Review : RACE
Score : 8/10
"หลากหลายประเด็นในเรื่องเดียว
กุมได้อย่างอยู่หมัดตั้งแต่จุดสตาร์ท ทั้งผกก.และนักแสดง"
เรื่องย่อ : ภาพยนตร์ที่ตีแผ่เรื่องจริงของ เจสซี่ โอเว่นส์ นักกีฬาผู้สร้างประวัติศาสตร์ในกีฬาโอลิมปิกที่เบอร์ลิน ปี 1936 ด้วยการคว้าเหรียญสำคัญในการแข่งขันกรีฑา นั่นก็คือการ วิ่ง 100 เมตร และที่สำคัญคือเป็นการคว้าชัยต่อหน้า ฮิตเลอร์ ผู้มั่นใจว่า ชาติตัวเองนั้น สูงส่งกว่ามนุษย์เผ่าพันธุ์อื่นอีกด้วย
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- เรื่องนี้เล่นหลากหลายประเด็นและหลากหลายโทนมาก ไม่ว่าจะเป็นดราม่า, คอมเมดี้ ประเด็นการเมืองระหว่าง 2 ขั้วอำนาจ, ความเป็นนักกีฬา, ปัญหาการเหยียดสีผิว และอื่นๆ อีกยิบย่อย ซึ่งแม้จะเล่นหลากหลายประเด็น แต่ยอมรับเลยว่า ตัวผกก.สตีเฟ่น ฮอปส์กิ้น สามารถคุมหนังเรื่องนี้ได้อยู่หมัด ถ่ายทอดทุกประเด็นได้อย่างทรงพลังจริงๆ
- ที่ชอบก็คงเป็นประเด็นการเมืองกับปัญหาการเหยียดสีผิวของเรื่องนี้ ถ่ายทอดออกมาได้แสบสันมาก อย่างชอบ หนังอเมริกันแทบทุกเรื่อง โดยเฉพาะยิ่งเป็นหนังที่สร้างจากเรื่องจริงในหน้าประวัติศาสตร์ จะสร้างภาพลักษณ์และปลูกฝังความเป็นอเมริกันในเรื่องด้วย พร้อมโจมตีอีกฝ่าย ซึ่งในเรื่องนี้คือนาซีอย่างเต็มที่ ในหนังก็มีอยู่ แต่ก็มีจิกกัดอเมริกาให้เห็นว่า ภายในก็ไม่ได้สวยหรูอย่างที่เห็นแบบที่คนอื่นคิดเหมือนกัน ส่วนในประเด็นปัญหาการเหยียดสีผิว ยอมรับว่าถ่ายทอดออกมาได้ดี เห็นเลยว่า คนอเมริกันเหยียดผิวมาก ทั้งในด้านการล้อเลียน, ห้ามเดินเข้าประตูโรงแรมร่วมกับคนขาว, ทำเหมือนว่าเขาไม่มีตัวตน เป็นต้น
- สำหรับด้านนักแสดงนำของเรื่อง "Stephen James & Jason Sudeikis" ทั้งคู่ต่างก็เล่นเคมีเข้ากันได้ดีในบท "Jesse Owens & Larry Snyder" ทั้ง 2 สามารถคุมเรื่องราวตั้งแต่จุดสตาร์ทไปยังเส้นชัยได้อยู่หมัดจริงๆ ร่วมด้วย "Jeremy Irons" ที่รับบทเป็นสถาปนิก "Avery Brundage" ต่อมาภายหลังเป็นประธานโอลิมปิกสากลคนที่ 5 ก็เข้ามาช่วยเสริมทัพนักแสดงเติมเต็มเรื่องราวของตัวละครมากยิ่งขึ้นไปอีกครับ
- เพลงประกอบเรื่องนี้ฟังแล้วมีพลังและดูหึกเหิมมาก จนแอบรู้สึกในหลายๆ ฉากว่า อลังกว่าภาพอีก (ฮา) แต่ถือว่า เพลงประกอบเข้ามาช่วยในการเล่าเรื่องได้มากพอตัวเลยครับ
โดยรวมถือว่า เป็นภาพยนตร์ที่สร้างจากเรื่องจริงในหน้าประวัติศาสตร์อเมริกาที่ถ่ายทอดเรื่องราวอย่างมากมายหลายประเด็นและกุมได้อยู่หมัดทั้งเรื่อง ยังไงก็แนะนำให้ไปรับชมกันครับ
สุดท้ายนี้ก็ขอขอบคุณบัตรชมภาพยนตร์รอบพิเศษจากทาง Mongkol Major (Sahamongkol Film) ด้วยมากๆ เลยครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น