ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

Review : DEADPOOL

Review : DEADPOOL
Score : 8/10

"ปรับเรทความเข้มข้นจากหนังซูเปอร์ฮีโร่ทั่วไป 

คอมเมดี้, ดราม่า, แอ็คชั่น ครบถ้วน ตามสไตล์ฮีโร่สวมชุดแดงรัดติ้ว"


เรื่องย่อ : อดีตทหารกองกำลังพิเศษที่ได้หันตัวมาเป็นนักฆ่ารับจ้างนามว่า "Wade Wilson" ซึ่งเขาได้ถูกจับตัวไปทดลองจนได้รับ Healing Factor (พลังในการรักษาตัวเอง) มาแต่ก็ต้องเสียโฉม ต่อมาเขาก็ได้เปลี่ยนชื่อเป็น Deadpool และเขาได้ใช้อาวุธที่มีทั้งหมด พร้อมพลังในการรักษาตัวเอง รวมไปถึงอารมณ์ขันที่สุดแสนจะดาร์ค เพื่อตามล่าชายผู้ที่เกือบจะทำลายชีวิตของเขา

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
- ในด้านเนื้อเรื่องก็ถือว่าโอเคใช้ได้ครับ คอมเมดี้, ดราม่า, แอ็คชั่นมาครบถ้วน ความเป็นตัวละคร Deadpool มาแบบจัดเต็ม ทั้งปากมาก พูดไปเรื่อย พ่นคำหยาบกระจุย แอ็คชั่นแบบโหดสัส Sex Scene แบบเห็นกันแว๊บๆ เรียกได้ว่าครบเครื่องตามสไตล์ครับ

- มีการเล่าเรื่องเป็นเอกลักษณ์สไตล์ตัวเองดี นั่นก็คือการมีปฎิสัมพันธ์กับผู้ชมนี่แหละครับ ทำให้เพิ่มความกวนบาทาขึ้นมาอีกเยอะ รวมไปถึงเล่าต้นกำเนิดตัวละครตัวเองที่แตกต่างไปจากพวกบรรดาหนังซูเปอร์ฮีโร่ทั้งหลายเลย แต่ถึงจะเล่าเรื่องสไตล์ตัวเอง โดยรวมบทมันก็แทบไม่ค่อยมีอะไรมากเลยจริงๆ ถ้าไม่มีความเกรียนบรรลัย ไม่แน่ก็อาจจะหลับไปแล้วก็ได้...

- มุกตลกมันจิกกัดหนังฮีโร่ทั้งในค่ายและข้ามค่ายเลยทีเดียว เรียกได้ว่าดูหนังฮีโร่หรือรู้จักหนังในตระกูล FOX/Marvel, Marvel Studios & DC ก็สามารถขำกลิ้งกับมุกต่างๆ ในเรื่องได้ครับ แล้วก็ยังมีมุกตลกอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งเป็นมุกที่ทันกับปัจจุบันมาก และล้อหนังชาวบ้านเขาอีกเยอะ รวมไปถึงเป็นมุกเฉพาะของคนอเมริกันด้วย เล่นกันแบบไม่บันยะบันยังเลยจริงๆ
- Ryan Reynolds เหมาะกับบท Deadpool มาก กวนเกรียนทั้งในจอและนอกจอ ปล่อยมุกแทบจะตลอดทั้งเรื่อง ยิ่งกว่าตอน "X-MEN Origins : Wolverine" ซะอีก 

ส่วน Colossus พอเปลี่ยนมาเป็นมนุษย์เหล็กยักษ์สูง 8 เมตร ค่อยรู้สึกดูกำยำขึ้น แข็งแกร่งขึ้น มากกว่าฉบับของ Bryan Singer ด้วยซ้ำ ถือว่าผกก.Tim Miller สามารถทำในสิ่งที่เขาต้องการจะเปลี่ยนแปลงกับตัวละครนี้ได้จริงๆ ครับ 

- Negasonic Teenage War เชี่ยอะไรฟะ? ตัวสั้นแต่ชื่อยาวชิบหาย ที่รับบทโดย Brianna Hildebrand ก็ยังไม่ได้ออกมาโชว์ของอะไรมากในภาคนี้ แอบคิดว่า เอามาเล่าไว้ก่อนรึเปล่า? แล้วค่อยจัดเต็มภาคหน้าทีเดียว แต่น้องเขาก็เล่นดีนะ ลงทุนโกนผมเลย

- Ed Skrein ที่ครั้งนี้มารับบทเป็นตัวร้าย Ajax ก็มาดให้มากครับ รู้สึกว่ามาเล่นบทตัวร้ายเถอะ "The Transporter : Refueled" ที่เล่นไปปีที่แล้วก็โอเค แต่หน้า+ทรงผมเหมาะบทตัวร้ายมากกว่า บทพระเอกก็โอนะแต่ไว้ผมปกติจะดูเป็นตัวเอกขึ้นมาหน่อย 

