ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

Review : JOY

Review : JOY
Score : 9/10

"สู้ถึงที่สุดเพื่อความฝันของตัวเอง จุดประกายความฝัน สร้างแรงบันดาลใจ
เจนลอว์เล่นดีมาก บทยอด เพลงประกอบเยี่ยม ดูเพลิน จริงจัง, ฮา, ดราม่า
ในเวลาเดียวกัน เสียดายจบเรียบไปนิด"


เรื่องย่อ : การผจญภัยสุดตื่นเต้นของ "Joy Mangano" ที่รักษาครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์แบบของเธออย่างสุดความสามารถเมื่อต้องเจอกับเหตุการณ์ที่ยากจะเอาชนะได้ เธอถูกผลักดันด้วยความจำเป็น ความจริงใจ และความฝันชั่วชีวิต จอยได้รับชัยชนะในที่สุดในฐานะผู้ค้นพบและผู้นำแห่งอาณาจักรหลายหมื่นล้านเหรียญ ที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของเธอได้เพราะครอบครัวของเธอ

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


ด้านเนื้อเรื่อง ยอมรับเลยว่าเรื่องนี้สร้างแรงบันดาลใจในการสู้เพื่อความฝันของตัวเองเป็นอย่างมาก หลายๆ คนมักจะมีความฝันที่เคยวาดฝันเอาไว้ตั้งแต่เด็กๆ แต่พอโตมา ความฝันที่เคยวาดไว้ ก็เหมือนหายไปซะดื้อๆ ถูกเก็บอยู่ในกล่องๆ นึง ในใจเรา ไม่เคยคิดที่จะเปิดมันออกมาอีกเลย เพราะเรามักจะมองว่า มันก็แค่ความฝันในวัยเด็ก ยังไงก็ไม่มีทางเป็นจริงได้ ทั้งที่มันอาจจะเป็นจริงก็ได้ แค่เรายังไม่ได้ลองทำมัน

สำหรับเรื่องนี้ ตัวละคร Joy Mangano ได้เอาความฝันในวัยเด็กที่เก็บไว้มาสานต่อให้เป็นจริง นั่นก็คือการประดิษฐ์สิ่งของที่อำนวยความสะดวกขึ้น ความฝันที่เก็บเอาไว้ ใช่ว่าจำเป็นที่จะต้องทิ้งหรือผนึกมันไว้ในกล่อง ถ้าเราคิดที่จะทำก็อย่าไปกลัว


- ในภาพยนตร์ เราจะได้เห็นปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับ Joy ไม่ว่าจะเป็นทั้งเรื่องครอบครัว, การทำงาน, ชีวิตคู่, ถูกหลอกลวงทางธุรกิจ และอีกมากมาย เรียกได้ว่า ตกอับแบบสุดๆ เลยก็ว่าได้ แต่เธอก็ฝ่าฝันทุกอุปสรรค ยอมทำทุกวิถีทาง เพื่อให้ความฝันของตนเป็นจริง คนส่วนใหญ่พอขึ้นไปอยู่จุดสูงสุดของชีวิตแล้ว ก็จะคิดว่า 'ชีวิตนี้ไม่มีอะไรลำบากอีกต่อไปแล้ว' ซึ่งพอถึงเวลาที่ทุกอย่างมันพลิกผัน จากจุดสูงสุดกลายเป็นจุดต่ำสุด คนเรามักจะเป๋ ทำอะไรไม่ถูกเลยทันที แต่สำหรับ Joy ไม่ใช่เช่นนั้นเลย

เรื่องราวทั้งหมดสามารถสร้างแรงบันดาลใจ ให้สู้เพื่อฝันได้จริงๆ ดูแล้วอาจจะเหนื่อยๆ หน่อย เพราะการเล่าเรื่องมันฉับไว รวบรัดพอตัวเลย จริงจังและดราม่ามาเรื่อยๆ มีแทรกคอมเมดี้ฮาๆ มาบ้าง แต่ไม่ค่อยผ่อนคลายความเหนื่อยที่ดูมา ถึงจะเป็นอย่างงั้น ก็สามารถดูเพลินๆ ได้ครับ

