ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

Review : The Finest Hours

Review : The Finest Hours
Score : 8/10

"ลุ้นระทึก เอาใจช่วยลูกเรือและยามฝั่ง ตั้งแต่ต้นจนจบ
ถ้าตัดดราม่าโรแมนติคออกจะดีงามกว่านี้"


เรื่องย่อ : เหตุการณ์จริงเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 1952 เมื่อพายุขนาดใหญ่โจมตีเขตนิวอิงแลนด์ บริเวณชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ สร้างความเสียหายแก่เรือบรรทุกน้ำมัน SS Pendleton จนฉีกขาดเป็นสองท่อน ด้วยเหตุนี้หน่วยป้องกันชายฝั่งสหรัฐฯ จึงส่งเรือกู้ชีพพร้อมสมาชิก 4 คน ฝ่าอุณหภูมิอันหนาวเหน็บและคลื่นสูงกว่า 60 ฟุต เพื่อช่วยเหลือลูกเรือกว่า 30 คนให้รอดชีวิตก่อนที่เรือ Pendleton จะจม

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


- ด้านเนื้อเรื่อง ถือว่าถ่ายทอดออกมาได้ดีเลยครับ ดูแล้วลุ้นระทึก สมกับเป็นหนังที่สร้างจากเรื่องจริง ไม่คิดว่า Disney จะมาจับหนังแบบนี้แล้วสอบผ่าน น่าจะเป็นหนังที่สร้างจากเรื่องจริงเรื่องแรกของค่ายด้วยเลยล่ะมั้ง? ซึ่งถ้าเป็นเรื่องแรกจริงๆ ก็ถือว่าเปิดตัวกับแนวหนังที่สร้างจากเรื่องจริงได้โอเคเลย...

- มีการปูเรื่องราวให้กับตัวละครได้ดี ทำให้เรารู้สาเหตุว่าทำไมตัวละครหลักอย่างเบอร์นี่ ถึงต้องการที่จะไปช่วยลูกเรือเพลเดิลตันให้ได้ แต่ไม่ผ่านตรงดราม่าโรแมนติกของเบอร์นี่กับมิลเลี่ยม ที่เหมือนพยายามยัดเหยียดเข้ามา ตอนแรกช่วงเปิดเรื่องพอรับได้อยู่บ้าง พอมากลางเรื่องเป็นต้นไปนี่ไม่โอเคอย่างแรง ส่วนตอนท้ายเรื่อง (กำลังจะจบเรื่อง) ค่อยดูดีขึ้นมาบ้างนิดนึง แต่ก็ยัง แอบดูหลวมๆ ไปหน่อย ส่วนตัวคิดว่า ถ้าตัดออกแล้วโฟกัสด้านช่วยชีวิตอย่างเดียวอาจจะดีกว่านี้

- ฉากเอาชีวิตรอดก็อย่างที่เอ่ยไปครับ ดูแล้วลุ้นระทึกจริงๆ คอยเอาใจช่วยตลอดว่าเบอร์นี่จะสามารถช่วยลูกเรือเพลเดิลตันได้ไหม? ถึงจะรู้ว่า เรื่องนี้จะสร้างและดัดแปลงจากเรื่องจริงก็ตาม แต่ก็ยังอยากรู้และคอยเอาใจช่วยกับตัวละครเสมอ ตั้งแต่ต้นจนจบภารกิจช่วยลูกเรือครับ

- CG ตระการตามาก สมกับเป็น Disney อยู่แล้ว ดูแบบปกติก็รู้สึกได้ ถ้าดูแบบ IMAX ก็คงคุ้มเลยครับ ทั้งภาพและเสียง และหากไปดู 4DX คงได้ Special Effect แบบจัดเต็มแน่นอน เพราะดูแบบปกติก็รู้สึกว่างาน CG ใช้ได้เลยครับ

- เพลงประกอบภาพยนตร์เรื่องนี้ยิ่งสร้างอารมณ์ร่วมกับหนังได้มากขึ้นไปอีกครับ ทำให้รู้สึกลุ้นระทึก, เอาใจช่วยตัวละคร มากขึ้นไปอีกระดับนึงเลย

- แม้ว่าจะเป็นหนังที่สร้างและดัดแปลงจากเรื่องจริง แต่ก็ยังคงสไตล์ Disney เช่นเคย ซึ่งเรื่องนี้ก็ได้ถ่ายทอดถึงความพยายามในการเอาชีวิตรอด, ความเชื่อมั่นในสิ่งที่ทำ, ความสามัคคี, ความศรัทธาและความเคารพในตัวผู้นำ รวมไปถึงคำสั่งต่างๆ ส่วนตัวแอบคิดว่า ถ้าหนังไม่ได้ Disney ก็น่าจะถ่ายทอดสิ่งต่างๆ ที่เรื่องนี้ต้องการจะสื่อออกมาได้แน่นอน

