ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

Review : Tomorrow I Will Date With Yesterday's You (Boku wa Ashita, Kinou no Kimi to Date Suru)

Review : Tomorrow I Will Date With Yesterday's You
(Boku wa Ashita, Kinou no Kimi to Date Suru) [7/2017]
Score : 10/10 (Entertain) 9.5/10 (All)

"ร้องไห้หนักมาก เรื่องราวเชื่อมกันลงล็อคเป๊ะ งานภาพดูแล้วอบอุ่น
เคมีพระนางเข้ากันได้ดี แม้จะดูแปลกๆ เพราะเนื้อเรื่องก็ตาม"


ภาพยนตร์ "ぼくは明日、昨日のきみとデートする (Boku wa Ashita, Kinou no Kimi to Date Suru)" หรือในชื่อภาษาอังกฤษว่า "Tomorrow I Will Date With Yesterday's You" ดัดแปลงจากนิยายอันโด่งดังของนักเขียน "Nanatsuki Takafumi" ที่ได้ตีพิมพ์ออกมาเมื่อเดือนสิงหาคมปี 2014 ที่ผ่านมา โดยเป็นเรื่องราวของคู่หนุ่มสาวที่ความรักที่สวนทางกัน ทุก 5 ปี ได้เจอกันครั้งนึง เป็นเวลา 30 วัน นำแสดงโดย "Fukushi Sota" จาก "KAMEN RIDER FOURZE" และ "Komatsu Nana" จาก "BAKUMAN" ซึ่งบ้านเราก็ได้ Mongkol Major มาเป็นผู้จัดจำหน่ายโดยใช้ชื่อไทยว่า "พรุ่งนี้ผมจะเดตกับเธอคนเมื่อวาน"


ก่อนเริ่ม Review ก็ต้องขอขอบคุณบัตรชมภาพยนตร์รอบพิเศษจาก Mongkol Major ในครั้งนี้ด้วยนะครับ ชวนไปหนาวแอร์น้ำตาซึมกันที่สกาล่ากันเลย...

- ด้านเนื้อเรื่อง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะเป็นเรื่องใกล้ตัวสำหรับคนโสดมากที่แบบจะไปจีบใครก็ไม่กล้า ต้องไปบ่นๆ ให้เพื่อนฟัง แล้วเพื่อนก็จะต้องมาหาวิธีช่วยให้เป็นแฟนกันให้ได้ ซึ่งเป็นโมเมนต์ที่แทบจะทุกคนต้องเคยเจอ ดังนั้นถือว่าจะเป็นอะไรที่ใกล้ตัวมาก

เรื่องเวลา 5 ปี เจอกัน 1 ครั้ง สามารถวางทุกอย่างได้ลงล็อคเป๊ะ มีการวางเอาไว้ดีมาก ตั้งแต่ปมเล็กๆ ที่เราอาจจะมองข้าม มาจนถึงปมใหญ่ ซึ่งเป็นจุดที่เฉลยทุกอย่าง พอมาเฉลยเท่านั้นแหละ มีความมึนและความน้ำตาเริ่มซึมเลยทีเดียว ตอนองก์ 3 นี่ร้องไห้โฮเลย (Admin Mr. P นะ แต่ Admin T.J. นั่งหนาวแอร์ที่สกาล่าจนร้องไม่ออก ฮา) แต่ไอเดียเรื่องเวลาสวนทางที่เอามาเล่น มีความล้ำจริงๆ ชอบมาก แม้การกระทำระหว่างทั้ง 2 จะดูแปลกๆ แต่มันก็เป็นเพราะเนื้อเรื่องนี่แหละครับ

- สิ่งที่เรื่องนี้ต้องการจะสื่อเลยก็คือ "ใช้เวลาทุกวินาทีให้คุ้มค่า เพราะวันแรกของเรา อาจจะเป็นวันสุดท้ายของอีกคนหนึ่ง" เพราะเราไม่สามารถคาดเดาอนาคตได้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป เหมือนกับเวลาของพระเอกในเรื่องที่เดินไปข้างหน้า

- งานภาพเรื่องนี้สีจะออกโทนซีดๆ นิดนึง เพราะแสงที่ใช้ในเรื่องมีความจ้ามาก แต่ไม่ได้ย้อนแสง ซึ่งดูแล้วมีความอบอุ่นอยู่ในบรรยากาศของหนังอยู่ด้วยครับ


- จุดที่เป็นข้อเสียของเรื่องนี้เลยก็คือ หนังดำเนินเรื่องไวมาก แบบแป๊บนึง เฮ้ย! ไปไวขนาดนี้เลยรึ? และตัวหนังที่มีความยาวแค่ 111 นาที ตัดเครดิตที่เป็นเพลงออกก็จะอยู่ที่ประมาณ 107 นาที แทนที่จะบิ๊วท์อารมณ์ได้จนสุดเพดาน แต่เหมือนโดนบางอย่างรั้งเอาไว้ไม่ให้เราขึ้นไปต่อเลยจริงๆ ก็ถือว่าเป็นมาตรฐานของหนังญี่ปุ่นที่ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 1 ชั่วโมงครึ่ง ถึง 2 ชั่วโมงครับ