- ส่วนนักแสดงคนอื่นๆ ที่ไม่ได้กล่าวถึงก็เล่นดีกันหมดครับ แถมไม่ได้โผล่มาแค่นิดๆ หน่อยๆ ด้วย ปู่ Stand Lee ที่มารับเชิญในเรื่องนี้ไม่แปลกใจล่ะครับว่าทำไม ปู่ถึงบอกว่า เด็ดที่สุดตั้งแต่รับมา เพราะมันเด็ดจริงๆ ครับ
- ฉาก Action ถือว่าสมกับเรท R และตัวละครแล้วครับ สู้กันเลือดสาดแบบไม่ยั้งและไม่เกรงใจกันจริงๆ มีใช้ CG เข้ามาในฉาก Action ด้วย ไหลลื่นมากกว่าปกติ จนดูแล้วเป็น Action สไตล์คอมมิคมากกว่าภาพยนตร์ซะอีก ส่วนตัวรู้สึกว่ามันยังไม่สุดเท่าไร ก็คงต้องรอภาคหน้าแหละครับ ได้ทุนสร้างเพิ่มน่าจะจัดเต็มได้มากกว่านี้แน่นอน

- งานภาพก็ถือว่า โอเคใช้ได้สำหรับผกก.Tim Miller ซึ่งได้มีผลงานกำกับหนังใหญ่อย่างจริงๆ จังๆ เรื่องแรก เพราะปี 2002-2003 เจ้าตัวได้มีผลงานกำกับหนังเป็นหนังสั้น 2 เรื่อง และเคยกำกับฉากเปิดของ "THOR : The Dark World" ของผกก.Alan Taylor ครับ ถึงแม้ว่าจะโอเคใช้ได้ แต่ยังมีหลายๆ จุดที่ยังดูแล้วเฉยๆ หรือแปลกๆ ตาอยู่ ก็ให้โอกาสในการพัฒนาฝีมือกันต่อไปครับ สำหรับเรื่องแรกได้เท่านี้ก็เจ๋งแล้ว...

- Soundtrack เรื่องนี้ ถือว่าอยู่ในระดับกลางๆ ครับ ก็ช่วยเพิ่มสีสันให้กับเนื้อเรื่องได้พอตัวเลยทีเดียว แต่สิ่งที่เพิ่มสีสันจริงๆ ก็เป็นบรรดาเพลงที่ถูกเลือกมาใช้เพิ่มนอกจากที่ Junkle XL (Tom Holkenborgทำนี่แหละครับ มาแนวๆ "Guardians of The Galaxy" เลย ที่เพลงเสริมในเรื่องทำให้หนังมีสีสันมากกว่า Soundtrack ครับ

- งาน CG เรื่องนี้ ก็ถือว่าเนียนใช้ได้ครับ มีทุน 50 ล้านเหรียญ ก็น่าจะแบ่งไปใช้สัก 5-10 ล้านล่ะมั้ง แต่ก็ถือว่าเนียนจริงๆ อย่างที่บอกไป คุณภาพไม่แพ้บรรดาหนังซูเปอร์ฮีโร่เรื่องอื่นๆ เลย แถมมีหลายๆ ฉากให้น่าจดจำด้วยจริงๆ สมแล้วที่ Tim Miller เคยทำงาน Animator ในฉากเปิดของ "THOR : The Dark World" อาจจะมีรายละเอียดบางช่วงในหนังที่ยังไม่เป๊ะมาก เห็นชัดสุดก็คงตัวละคร Colossus ถึงแม้ว่าจะใช้ Motion Capture แต่ก็ไม่ค่อยเห็นสีหน้าอะไรมาก ยังไงโดยรวมก็ถือว่าทำดีมากแล้วครับ 

- เห็นเยอะมากว่า Deadpool มีฉากตัดหรือไม่? มีน่ะมีแน่ครับ แต่ฉากไหนบ้างอันนี้ไม่รู้ ซึ่งมีข่าวมาว่า ตอนออกแผ่นอาจจะมีฉบับ Director's Cut Version. ออกมาด้วย ในส่วนนี้ก็คงต้องรอดูกันต่อไปครับ

โดยรวมก็ถือว่าเป็นหนังที่ดูได้เพลินๆ สนุกๆ แค่ยังไม่สุด อาจจะเพราะเรื่องงบด้วย ที่โดนตัดออกไป บทไม่มีอะไรมาก แต่ความเกรียน แขวะชาวบ้านนี่มาเต็มจริงๆ ใครที่เป็นแฟน Deadpool ห้ามพลาดเลยครับ เสียงในฟิล์มว่าฮาแล้ว พากย์ไทยนี่ยิ่งฮา น่าจะเอาพันธมิตรทั้งทีมมาพากย์ คงฮากันท้องแข็งแน่นอน

