ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

Review : Fan Day (One Day)

Review : Fan Day (One Day)
Score : 9/10

"ความรักเป็นเรื่องที่ซับซ้อน ไม่มีอะไรมากำหนดว่าสิ่งไหนมันถูกหรือผิด
ขึ้นอยู่กับตัวเราว่าจะนิยามยังไง หนังเปิดค่าย GDH ที่ทำออกมาได้ดีสมการรอคอย"


เรื่องย่อ : ‘เด่นชัย’ (เต๋อ ฉันทวิชช์ ธนะเสวี) เจ้าหน้าที่ไอทีสุดเนิร์ดประจำออฟฟิศวัย 30 ผู้จะมีตัวตนในสายตาพนักงานคนอื่น แค่เวลาอุปกรณ์คอมพิวเตอร์เสีย ในชั่วโมงทำงานที่แสนเร่งรีบไม่มีใครสนใจ แม้แต่จะจำชื่อของเด่นชัย จนเขาแอบน้อยใจอยู่บ่อยๆ จนกระทั่งวันที่เขาได้ไปซ่อมปรินเตอร์ให้ ‘นุ้ย’ (มิว นิษฐา จิรยั่งยืน) มาร์เก็ตติ้งสาวคนสวยผู้จดจำชื่อจริงของเขาได้ เด่นชัยตกหลุมรักความน่ารักและจริงใจของนุ้ยที่ทำให้เขารู้สึกเหมือนมีตัวตนขึ้นมา แต่ก็ทำได้เพียงเฝ้าเก็บรายละเอียดและดูแลเธออยู่ห่างๆ เพราะรู้ดีว่าหมาอย่างเขาคงได้แค่แหงนมองเครื่องบิน

แต่แล้ว เมื่อบริษัทของเด่นชัยพาพนักงานไปเที่ยวเอาท์ติ้งยังสกีรีสอร์ทที่ฮอกไกโด เด่นชัยได้ขอพรกับระฆังแห่งความรักของรีสอร์ทให้เขาได้เป็นแฟนกับนุ้ยแค่วันเดียวก็ยังดี โชคชะตาเล่นตลกเมื่อนุ้ยประสบอุบัติเหตุจากสกีจนหมดสติ พอนุ้ยฟื้นก็กลับมีอาการ ‘โรคความจำเสื่อมชั่วคราว’ ที่เรียกกันว่าโรค TGA ซึ่งเป็นโรคความจำเสื่อมที่จะมีอาการอยู่เพียงแค่ 1 วันเท่านั้น...

เด่นชัยคิดว่านี่เป็นโอกาสเดียวที่คนอย่างเขาจะได้ใกล้ชิดกับนุ้ย เขาตัดสินใจสวมรอยหลอกนุ้ยว่าทั้งสองเป็นแฟนกัน และอยู่เที่ยวต่อกันเพียงสองคน เด่นชัยตั้งใจว่าจะพานุ้ยไปเที่ยวในทุกๆ ที่ที่เธออยากไปในฮอกไกโด ใช้เวลาสุดพิเศษของเขากับเธอในฐานะแฟน แม้ว่ามันจะเป็นการเป็นแฟนกันเพียงแค่วันเดียวก็ตาม...


ส่วนตัว เป็นคนที่ไม่ชอบดูหนังไทยสักเท่าไร ถ้าไม่ใช่หนังประวัติศาสตร์จริงๆ เรื่องอื่นจะไม่แตะเลย แต่พอดีเรื่องนี้ได้เดินผ่านงานเปิดตัวเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม ที่ ควอเธียร์ ซีนีอาร์ต และเห็นผลตอบรับตอนฉายออกมาดี เลยขอลองไปดูกันสักหน่อย

อาจจะเขียนไม่เยอะ เพราะบางอย่างมันก็อธิบายออกมาเป็นคำพูดไม่ถูกจริงๆ ครับ...