- เพลงประกอบ "Happy End" ที่ได้วง "back number" มาร้องให้ ตอนฟังปกติแบบ Short Ver. รู้สึกเฉยๆ ไม่ค่อยมีอะไร แต่พอได้มาฟังตัวเต็มในโรง รู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นในเรื่องนี้มากขึ้นเลยครับ

แนะนำว่า ควรรู้ทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้น้อยที่สุด เพราะไม่งั้นจะโดนสปอยล์ไปอย่างไม่รู้ตัวแน่นอน รวมไปถึงจะสร้างความมึนแก่เรื่องด้วย ตอนที่เฉลย เอาเป็นรู้แค่ว่า 5 ปี นางเอกกับพระเอกจะได้เจอกัน 1 ครั้ง ซึ่งเป็นเวลา 30 วัน โดยที่ทุกครั้งที่เจอ เวลาพระเอกจะอายุมากขึ้น ส่วนนางเอกอายุจะน้อยลง (ไม่ได้สปอยล์นะ แต่จากตัวอย่างก็คงเดาๆ กันได้แล้ว...)

"ぼくは明日、昨日のきみとデートする (Boku wa Ashita, Kinou no Kimi to Date Suru) : 
พรุ่งนี้ผมจะเดตกับเธอคนเมื่อวาน"
มีกำหนดฉาย 2 กุมภาพันธ์นี้ ต้อนรับวันวาเลนไทน์ครับ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ตัวอย่างแรกและนักแสดงทั้งหมดในภาพยนตร์ Saiki Kusuo no Sainan ฉบับ Live Action

หลังจากประกาศสร้างมาตั้งปี 2015 ก็ได้มีการปล่อยตัวอย่างแรกพร้อมเหล่านักแสดงออกมาทั้งหมดแล้ว ตัวอย่างภาพยนตร์ - https://www.youtube.com/watch?v=4tCACKYolrs&t=0s และมีนักแสดงดังต่อไปนี้

"โกไคเจอร์" กลับมาครบทีม ร่วมฉลองซูเปอร์เซนไตซีรี่ส์ครบ 2,000 ตอน

นับตั้งแต่  "ขบวนการ ห้าจอมพิฆาต โกเรนเจอร์"  ได้ออกฉายตั้งแต่วันที่  4 เมษายน 1975  มาจนถึงขบวนการล่าสุด  "ขบวนการ ราชันย์สรรพสัตว์ จูโอเจอร์"  ซึ่งในวันที่  11 กันยายน  ก็จะฉายครบ  2,000 ตอน พอดี ในตอนที่  28-29   (ฉายวันที่ 4 และ 11 ก.ย.)  จึงได้มีตอนพิเศษขึ้นฉลอง โดยตอนพิเศษทั้ง  2  ตอน จะได้นักแสดงจาก  "ขบวนการ โจรสลัด โกไคเจอร์"  กลับมาแบบครบทีม ในรอบ  3 ปีครึ่ง  หลังจากภาพยนตร์  "ขบวนการ จารชน โกบัสเตอร์ ปะทะ ขบวนการ โจรสลัด โกไคเจอร์ เดอะมูฟวี่"

掟上今日子の備忘録。(Okitegami Kyoko no Biboroku) สมุดบันทึกความทรงจำของ โอคิเตะงามิ เคียวโกะ

            ก่อนจะเริ่มต้นวิจารณ์หรือวิเคราะห์ดีล่ะ เลือกไม่ถูก ถ้างั้นใช้เป็นว่า วิเคราะห์ น่าจะเหมาะสมที่สุดล่ะ ต้องขอบอกก่อนว่า ไม่ได้ตามดูซีรี่ส์จากทางฝั่งญี่ปุ่นมานานมากประมาณเกือบ 3 ปีได้ หลังจากซีรี่ส์ “Ando Lloyd - A.I. Knows Love ?” แล้วช่วงนี้ประจวบเหมาะกับไม่มีอะไรดู (เหรอ ? ) เลยลองมานั่งหาซีรี่ส์จากทางญี่ปุ่นดูบ้าง เปลี่ยนแนวจากที่ปกติเดิมจะดูแต่ซีรี่ส์ภาพยนตร์จากทางอเมริกาซะส่วนใหญ่ และ Okitegami Kyoko no Biboroku. เพื่อนก็แนะนำมาตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วก่อนซีรี่ส์จะจบด้วยซ้ำ (ตอนนั้น ฉายไป 8 ตอน ซีรี่ส์มีทั้งหมด 10 ตอน) เขาดูกันไปจะเกือบปีล่ะ ตัวเองพึ่งจะมานั่งดู หยิบขึ้นมาดูเท่านั้นแหละ กลายเป็นติดใจจนเลิกดูไม่ได้ นั่งดูอยู่บนห้องมันทั้งวันนี่แหละครับ ฮา