ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

Review : 13 Hours - The Secret Soldiers of Benghazi

Review : 13 Hours - The Secret Soldiers of Benghazi

Score : 7/10



"เนื้อเรื่องดำดิ่งสู่ความโหดร้ายของเหตุการณ์ ที่ต้องหาทางเอาชีวิตรอด
แอ็คชั่นจัดเต็มทุกฉากตามสไตล์ Michael Bay พร้อมสอดแทรกดราม่าได้อย่างลงตัว"


เรื่องย่อ : เรื่องจริงจากเหตุการณ์โจมตีสถานกงสุลสหรัฐฯ ในเมืองเบงกาซี ประเทศลิเบีย เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2012 โดยกลุ่มผู้ก่อการร้ายได้สังหาร เอกอัครราชทูตสหรัฐ คริสโตเฟอร์ เจ. สตีเว่นส์  รวมถึงเจ้าหน้าที่อีก 3 ท่านจนเสียชีวิต โดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 6 คน ต้องต่อสู้เพื่อปกป้องชีวิตของชาวอเมริกันให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้


--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------



- ด้านเนื้อเรื่อง ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีครับ ถ้าเทียบกับหนังของ ไมเคิล เบย์ เรื่อง ก่อนๆ มีการเล่าเรื่องปูทางตัวละคร ปูทางเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงองก์แรกได้ดีในระดับนึง พอเข้าช่วงองก์ 2 ที่เริ่มเกิดเหตุการณ์สถานฑูตถูกโจมตี เนื้อเรื่องก็เริ่มดำดิ่งสู่ความโหดร้ายไปมากขึ้นทีล่ะนิดๆ โดยผสมผสานกับแอ็คชั่นไปในตัว แต่ก็มีดราม่าเข้ามาแทรกเพื่อให้เกิดความผ่อนคลายในตัวเนื้อเรื่อง

- สำหรับแอ็คชั่นก็ยังคงตาม Signature ของเบย์จริงๆ "ระเบิดภูเขา เผากระท่อม" แต่ถือว่า มีพัฒนาการมากขึ้น ถึงแม้จะคงตาม Signature แบบจัดเต็มทุกฉาก แต่ว่า ใช้ระเบิดได้อย่างสมดุลครับ ไม่มากและไม่มากจนเกินไป ตอนดูตัวอย่าง คิดว่า มันต้องระเบิดเละเทะแน่นอน แต่พอมาดูจริงๆ ไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลย ถึงแม้ว่าจะผสมผสานแอ็คชั่นกับเนื้อเรื่องได้อย่างสมดุล แต่มันก็ยังคงบ้าคลั่งสไตล์เบย์อยู่ดีครับ

- มุมกล้องและงานภาพ เรื่องนี้ถือว่า มีมุมภาพสวยๆ พอตัวเลยครับ แตกต่างจาก Transformers ที่มีแต่ฉากแอ็คชั่นอลังๆ แต่ไม่มีภาพสวยให้น่าจดจำเลย...

- แล้วก็ เลนส์แฟลร์เรื่องนี้ มาเยอะมาก แอบนึกว่า J.J. Abrams ลงมาใส่ซะงั้น บางฉากใส่มาก็สวย บางฉากก็ไม่รู้จะใส่มาทำไม?! พอเข้าใจว่า ส่วนใหญ่ของเรื่อง แทบเป็นฉากตอนกลางคืนทั้งนั้น ก็เลยใส่เข้ามาให้ฉากมันสว่างขึ้น ตรงนี้ก็ถือว่าหยวนๆ ไปให้ เพราะตอนแรกป๋าเบย์ก็จะถ่ายทำเรื่องนี้ด้วยกล้องฟิล์ม แต่ติดปัญหาที่ว่า ฉากส่วนใหญ่ดันเป็นตอนกลางคืน เลยต้องเปลี่ยนมาใช้กล้องดิจิทัลในการถ่ายทำแทน

ถ้าให้มองโดยรวมก็ถือว่าเป็นหนังที่ดีในเกณฑ์ใช้ได้ สำหรับภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากเรื่องจริงและหนังสือ "13 Hours" ของ "Mitchell Zuckoff"

