ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

Review : The Huntsman - Winter's War

Review : The Huntsman - Winter's War
Score : 7/10

"Emliy Bunt เยือกเย็นจนแอบสงสาร แอ็คชั่น พอประมาณ
อบอวนไปด้วยดราม่า-โรแมนติค รักต้องห้าม พี่น้องทะเลาะกัน"


เรื่องย่อ : ก่อนที่ราชินีราเวนา จะแตกดับไปด้วยคมดาบของสโนว์ไวท์ เธอมีน้องสาวที่มีพลังน้ำแข็งชื่อว่า เฟรยา ผู้ที่หัวใจสลายเพราะถูกหักหลังเรื่องความรัก แล้วหนีออกจากอาณาจักรมาสร้างวังอยู่เงียบๆ พร้อมกับสร้างกองทัพนายพรานมรณะ ที่มีเอริก กับ ซาร่า เป็นหนึ่งในกองทหาร แต่ทั้งสองก็ทำสิ่งที่ขัดต่อประสงค์ของเธอ นั่นก็คือไม่ยอมมีจิตใจที่เย็นชาต่อความรัก

เมื่อเฟรยารู้ว่าพี่สาวดับสูญ เธอก็สั่งให้ทหารไปนำกระจกวิเศษกลับมาเพราะเหลือเพียงเธอที่ควบคุมพลังของมันได้ แต่เมื่อเธอรู้ว่าสามารถชุบชีวิตพี่สาวคืนกลับมาได้ด้วยสีทองของกระจก เธอก็คุกคามดินแดนวิเศษนั้นด้วยกองทัพทมิฬที่ร้ายกว่ายิ่งกว่าที่ใครเคยพบ ความหวังเดียวที่จะเอาชนะเธออยู่ที่นายพรานที่เคยถูกเธอเนรเทศ ซึ่งต้องต่อสู้เพื่อไปหากันให้ได้
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

- ส่วนตัวไม่ได้ดูภาคแรกมาเลยไม่รู้ว่าจะเปรียบเทียบอะไรยังไงดี ด้านเนื้อเรื่อง ก็โอเคใช้ได้อยู่ครับ จะลงหนักไปทางดราม่าเยอะนิดนึง ผสมกับโรแมนติคและแอ็คชั่นเข้าไป พร้อมคอมเมดี้นิดๆ ก็ถือว่า เกลี่ยบทได้ดีพอควร ค่อยๆ เดินเรื่องไปเรื่อยๆ ไม่ถึงกับว่าน่าเบื่อ แค่เรียบๆ ไปนิดนึง รักต้องห้าม กับ พี่น้องทะเลาะกัน นึกถึงอนิเมชั่นเรื่องนึงแถวๆ นี้ ถ้ามีร้องเพลงด้วย คงฟันธงเลยว่า Dis*** แอบมาสร้างให้ใช่ไหม?

- เนื้อเรื่องจะเป็นเรื่องราวก่อนหน้าและหลังจาก "Snow White & The Huntsman" ดังนั้น แนะนำว่า ดูภาคแรกมาก่อนก็จะดีมากครับ เพราะจะมีกล่าวถึงตัวละครในภาคแรกบ้าง ถึงจะไม่เยอะ แต่มีกล่าวถึงอยู่ และในเรื่องแอบมีเปรยๆ ว่าจะทำเป็นไตรภาคด้วย...

- ด้านแอ็คชั่นก็มีพอประมาณครับ อยู่ในเกณฑ์กลางๆ ไม่เยอะมาก แต่ก็แอบน้อยไปนิดนึง "Emily Bunt & Jessica Chastain" ได้โชว์ของนิดเดียวเอง เสียดาย นึกว่าจะมีเยอะกว่านี้ซะอีก ตัวอย่างนี่มาแบบเต็มมาก

ด้านนักแสดง รู้สึกว่าบทเด่นจริงๆ จะอยู่ที่ตัว "Chris Hemsworth" มากกว่า "Emily Bunt" ถึงแม้แรกๆ จะดูว่ามีบทเยอะก็ตาม แต่ยอมรับว่า "Emily Bunt" ดูเย็นชาจริงๆ เย็นชาแต่ก็ยังงามหยด ปูทางมาเป็นตัวร้ายมาก แต่ก็สงสารนางในเวลาเดียวกัน และอีกคนนึงที่เล่นโอเค "Jessica Chastain" ไม่รู้ว่าเป็นหนังแอ็คชั่นเรื่องแรกที่เจ้าตัวเล่นรึเปล่า แต่ถ้าใช่ก็ถือว่าโอเค ตัวละครดูสตรองดี แค่ไม่ค่อยมีฉากแอ็คชั่นเยอะเท่าไร เช่นเดียวกับตัวละครของ Emily แอบเสียดายนิดๆ "Charlize Theron" แม้จะมาไม่เยอะ แต่มาแย่งซีน Emily สมกับเป็น "The Evil Queen" แล้วจริงๆ

งาน CG ก็... แอบนึกถึง "Seventh Son" บ้าง ดูรู้ว่า Fake แต่เก็บรายละเอียดได้ดีพอตัวเลยครับ ชอบที่สุดก็ Credit Scene นี่แหละ สวยกว่าในเรื่องทั้งหมดอีก ///เดี๋ยวๆ...

