ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

Review : RACE

Review : RACE 
Score : 8/10

"หลากหลายประเด็นในเรื่องเดียว
กุมได้อย่างอยู่หมัดตั้งแต่จุดสตาร์ท ทั้งผกก.และนักแสดง"


เรื่องย่อ : ภาพยนตร์ที่ตีแผ่เรื่องจริงของ เจสซี่ โอเว่นส์ นักกีฬาผู้สร้างประวัติศาสตร์ในกีฬาโอลิมปิกที่เบอร์ลิน ปี 1936 ด้วยการคว้าเหรียญสำคัญในการแข่งขันกรีฑา นั่นก็คือการ วิ่ง 100 เมตร และที่สำคัญคือเป็นการคว้าชัยต่อหน้า ฮิตเลอร์ ผู้มั่นใจว่า ชาติตัวเองนั้น สูงส่งกว่ามนุษย์เผ่าพันธุ์อื่นอีกด้วย
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

- ด้านการดำเนินเรื่อง ก็ตามคอนเซปต์ภาพยนตร์ที่สร้างจากเรื่องจริงทั่วไปเลยครับ จะมีการแนะนำตัวละครของเรื่อง ก่อนที่จะเข้าสู่เหตุการณ์สำคัญที่ถูกจารึกเอาไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ ซึ่งของ "เจสซี่ โอเว่นส์" เป็น 1 ในหน้าประวัติศาสตร์ที่ตอนแรกไม่ได้รับการบันทึกเอาไว้จนกระทั่งปี 1990 ถึงได้ถูกบันทึกไว้เป็น 1 ในหน้าประวัติศาสตร์นักกีฬาโอลิมปิกผู้สร้างชื่อให้กับประเทศ

- เรื่องนี้เล่นหลากหลายประเด็นและหลากหลายโทนมาก ไม่ว่าจะเป็นดราม่า, คอมเมดี้ ประเด็นการเมืองระหว่าง 2 ขั้วอำนาจ, ความเป็นนักกีฬา, ปัญหาการเหยียดสีผิว และอื่นๆ อีกยิบย่อย ซึ่งแม้จะเล่นหลากหลายประเด็น แต่ยอมรับเลยว่า ตัวผกก.สตีเฟ่น ฮอปส์กิ้น สามารถคุมหนังเรื่องนี้ได้อยู่หมัด ถ่ายทอดทุกประเด็นได้อย่างทรงพลังจริงๆ

- ที่ชอบก็คงเป็นประเด็นการเมืองกับปัญหาการเหยียดสีผิวของเรื่องนี้ ถ่ายทอดออกมาได้แสบสันมาก อย่างชอบ หนังอเมริกันแทบทุกเรื่อง โดยเฉพาะยิ่งเป็นหนังที่สร้างจากเรื่องจริงในหน้าประวัติศาสตร์ จะสร้างภาพลักษณ์และปลูกฝังความเป็นอเมริกันในเรื่องด้วย พร้อมโจมตีอีกฝ่าย ซึ่งในเรื่องนี้คือนาซีอย่างเต็มที่ ในหนังก็มีอยู่ แต่ก็มีจิกกัดอเมริกาให้เห็นว่า ภายในก็ไม่ได้สวยหรูอย่างที่เห็นแบบที่คนอื่นคิดเหมือนกัน ส่วนในประเด็นปัญหาการเหยียดสีผิว ยอมรับว่าถ่ายทอดออกมาได้ดี เห็นเลยว่า คนอเมริกันเหยียดผิวมาก ทั้งในด้านการล้อเลียน, ห้ามเดินเข้าประตูโรงแรมร่วมกับคนขาว, ทำเหมือนว่าเขาไม่มีตัวตน เป็นต้น

- สำหรับด้านนักแสดงนำของเรื่อง "Stephen James & Jason Sudeikis" ทั้งคู่ต่างก็เล่นเคมีเข้ากันได้ดีในบท "Jesse Owens & Larry Snyder" ทั้ง 2 สามารถคุมเรื่องราวตั้งแต่จุดสตาร์ทไปยังเส้นชัยได้อยู่หมัดจริงๆ ร่วมด้วย "Jeremy Irons" ที่รับบทเป็นสถาปนิก "Avery Brundage" ต่อมาภายหลังเป็นประธานโอลิมปิกสากลคนที่ 5 ก็เข้ามาช่วยเสริมทัพนักแสดงเติมเต็มเรื่องราวของตัวละครมากยิ่งขึ้นไปอีกครับ