ด้านเนื้อเรื่อง อาจจะตรงกับชีวิตใครหลายๆ คน รวมถึงตัวคนเขียนเองด้วย ที่ไม่ค่อยจะมีคนมองในโลกความเป็นจริงมากนัก ถ้าไม่ใช่เรื่องที่เราถนัดจริงๆ รวมไปถึงการชอบใครสักคนที่ไม่สามารถจะเอื้อมมือไปถึงได้ ซึ่งถ้าหากได้มีวันนึงขึ้นมาที่เราได้เป็นแฟนกับคนที่เราชอบ เราจะทำอะไรในวันนั้นบ้าง? หนังเรื่องนี้จะมาตอบคำถามตรงนั้นของคุณ

สิ่งที่เรียกว่าความรักมันไม่มีอะไรถูก มันไม่มีอะไรผิด ขึ้นอยู่กับว่าเราจะนิยามยังไงซะมากกว่า บางครั้งเรารู้ว่ามันผิด แต่ทำไมเราถึงทำ แต่ทำไมเราถึงรอ ก็เพราะมันไม่มีเหตุผล ก็แค่เราอยากจะทำมัน นี่แหละคือการนิยามของเรา เพราะรักมันจึงต้องยอมเจ็บ แต่มากไปมันก็ไม่ดี "ความรักทำให้คนตาบอด, ความรักทำให้คนกล้าที่จะทำในสิ่งที่ไม่ควรทำ" ทุกอย่างในเรื่องมีเหตุผลมารองรับเรียบร้อย

ทั้งมิวและเต๋อต่างก็เล่นออกมาได้สมบทบาท เต๋อก็มาเป็นหนุ่มเข้าสังคมไม่ได้ พอจะเข้าทีก็ทำตัวไม่เป็น พูดตรงจนไม่มีใครโอเค มิวก็พนักงานบริษัทที่อินโนเซนส์? เรื่องความรักมั้ง? แต่เรื่องการกระทำเป็นคนที่ก็ตรงๆ ในระดับนึง แต่แสดงออกมาในรูปแบบของผู้หญิงด้วยท่าทางนี่แหละ จะอะไรก็ช่างแต่ มิว น่ารักมาก!!! ยิ้มทีนี่อย่างกะโดนปืนยิงรัวๆ ตายคาโรง FC ครับ FC ฮา

เพลงประกอบโดยรวมถือว่าโอเค เข้ากับบรรยากาศของภาพได้ดี โดยเฉพาะการเลือกเพลงเก่าๆ รุ่นพ่อรุ่นแม่มาใส่ ก็ไม่คิดว่ามันจะเข้ากับตัวหนังได้ดี สมกับเป็นเพลงคลาสสิคจริงๆ...

ตอนจบใครๆ หลายคนไม่ค่อยชอบกัน แต่ส่วนตัว ผมว่ามันก็ถือว่าโอเคนะ การกระทำที่เด่นตัดสินใจก็ไม่ผิด อาจจะเป็นเพราะหนังรักทุกเรื่องในบ้านเราพระเอกกับนางเอกจะต้องสมหวังกัน แต่ความจริงมันไม่ได้เป็นแบบนั้นเสมอไป (แต่ลาออกอันนี้แอบดูมากไปนิดนึง) เห็นว่าจะมีตอนจบอีกแบบตอนออกแผ่น ก็รอดูว่าจะจบสวยไหม? แต่แบบนี้ก็โอเคนะ ไม่ได้เลวร้ายอะไรขนาดนั้น