โดยรวมส่วนตัวก็ถือว่าเป็นภาพยนตร์จากเรื่องจริงที่สอบผ่านครึ่งหนึ่งครับ มาเสียตรงบทดราม่าโรแมนติค และการปูเรื่องที่ช้าไปหน่อย เพราะวนอยู่กับดราม่าโรแมนติคของเบอร์นี่กับมิลเลี่ยมนี่แหละ

ถึงแม้ว่า รายได้โดยรวมตอนนี้น่าจะทำให้หนังไปรอด แต่ก็แนะนำให้ลองไปดูกันครับ ด้านการเอาชีวิตรอดถือว่าสอบผ่านจริงๆ ลุ้นระทึกเอาใจช่วยตัวละครตลอดทั้งเรื่องเลยครับ

Review By : T.J. @ T.J. Movie Review

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

掟上今日子の備忘録。(Okitegami Kyoko no Biboroku) สมุดบันทึกความทรงจำของ โอคิเตะงามิ เคียวโกะ

            ก่อนจะเริ่มต้นวิจารณ์หรือวิเคราะห์ดีล่ะ เลือกไม่ถูก ถ้างั้นใช้เป็นว่า วิเคราะห์ น่าจะเหมาะสมที่สุดล่ะ ต้องขอบอกก่อนว่า ไม่ได้ตามดูซีรี่ส์จากทางฝั่งญี่ปุ่นมานานมากประมาณเกือบ 3 ปีได้ หลังจากซีรี่ส์ “Ando Lloyd - A.I. Knows Love ?” แล้วช่วงนี้ประจวบเหมาะกับไม่มีอะไรดู (เหรอ ? ) เลยลองมานั่งหาซีรี่ส์จากทางญี่ปุ่นดูบ้าง เปลี่ยนแนวจากที่ปกติเดิมจะดูแต่ซีรี่ส์ภาพยนตร์จากทางอเมริกาซะส่วนใหญ่ และ Okitegami Kyoko no Biboroku. เพื่อนก็แนะนำมาตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วก่อนซีรี่ส์จะจบด้วยซ้ำ (ตอนนั้น ฉายไป 8 ตอน ซีรี่ส์มีทั้งหมด 10 ตอน) เขาดูกันไปจะเกือบปีล่ะ ตัวเองพึ่งจะมานั่งดู หยิบขึ้นมาดูเท่านั้นแหละ กลายเป็นติดใจจนเลิกดูไม่ได้ นั่งดูอยู่บนห้องมันทั้งวันนี่แหละครับ ฮา

Review : Detective Conan EPISODE “ONE”

Review : Detective Conan EPISODE “ONE” Score : 8.5/10 "เสริมเนื้อเรื่องได้ดี ดูเพลิน สนุกมาก ตัวละครมากันพร้อมหน้า ใครที่เป็นแฟนโคนันฟินแน่..." “ยอดนักสืบจิ๋ว โคนัน EPISODE “ONE” กำเนิดยอดนักสืบจิ๋ว” เป็นอนิเมะตอนพิเศษที่นำเอาตอนที่ 1 ของโคนัน มาขยายเรื่องราวเพิ่มขึ้น ว่าตัวละครแต่ล่ะตัว ทำอะไรอยู่ที่ไหนอย่างไรบ้าง และมีเนื้อเรื่องบางส่วนที่ขยายเรื่องราวนอกจากตอนที่ 1 มาด้วย ซึ่งฉายไปเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม ที่ผ่านมาในประเทศญี่ปุ่น และบ้านเราก็ได้เข้าฉายในโรงภาพยนตร์วันที่ 22 ธันวาคม ครับ แต่ก่อนหน้านั้น ก็สามารถชมได้ทาง iFlix ตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม ถือว่า ฉายห่างจากญี่ปุ่นแค่ประมาณ 1-2 อาทิตย์เอง

รวมข่าวทั้งหมดของ "Supergirl Season 2" และสิ้นปีนี้เตรียมพบ Big Event ของ DC Super Heroes ในช่อง The CW

หลังจากช่วงกลางเดือนที่ผ่านมาได้มีการ  ยืนยัน! "Supergirl" ย้ายจากช่อง CBS ไป CW พร้อมทีมนักแสดงกลับมาครบชุด  ก็ได้มีข้อมูลใหม่เพิ่มเติมออกมา พร้อม Teaser อย่างเป็นทางการ ว่าสิ้นปีนี้เตรียมพบกับการเปลี่ยนแปลงของ "Supergirl" โดยการย้ายมาฉายในช่อง The CW นั่นเอง