ซึ่งเนื้อเรื่องมีพอประมาณให้เข้าใจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนที่จะเข้าสู่ฉากแอ็คชั่นแบบสงคราม อาจจะไม่บ้าระห่ำถึงขนาด Transformers แต่ก็ยังคงสนุกใช้ได้เลยครับ 


Review By : T.J. @ T.J. Movie Review

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

掟上今日子の備忘録。(Okitegami Kyoko no Biboroku) สมุดบันทึกความทรงจำของ โอคิเตะงามิ เคียวโกะ

            ก่อนจะเริ่มต้นวิจารณ์หรือวิเคราะห์ดีล่ะ เลือกไม่ถูก ถ้างั้นใช้เป็นว่า วิเคราะห์ น่าจะเหมาะสมที่สุดล่ะ ต้องขอบอกก่อนว่า ไม่ได้ตามดูซีรี่ส์จากทางฝั่งญี่ปุ่นมานานมากประมาณเกือบ 3 ปีได้ หลังจากซีรี่ส์ “Ando Lloyd - A.I. Knows Love ?” แล้วช่วงนี้ประจวบเหมาะกับไม่มีอะไรดู (เหรอ ? ) เลยลองมานั่งหาซีรี่ส์จากทางญี่ปุ่นดูบ้าง เปลี่ยนแนวจากที่ปกติเดิมจะดูแต่ซีรี่ส์ภาพยนตร์จากทางอเมริกาซะส่วนใหญ่ และ Okitegami Kyoko no Biboroku. เพื่อนก็แนะนำมาตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วก่อนซีรี่ส์จะจบด้วยซ้ำ (ตอนนั้น ฉายไป 8 ตอน ซีรี่ส์มีทั้งหมด 10 ตอน) เขาดูกันไปจะเกือบปีล่ะ ตัวเองพึ่งจะมานั่งดู หยิบขึ้นมาดูเท่านั้นแหละ กลายเป็นติดใจจนเลิกดูไม่ได้ นั่งดูอยู่บนห้องมันทั้งวันนี่แหละครับ ฮา

Review : Detective Conan EPISODE “ONE”

Review : Detective Conan EPISODE “ONE” Score : 8.5/10 "เสริมเนื้อเรื่องได้ดี ดูเพลิน สนุกมาก ตัวละครมากันพร้อมหน้า ใครที่เป็นแฟนโคนันฟินแน่..." “ยอดนักสืบจิ๋ว โคนัน EPISODE “ONE” กำเนิดยอดนักสืบจิ๋ว” เป็นอนิเมะตอนพิเศษที่นำเอาตอนที่ 1 ของโคนัน มาขยายเรื่องราวเพิ่มขึ้น ว่าตัวละครแต่ล่ะตัว ทำอะไรอยู่ที่ไหนอย่างไรบ้าง และมีเนื้อเรื่องบางส่วนที่ขยายเรื่องราวนอกจากตอนที่ 1 มาด้วย ซึ่งฉายไปเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม ที่ผ่านมาในประเทศญี่ปุ่น และบ้านเราก็ได้เข้าฉายในโรงภาพยนตร์วันที่ 22 ธันวาคม ครับ แต่ก่อนหน้านั้น ก็สามารถชมได้ทาง iFlix ตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม ถือว่า ฉายห่างจากญี่ปุ่นแค่ประมาณ 1-2 อาทิตย์เอง

รวมข่าวทั้งหมดของ "Supergirl Season 2" และสิ้นปีนี้เตรียมพบ Big Event ของ DC Super Heroes ในช่อง The CW

หลังจากช่วงกลางเดือนที่ผ่านมาได้มีการ  ยืนยัน! "Supergirl" ย้ายจากช่อง CBS ไป CW พร้อมทีมนักแสดงกลับมาครบชุด  ก็ได้มีข้อมูลใหม่เพิ่มเติมออกมา พร้อม Teaser อย่างเป็นทางการ ว่าสิ้นปีนี้เตรียมพบกับการเปลี่ยนแปลงของ "Supergirl" โดยการย้ายมาฉายในช่อง The CW นั่นเอง