โดยรวมคือโอเคนะ ชอบอยู่ แอบคิดว่าถ้าตัวเองยังมีความรู้สึกในการชอบใครสักคนอยู่ อาจจะร้องไห้ได้ เพราะเห็นคนที่นั่งข้างๆ ร้องไห้ออกมาเลย (ทั้งซ้ายและขวา) และคะแนนก็อาจจะสูงขึ้นกว่านี้อีกด้วย (ยังสูงได้มากกว่านี้อีกเหรอ? ขอตอบว่า "ใช่ครับ") ก็แนะนำให้ไปดูกันนะครับ มีคู่ไม่มีคู่ก็ไปดูได้ ส่วนตัวกะว่าจะดูอีกรอบนึงด้วย ถ้ามีเวลานะครับ ช่วงนี้งานล้นมือมาก

Review By : T.J. @ T.J. Movie Review

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ตัวอย่างแรกและนักแสดงทั้งหมดในภาพยนตร์ Saiki Kusuo no Sainan ฉบับ Live Action

หลังจากประกาศสร้างมาตั้งปี 2015 ก็ได้มีการปล่อยตัวอย่างแรกพร้อมเหล่านักแสดงออกมาทั้งหมดแล้ว ตัวอย่างภาพยนตร์ - https://www.youtube.com/watch?v=4tCACKYolrs&t=0s และมีนักแสดงดังต่อไปนี้

掟上今日子の備忘録。(Okitegami Kyoko no Biboroku) สมุดบันทึกความทรงจำของ โอคิเตะงามิ เคียวโกะ

            ก่อนจะเริ่มต้นวิจารณ์หรือวิเคราะห์ดีล่ะ เลือกไม่ถูก ถ้างั้นใช้เป็นว่า วิเคราะห์ น่าจะเหมาะสมที่สุดล่ะ ต้องขอบอกก่อนว่า ไม่ได้ตามดูซีรี่ส์จากทางฝั่งญี่ปุ่นมานานมากประมาณเกือบ 3 ปีได้ หลังจากซีรี่ส์ “Ando Lloyd - A.I. Knows Love ?” แล้วช่วงนี้ประจวบเหมาะกับไม่มีอะไรดู (เหรอ ? ) เลยลองมานั่งหาซีรี่ส์จากทางญี่ปุ่นดูบ้าง เปลี่ยนแนวจากที่ปกติเดิมจะดูแต่ซีรี่ส์ภาพยนตร์จากทางอเมริกาซะส่วนใหญ่ และ Okitegami Kyoko no Biboroku. เพื่อนก็แนะนำมาตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วก่อนซีรี่ส์จะจบด้วยซ้ำ (ตอนนั้น ฉายไป 8 ตอน ซีรี่ส์มีทั้งหมด 10 ตอน) เขาดูกันไปจะเกือบปีล่ะ ตัวเองพึ่งจะมานั่งดู หยิบขึ้นมาดูเท่านั้นแหละ กลายเป็นติดใจจนเลิกดูไม่ได้ นั่งดูอยู่บนห้องมันทั้งวันนี่แหละครับ ฮา

Review : Kung Fu Panda 3

Review : Kung Fu Panda 3 Score : 8/10 "ดูเพลิน สนุก ตลกฮา ปนน่ารักของเหล่าแพนด้า ตอนท้ายซึ้งดี พร้อมออกตามหาตัวตน ว่าเรานั้นเป็นใคร?" เรื่องย่อ : การกลับมาของพ่อแพนด้าของโปที่หายสาบสูญไปเมื่อนานมาแล้ว ทั้งคู่กลับมาร่วมทางกันสู่เมืองลับแลของแพนด้า เพื่อพบกับพวกแพนด้าตัวตลกหน้าใหม่ แต่เมื่อจอมวายร้ายผู้อยู่เหนือธรรมชาติอย่าง ไค เริ่มกวาดล้างประเทศจีนด้วยการเอาชนะจ้าวแห่งกังฟูทั้งหมด โพต้องทำสิ่งเหลือเชื่ออย่างการศึกษาวิธีการฝึกฝนเหล่าพี่น้องจอมเซ่อที่น่ารักของเขา เพื่อให้กลายเป็นเหล่าสุดยอดกังฟูแพนด้า!