นอกจากสร้างแรงบันดาลใจให้สู้ฝัน เรื่องนี้ก็ยังได้เห็นถึงเบื้องหลังการทำธุรกิจอีกด้วยว่า เวลาจะลงมือทำอะไรควรศึกษาทุกอย่างให้ดีก่อน ทั้งเรื่องกฎหมาย การลงทุน การจดสิทธิบัตร (หากว่า เราได้มีการคิดค้นนวัตกรรมขึ้นมา) เพราะถ้าไม่ศึกษาอะไรเหล่านี้ เราก็จะถูกหลอกหรือเอารัดเอาเปรียบทางธุรกิจได้ พูดกันง่ายๆ ก็คือ จะทำอะไรก็ควรที่จะศึกษาให้ละเอียดอย่างถี่ถ้วนก่อน อย่าคิดว่าการทำธุรกิจนึง ไม่ศึกษาอะไรเลย มันจะทำได้ง่ายๆ โดยการปล่อยให้คนอื่นทำแทนหมด เราควรที่จะทำเองด้วย ไม่งั้นก็จะโดนเอารัดเอาเปรียบนี่แหละ...

การแสดงของ "Jennifer Lawrence" ถือว่าสอบผ่านเกือบทั้งหมด โดยเฉพาะบทบาทของนักธุรกิจมือใหม่ ผู้ไม่เคยมีประสบการณ์อะไรมาก่อนเลย ตอนท้ายนี่แอบสะใจมากจริงๆ แต่บทบาทของคุณแม่ลูก 2 ยังไม่ผ่าน ดูแล้วแบบ เหมือนพี่คนนึงที่มีปัญหาชีวิตแล้วไปบ่นกับน้องยังไงอย่างงั้นแหละ เลยยังรู้สึกแปลกๆ อยู่


"เมื่อถึงตอนที่เราเป็นคู่แข่งการค้า เราก็ยังคงเป็นเพื่อนกัน" จำไม่ได้ว่าในหนังพูดแบบนี้รึเปล่า? แต่มันความหมายก็ประมาณนี้แหละ ยอมรับว่าเป็นคำพูดที่ดีมาก เพราะคนเราส่วนใหญ่มักจะหาผลประโยชน์จากทางธุรกิจกันมากกว่า ใครให้ได้มากกว่าก็จะเป็นเพื่อนกับคนนั้น โดยจะพูดในลักษณะที่ 'เราเป็นเพื่อนทางการค้ากันนะ' แต่พอเจอคนที่ได้ผลประโยชน์มากกว่า ที่พูดมาก็ลอยลมทันที สำหรับ "Neil Walker & Joy Mangano" ถือว่าเริ่มต้นมาด้วยกัน ในการผลักดันม็อพถูพื้นให้ติดตลาดขึ้น เรียกได้ว่า พอจอยประสบความสำเร็จ นีลก็ยินดีไปด้วย พอรู้ว่าเธอจะก้าวไปสู่สิ่งที่ดีกว่า ถึงแม้สิ่งนั้นจะทำให้ทั้ง 2 เป็นคู่แข่งกัน แต่ก็ยอมปล่อยไป เพราะเพื่อนที่แท้จริง จะช่วยส่งเสริมเพื่อนให้ดีขึ้นไป ไม่ได้รั้งเอาไว้ หรือฉุดลงมา

สืบเนื่องจากด้านบน ทำให้ฉากการเจอกันของทั้ง Neil & Joy ดูมีพลังมาก ซึ่งการแสดงของ "Jennifer Lawrence & Bradley Cooper" ก็ช่วยดันเข้าไปด้วย ตอนแรกตัวละคร Neil เหมือนเป็นพระเจ้าที่มาช่วย Joy แต่พอตอนหลังก็เปลี่ยนเป็นอีกแบบนึงไปเลย ดูแล้วก็แอบขลังดีด้วยครับ โดยเฉพาะฉากเจอกันครั้งแรกเพื่อเตรียมสินค้าไปโปรโมทาง TV,  Bradley นี่เด่นมาแต่ไกลเลย เป็นเหมือนพระเจ้าผู้ยื่นมือมาช่วยจริงๆ

เพลงประกอบช่วยบิ๊วอารมณ์ในการดำเนินเรื่องมาก ผลักดันเนื้อเรื่องให้เป็นเรื่องราวของคนที่สู้เพื่อฝันจริงๆ โดยเฉพาะเพลง "To love somebody" ฟังแล้วแอบสะท้อนชีวิตคู่รวมไปถึงความสัมพันธ์ในครอบครัวด้วย