- สำหรับ 3D ก็อยู่ในเกณฑ์กลางๆ แต่แนะนำว่า ถ้าหากจะดูให้นั่งตรงกลางๆ ของแถวนะครับ ถ้านั่งริมภาพจะไม่ผสานกันสนิท ด้วยแล้วจะปวดๆ ตาครับ

สรุปโดยรวม หนังเรื่องนี้ก็อยู่ในเกณฑ์กลางๆ ครับ ไม่ได้ดีอะไรมากมายแต่ก็สามารถดูได้อยู่ครับ ส่วนตัวชอบ "Emily Bunt & Jessica Chastain" ดู 2 คนนี้ก็คุ้มแล้วครับ ฮา แอ็คชั่นก็พอประมาณจริงๆ ไม่ได้เยอะแยะมากมาย ครับ

สุดท้ายนี้ก็ต้องขอขอบคุณบัตรชมภาพยนตร์รอบพิเศษจากทาง UIP Thailand ด้วยครับ


"The Huntsman : Winter's War - พรานป่าและราชินีน้ำแข็ง" 
มีกำหนดฉาย 6 เมษายน ในโรงภาพยนตร์

ปิดท้าย Review ด้วย Videoทักทายแฟนๆ ชาวไทย "Chris Hemsworth & Charlize Theron"


Review By : T.J. @ T.J. Movie Review

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ตัวอย่างแรกและนักแสดงทั้งหมดในภาพยนตร์ Saiki Kusuo no Sainan ฉบับ Live Action

หลังจากประกาศสร้างมาตั้งปี 2015 ก็ได้มีการปล่อยตัวอย่างแรกพร้อมเหล่านักแสดงออกมาทั้งหมดแล้ว ตัวอย่างภาพยนตร์ - https://www.youtube.com/watch?v=4tCACKYolrs&t=0s และมีนักแสดงดังต่อไปนี้

掟上今日子の備忘録。(Okitegami Kyoko no Biboroku) สมุดบันทึกความทรงจำของ โอคิเตะงามิ เคียวโกะ

            ก่อนจะเริ่มต้นวิจารณ์หรือวิเคราะห์ดีล่ะ เลือกไม่ถูก ถ้างั้นใช้เป็นว่า วิเคราะห์ น่าจะเหมาะสมที่สุดล่ะ ต้องขอบอกก่อนว่า ไม่ได้ตามดูซีรี่ส์จากทางฝั่งญี่ปุ่นมานานมากประมาณเกือบ 3 ปีได้ หลังจากซีรี่ส์ “Ando Lloyd - A.I. Knows Love ?” แล้วช่วงนี้ประจวบเหมาะกับไม่มีอะไรดู (เหรอ ? ) เลยลองมานั่งหาซีรี่ส์จากทางญี่ปุ่นดูบ้าง เปลี่ยนแนวจากที่ปกติเดิมจะดูแต่ซีรี่ส์ภาพยนตร์จากทางอเมริกาซะส่วนใหญ่ และ Okitegami Kyoko no Biboroku. เพื่อนก็แนะนำมาตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วก่อนซีรี่ส์จะจบด้วยซ้ำ (ตอนนั้น ฉายไป 8 ตอน ซีรี่ส์มีทั้งหมด 10 ตอน) เขาดูกันไปจะเกือบปีล่ะ ตัวเองพึ่งจะมานั่งดู หยิบขึ้นมาดูเท่านั้นแหละ กลายเป็นติดใจจนเลิกดูไม่ได้ นั่งดูอยู่บนห้องมันทั้งวันนี่แหละครับ ฮา

Review : Kung Fu Panda 3

Review : Kung Fu Panda 3 Score : 8/10 "ดูเพลิน สนุก ตลกฮา ปนน่ารักของเหล่าแพนด้า ตอนท้ายซึ้งดี พร้อมออกตามหาตัวตน ว่าเรานั้นเป็นใคร?" เรื่องย่อ : การกลับมาของพ่อแพนด้าของโปที่หายสาบสูญไปเมื่อนานมาแล้ว ทั้งคู่กลับมาร่วมทางกันสู่เมืองลับแลของแพนด้า เพื่อพบกับพวกแพนด้าตัวตลกหน้าใหม่ แต่เมื่อจอมวายร้ายผู้อยู่เหนือธรรมชาติอย่าง ไค เริ่มกวาดล้างประเทศจีนด้วยการเอาชนะจ้าวแห่งกังฟูทั้งหมด โพต้องทำสิ่งเหลือเชื่ออย่างการศึกษาวิธีการฝึกฝนเหล่าพี่น้องจอมเซ่อที่น่ารักของเขา เพื่อให้กลายเป็นเหล่าสุดยอดกังฟูแพนด้า!