้น สามารถดูได้เพลินๆ อาจจะไม่ดีเท่า 2 ภาคก่อน แต่ยังไงก็ถือว่าดูสบายที่สุด ไม่ต้องนั่งจับรายละเอียดอะไรเยอะ ไม่ซับซ้อนอะไรมาก ใครที่เป็นแฟนๆ ของหนัง "Robert Langdon Series" ก็อย่าพลาดกันนะครับ

สุดท้ายนี้ก็ต้องขอขอบคุณบัตรชมภาพยนตร์รอบพิเศษจากทาง Sony Pictures Thailand ด้วยครับ

Review By : T.J. @ T.J. MOVIE REVIEW

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

掟上今日子の備忘録。(Okitegami Kyoko no Biboroku) สมุดบันทึกความทรงจำของ โอคิเตะงามิ เคียวโกะ

            ก่อนจะเริ่มต้นวิจารณ์หรือวิเคราะห์ดีล่ะ เลือกไม่ถูก ถ้างั้นใช้เป็นว่า วิเคราะห์ น่าจะเหมาะสมที่สุดล่ะ ต้องขอบอกก่อนว่า ไม่ได้ตามดูซีรี่ส์จากทางฝั่งญี่ปุ่นมานานมากประมาณเกือบ 3 ปีได้ หลังจากซีรี่ส์ “Ando Lloyd - A.I. Knows Love ?” แล้วช่วงนี้ประจวบเหมาะกับไม่มีอะไรดู (เหรอ ? ) เลยลองมานั่งหาซีรี่ส์จากทางญี่ปุ่นดูบ้าง เปลี่ยนแนวจากที่ปกติเดิมจะดูแต่ซีรี่ส์ภาพยนตร์จากทางอเมริกาซะส่วนใหญ่ และ Okitegami Kyoko no Biboroku. เพื่อนก็แนะนำมาตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วก่อนซีรี่ส์จะจบด้วยซ้ำ (ตอนนั้น ฉายไป 8 ตอน ซีรี่ส์มีทั้งหมด 10 ตอน) เขาดูกันไปจะเกือบปีล่ะ ตัวเองพึ่งจะมานั่งดู หยิบขึ้นมาดูเท่านั้นแหละ กลายเป็นติดใจจนเลิกดูไม่ได้ นั่งดูอยู่บนห้องมันทั้งวันนี่แหละครับ ฮา

Review : Detective Conan EPISODE “ONE”

Review : Detective Conan EPISODE “ONE” Score : 8.5/10 "เสริมเนื้อเรื่องได้ดี ดูเพลิน สนุกมาก ตัวละครมากันพร้อมหน้า ใครที่เป็นแฟนโคนันฟินแน่..." “ยอดนักสืบจิ๋ว โคนัน EPISODE “ONE” กำเนิดยอดนักสืบจิ๋ว” เป็นอนิเมะตอนพิเศษที่นำเอาตอนที่ 1 ของโคนัน มาขยายเรื่องราวเพิ่มขึ้น ว่าตัวละครแต่ล่ะตัว ทำอะไรอยู่ที่ไหนอย่างไรบ้าง และมีเนื้อเรื่องบางส่วนที่ขยายเรื่องราวนอกจากตอนที่ 1 มาด้วย ซึ่งฉายไปเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม ที่ผ่านมาในประเทศญี่ปุ่น และบ้านเราก็ได้เข้าฉายในโรงภาพยนตร์วันที่ 22 ธันวาคม ครับ แต่ก่อนหน้านั้น ก็สามารถชมได้ทาง iFlix ตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม ถือว่า ฉายห่างจากญี่ปุ่นแค่ประมาณ 1-2 อาทิตย์เอง

รวมข่าวทั้งหมดของ "Supergirl Season 2" และสิ้นปีนี้เตรียมพบ Big Event ของ DC Super Heroes ในช่อง The CW

หลังจากช่วงกลางเดือนที่ผ่านมาได้มีการ  ยืนยัน! "Supergirl" ย้ายจากช่อง CBS ไป CW พร้อมทีมนักแสดงกลับมาครบชุด  ก็ได้มีข้อมูลใหม่เพิ่มเติมออกมา พร้อม Teaser อย่างเป็นทางการ ว่าสิ้นปีนี้เตรียมพบกับการเปลี่ยนแปลงของ "Supergirl" โดยการย้ายมาฉายในช่อง The CW นั่นเอง