สุดท้ายนี้ก็ขอบอกเลยว่า ผู้ปกครองท่านใดที่คิดว่าเป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่ทั่วไปแล้วจะพาเด็กๆ ไปดู ก็บอกตรงๆ เลยว่า นี่ไม่ใช่ภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ทั่วไป อย่าพาบุตรหลานไปดูเลยครับ มันแรงกว่าปกติเยอะ เลือดสาด โป๊เปลือยกันเห็นแบบชัดๆ รอพาไปดู "Batman v Superman : Dawn of Justice" เดือนหน้าจะดีกว่าครับ

Review By : T.J. @ T.J. Movie Review


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

掟上今日子の備忘録。(Okitegami Kyoko no Biboroku) สมุดบันทึกความทรงจำของ โอคิเตะงามิ เคียวโกะ

            ก่อนจะเริ่มต้นวิจารณ์หรือวิเคราะห์ดีล่ะ เลือกไม่ถูก ถ้างั้นใช้เป็นว่า วิเคราะห์ น่าจะเหมาะสมที่สุดล่ะ ต้องขอบอกก่อนว่า ไม่ได้ตามดูซีรี่ส์จากทางฝั่งญี่ปุ่นมานานมากประมาณเกือบ 3 ปีได้ หลังจากซีรี่ส์ “Ando Lloyd - A.I. Knows Love ?” แล้วช่วงนี้ประจวบเหมาะกับไม่มีอะไรดู (เหรอ ? ) เลยลองมานั่งหาซีรี่ส์จากทางญี่ปุ่นดูบ้าง เปลี่ยนแนวจากที่ปกติเดิมจะดูแต่ซีรี่ส์ภาพยนตร์จากทางอเมริกาซะส่วนใหญ่ และ Okitegami Kyoko no Biboroku. เพื่อนก็แนะนำมาตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วก่อนซีรี่ส์จะจบด้วยซ้ำ (ตอนนั้น ฉายไป 8 ตอน ซีรี่ส์มีทั้งหมด 10 ตอน) เขาดูกันไปจะเกือบปีล่ะ ตัวเองพึ่งจะมานั่งดู หยิบขึ้นมาดูเท่านั้นแหละ กลายเป็นติดใจจนเลิกดูไม่ได้ นั่งดูอยู่บนห้องมันทั้งวันนี่แหละครับ ฮา

Review : Detective Conan EPISODE “ONE”

Review : Detective Conan EPISODE “ONE” Score : 8.5/10 "เสริมเนื้อเรื่องได้ดี ดูเพลิน สนุกมาก ตัวละครมากันพร้อมหน้า ใครที่เป็นแฟนโคนันฟินแน่..." “ยอดนักสืบจิ๋ว โคนัน EPISODE “ONE” กำเนิดยอดนักสืบจิ๋ว” เป็นอนิเมะตอนพิเศษที่นำเอาตอนที่ 1 ของโคนัน มาขยายเรื่องราวเพิ่มขึ้น ว่าตัวละครแต่ล่ะตัว ทำอะไรอยู่ที่ไหนอย่างไรบ้าง และมีเนื้อเรื่องบางส่วนที่ขยายเรื่องราวนอกจากตอนที่ 1 มาด้วย ซึ่งฉายไปเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม ที่ผ่านมาในประเทศญี่ปุ่น และบ้านเราก็ได้เข้าฉายในโรงภาพยนตร์วันที่ 22 ธันวาคม ครับ แต่ก่อนหน้านั้น ก็สามารถชมได้ทาง iFlix ตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม ถือว่า ฉายห่างจากญี่ปุ่นแค่ประมาณ 1-2 อาทิตย์เอง

รวมข่าวทั้งหมดของ "Supergirl Season 2" และสิ้นปีนี้เตรียมพบ Big Event ของ DC Super Heroes ในช่อง The CW

หลังจากช่วงกลางเดือนที่ผ่านมาได้มีการ  ยืนยัน! "Supergirl" ย้ายจากช่อง CBS ไป CW พร้อมทีมนักแสดงกลับมาครบชุด  ก็ได้มีข้อมูลใหม่เพิ่มเติมออกมา พร้อม Teaser อย่างเป็นทางการ ว่าสิ้นปีนี้เตรียมพบกับการเปลี่ยนแปลงของ "Supergirl" โดยการย้ายมาฉายในช่อง The CW นั่นเอง