- เพลงประกอบเรื่องนี้ฟังแล้วมีพลังและดูหึกเหิมมาก จนแอบรู้สึกในหลายๆ ฉากว่า อลังกว่าภาพอีก (ฮา) แต่ถือว่า เพลงประกอบเข้ามาช่วยในการเล่าเรื่องได้มากพอตัวเลยครับ

โดยรวมถือว่า เป็นภาพยนตร์ที่สร้างจากเรื่องจริงในหน้าประวัติศาสตร์อเมริกาที่ถ่ายทอดเรื่องราวอย่างมากมายหลายประเด็นและกุมได้อยู่หมัดทั้งเรื่อง ยังไงก็แนะนำให้ไปรับชมกันครับ

สุดท้ายนี้ก็ขอขอบคุณบัตรชมภาพยนตร์รอบพิเศษจากทาง Mongkol Major (Sahamongkol Film) ด้วยมากๆ เลยครับ

Review By : T.J. @ T.J. MOVIE REVIEW

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

掟上今日子の備忘録。(Okitegami Kyoko no Biboroku) สมุดบันทึกความทรงจำของ โอคิเตะงามิ เคียวโกะ

            ก่อนจะเริ่มต้นวิจารณ์หรือวิเคราะห์ดีล่ะ เลือกไม่ถูก ถ้างั้นใช้เป็นว่า วิเคราะห์ น่าจะเหมาะสมที่สุดล่ะ ต้องขอบอกก่อนว่า ไม่ได้ตามดูซีรี่ส์จากทางฝั่งญี่ปุ่นมานานมากประมาณเกือบ 3 ปีได้ หลังจากซีรี่ส์ “Ando Lloyd - A.I. Knows Love ?” แล้วช่วงนี้ประจวบเหมาะกับไม่มีอะไรดู (เหรอ ? ) เลยลองมานั่งหาซีรี่ส์จากทางญี่ปุ่นดูบ้าง เปลี่ยนแนวจากที่ปกติเดิมจะดูแต่ซีรี่ส์ภาพยนตร์จากทางอเมริกาซะส่วนใหญ่ และ Okitegami Kyoko no Biboroku. เพื่อนก็แนะนำมาตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วก่อนซีรี่ส์จะจบด้วยซ้ำ (ตอนนั้น ฉายไป 8 ตอน ซีรี่ส์มีทั้งหมด 10 ตอน) เขาดูกันไปจะเกือบปีล่ะ ตัวเองพึ่งจะมานั่งดู หยิบขึ้นมาดูเท่านั้นแหละ กลายเป็นติดใจจนเลิกดูไม่ได้ นั่งดูอยู่บนห้องมันทั้งวันนี่แหละครับ ฮา

Review : Detective Conan EPISODE “ONE”

Review : Detective Conan EPISODE “ONE” Score : 8.5/10 "เสริมเนื้อเรื่องได้ดี ดูเพลิน สนุกมาก ตัวละครมากันพร้อมหน้า ใครที่เป็นแฟนโคนันฟินแน่..." “ยอดนักสืบจิ๋ว โคนัน EPISODE “ONE” กำเนิดยอดนักสืบจิ๋ว” เป็นอนิเมะตอนพิเศษที่นำเอาตอนที่ 1 ของโคนัน มาขยายเรื่องราวเพิ่มขึ้น ว่าตัวละครแต่ล่ะตัว ทำอะไรอยู่ที่ไหนอย่างไรบ้าง และมีเนื้อเรื่องบางส่วนที่ขยายเรื่องราวนอกจากตอนที่ 1 มาด้วย ซึ่งฉายไปเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม ที่ผ่านมาในประเทศญี่ปุ่น และบ้านเราก็ได้เข้าฉายในโรงภาพยนตร์วันที่ 22 ธันวาคม ครับ แต่ก่อนหน้านั้น ก็สามารถชมได้ทาง iFlix ตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม ถือว่า ฉายห่างจากญี่ปุ่นแค่ประมาณ 1-2 อาทิตย์เอง

รวมข่าวทั้งหมดของ "Supergirl Season 2" และสิ้นปีนี้เตรียมพบ Big Event ของ DC Super Heroes ในช่อง The CW

หลังจากช่วงกลางเดือนที่ผ่านมาได้มีการ  ยืนยัน! "Supergirl" ย้ายจากช่อง CBS ไป CW พร้อมทีมนักแสดงกลับมาครบชุด  ก็ได้มีข้อมูลใหม่เพิ่มเติมออกมา พร้อม Teaser อย่างเป็นทางการ ว่าสิ้นปีนี้เตรียมพบกับการเปลี่ยนแปลงของ "Supergirl" โดยการย้ายมาฉายในช่อง The CW นั่นเอง