โดยรวมก็ถือว่า JOY เป็นภาพยนตร์ที่สร้างจากเรื่องจริงขึ้นมาได้ดีอีกเรื่องนึงเลยครับ ดูจบแล้วสร้างแรงบันดาลใจในการทำความฝันให้เป็นจริงได้อีกเป็นกองเลย สำหรับใครที่อยากทำธุรกิจหรืออะไรก็ตามด้วยตนเองให้ประสบความสำเร็จ มาดูแล้วได้แรงบันดาลที่จะสู้เพื่อฝันแน่นอนครับ

"JOY : เธอสู้เพื่อฝัน" เข้าฉายแล้ววันนี้ ในโรงภาพยนตร์

Review By : T.J. @ T.J. MOVIE REVIEW

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ตัวอย่างแรกและนักแสดงทั้งหมดในภาพยนตร์ Saiki Kusuo no Sainan ฉบับ Live Action

หลังจากประกาศสร้างมาตั้งปี 2015 ก็ได้มีการปล่อยตัวอย่างแรกพร้อมเหล่านักแสดงออกมาทั้งหมดแล้ว ตัวอย่างภาพยนตร์ - https://www.youtube.com/watch?v=4tCACKYolrs&t=0s และมีนักแสดงดังต่อไปนี้

掟上今日子の備忘録。(Okitegami Kyoko no Biboroku) สมุดบันทึกความทรงจำของ โอคิเตะงามิ เคียวโกะ

            ก่อนจะเริ่มต้นวิจารณ์หรือวิเคราะห์ดีล่ะ เลือกไม่ถูก ถ้างั้นใช้เป็นว่า วิเคราะห์ น่าจะเหมาะสมที่สุดล่ะ ต้องขอบอกก่อนว่า ไม่ได้ตามดูซีรี่ส์จากทางฝั่งญี่ปุ่นมานานมากประมาณเกือบ 3 ปีได้ หลังจากซีรี่ส์ “Ando Lloyd - A.I. Knows Love ?” แล้วช่วงนี้ประจวบเหมาะกับไม่มีอะไรดู (เหรอ ? ) เลยลองมานั่งหาซีรี่ส์จากทางญี่ปุ่นดูบ้าง เปลี่ยนแนวจากที่ปกติเดิมจะดูแต่ซีรี่ส์ภาพยนตร์จากทางอเมริกาซะส่วนใหญ่ และ Okitegami Kyoko no Biboroku. เพื่อนก็แนะนำมาตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วก่อนซีรี่ส์จะจบด้วยซ้ำ (ตอนนั้น ฉายไป 8 ตอน ซีรี่ส์มีทั้งหมด 10 ตอน) เขาดูกันไปจะเกือบปีล่ะ ตัวเองพึ่งจะมานั่งดู หยิบขึ้นมาดูเท่านั้นแหละ กลายเป็นติดใจจนเลิกดูไม่ได้ นั่งดูอยู่บนห้องมันทั้งวันนี่แหละครับ ฮา

Review : Kung Fu Panda 3

Review : Kung Fu Panda 3 Score : 8/10 "ดูเพลิน สนุก ตลกฮา ปนน่ารักของเหล่าแพนด้า ตอนท้ายซึ้งดี พร้อมออกตามหาตัวตน ว่าเรานั้นเป็นใคร?" เรื่องย่อ : การกลับมาของพ่อแพนด้าของโปที่หายสาบสูญไปเมื่อนานมาแล้ว ทั้งคู่กลับมาร่วมทางกันสู่เมืองลับแลของแพนด้า เพื่อพบกับพวกแพนด้าตัวตลกหน้าใหม่ แต่เมื่อจอมวายร้ายผู้อยู่เหนือธรรมชาติอย่าง ไค เริ่มกวาดล้างประเทศจีนด้วยการเอาชนะจ้าวแห่งกังฟูทั้งหมด โพต้องทำสิ่งเหลือเชื่ออย่างการศึกษาวิธีการฝึกฝนเหล่าพี่น้องจอมเซ่อที่น่ารักของเขา เพื่อให้กลายเป็นเหล่าสุดยอดกังฟูแพนด้า!